หลังจากบันทึกออนไลน์ทีี่เก่าพังไป ฉันไม่เคยเล่าเรื่องฉ่ำอีก อาจเพราะใช่ เราวนเวียนในสถานะที่ไม่ชัดเจน ไม่ใช่แค่เธอหรอก ฉันเองก็รู้ว่า ฉันไม่แน่ใจที่อยากจะมีสถานะหรือเปล่า หรือ ฉันชอบแบบที่เรากำลังเป็นอยู่แบบนี้ ครอบครัวเธอรู้จักฉัน เพื่อนเธอรู้จักฉัน เราพบกัน วันเว้นวัน คุยกันทุกวัน เธอปรึกษาฉันได้เกือบทุกเรื่อง ฉันไม่ได้ขออะไรจากเธอมากไปกว่าบางเรื่องที่ผู้หญิงพึงให้แก่คนที่คบหา บางที ฉันก็กลัวว่า ถ้าเราชัดไปมากกว่านี้ ระหว่างเราอาจมีใครคนใดคนหนึ่งเป็นฝ่ายอึดอัด ฉันไม่เคยกลัวที่จะเป็นฝ่ายถูกทำร้าย มันคงแย่กว่ามาก ถ้าคนๆนั้น กลายเป็นฉัน
ฉันที่ไม่เคยรอดพ้นเวลาเริ่มจริงจังกับคนรัก ฉันที่มักเพิกเฉย ฉันที่มันชินชา ฉันที่ไม่เคยเข้าใจความต้องการของคนรัก วันนึง หากสถานะของเราชัดเจนขึ้น คนผิดหวังจะเป็นฉันหรือเธอกันนะ เพราะงั้น ปล่อยให้มันคลุมเครือ แต่อิ่มเอิมใจแบบนี้ดีอยู่แล้ว การที่ฉันบอกเธอว่า ไว้เราคอย พรบคู่ชีวิตออกก่อนก็ได้ ค่อยมาตกลงว่า เราอยากจริงจังอยู่หรือเปล่า บ่อยๆ เวลาฉันพูดเรื่องนี้ เธอจะเป็นฝ่ายเครียด ผิดกับพวกเพิ่อนทางฝั่งฉัน ที่พวกมันออกจะแน่ใจว่า พรบคู่ชีวิตสำหรับความรักแบบพวกเรา ยากไกล ห่างไกลในความเป็นไปได้เหลือเกิน อย่างน้อยที่สุด อาจไม่ใช่ในสิบปีนี้ก็ได้
" ถามอะไรหน่อยสิ ทำไมพี่รู้ทุกเรื่องของหนู ทั้งจากที่หนูบอกและคนอื่นบอก ทำไม พี่ถึงไม่เคยถามหนูบ้าง แบบ เรื่องนี้คืออะไร เรื่องนี้ตกลงเป็นยังไง?"
ฉันบอกเธอว่า บางเรื่องฉันก๋็รอเธอเล่า เคยไหม รอให้ใครพูดความจริงขึ้นมาเสียที เพราะฉันเคย ฉันถึงกลายเป็นคนใจเย็นในการจะรอฟังหลายๆอย่าง และ ถ้าบางเรื่อง ฉันถามเธอ แล้วเธอต้องโกหก ฉันเองก็ไม่ใช่ว่าจะรับมันได้ สู้ไม่ถามมันกับเธอเสียดีกว่าไหม? ฉันไม่อยากฟังคำโกหก และรุ้ว่าเธอเองคงลำบากใจที่ต้องมานั่งโกหก เพราะงั้น พร้อมอยากเล่าเรื่องไหนก็ค่อยๆเล่า
" อย่างงี้ก็คิดว่าทุกเรื่องที่ถามหนู หนูโกหกพี่ "
นั่นไง สถานการณ์แบบนี้ไงที่ฉันไม่ชอบมันที่สุด สถานการณ์หาเรื่องให้มีปัญหา สถานการณ์เรื่องไม่เป็นเรื่อง ชวนให้ต้องมาหงุดหงิดกันทั้งคู่ ถ้าถามแปลว่าฉันคิดว่าฉันโอเคกับคำตอบสิ ถ้าฉันถาม แปลว่าฉันมั่นใจว่าเธอจะไม่โกหกสิ ทำไมไม่คิดงี้ละ ทำไมกลายเป็นไอ้ที่ถาม ตัวเองโกหก? หรือว่าจริงๆ เคยโกหก? ๕๕๕๕๕๕ เห็นมะ มันเท่านี้เอง และที่สำคัญ ฉันไม่อยากให้บรรยากาศระหว่างกัน น่าเหนื่อย หรือน่าอึดอัด ฉันทำงานเหนื่อย อยากพัก เธอเองดูแลคนในครอบครัว พูดกับฉันเพราะอยากพัก เราต่างก็ต้องการที่สบายใจเหมือนๆกัน แล้วทำไมต้องทำให้มันน่าอึดอัดละคะ??
" หนูแค่แปลกใจ ที่พี่เลือกทำเฉยๆ ไม่เคยถาม ไม่เคยสงสัย "
ฉันไม่ได้เป็นคนเย็นอะไรขนาดนั้นหรอกเธอ ฉันแค่ ผู้หญิงอายุเฉียดสี่สิบ ใช้ชีวิตคู่มาหลายหน ใช้ชีวิตโสดมาเป็นสิบปี ฉันแค่เข้าใจความต้องการตัวฉันเอง ว่า ตรงไหน ที่ฉันจะเหนื่อยกับมันอย่างพอดี ฉันชอบที่เราต่างมาจากครอบครัวใหญ่ เธอมีคนแก่ในบ้าน มีแม่ มีหลานๆ ที่ต้องวุ่นวายเอาใจใส่ เหมือนกัน ถึงฉันไม่มีคนแก่ในบ้าน แต่พ่อกับแม่ฉันก็ย่างวัย 70 หลานเล็กๆ 2 คน น้องชายที่ต้องการเริ่มต้นใหม่ น้องสะใภ้ที่ใช้ชีวิตห่างจากสามีคือน้องชายแท้ๆของฉัน เราต่างมีความรับผิดชอบ ถ้าวันนึงฉันเรียกร้องเวลากับเธอมากไป เธอก็คงรำคาญ หรือถ้าฉันรู้จักเธอหมดโดยการเอาแต่ถามๆๆ มันไม่ดูน่าเซ้าซี้ไปหรือ?? เธอไม่ได้รีบไปไหน ฉันเอง ก็ happy กับการค่อยๆได้รู้จักเธอแบบนี้ การค่อยๆได้เรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ไม่ได้เหนื่อยไม่ใช่หรือ เราไม่ได้รีบไปไหนใช่ไหม?
เพียงแต่ อนาคต หากฉันเลือกจะไปจริงจังกับใคร คนไหนอื่น ขอให้เธอเข้าใจฉัน มันอาจแปลว่า ฉันอยากจริงจังกับเธอ และเธอไม่พร้อม หรือมันอาจแปลว่า เธอเองก็เลือกจะมีใครที่ถูกต้องอย่างที่สังคมไทยว่าไว้ ผู้หญิงควรมีสามี เมื่อถึงวันนั้น เธอต้องเข้าใจว่า ท้ายที่สุด ฉันก็จะไม่ใช่พี่ที่แสนดีอย่างที่เธอต้องการ ไม่มีใครเป็นคนแสนดี โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนหรอก น้อยทีสุดของการหวัง ก็คือการหวังให้ตัวเราเองมีความสุข และถ้าอนาคต ความสุขของฉันจะไม่ใช่เธอ เธอจงเข้าใจในการเมินเฉย เช่นกัน ในอนาคต หากเธอมีใคร และหากฉันรับได้ เธอจะยังมีฉันอยู่เสมอ เพียงแค่ มีใครทำแบบนั้นได้จริงหรือ?
" วันนั้นหนูคงเสียใจน่าดู คงรู้สึกเหมือนเจ้าหญิงที่ตกกระป๋อง เคยมีพี่ดูแลทุกอย่าง รับฟัง แก้ปัญหา คุยทุกๆเรื่องด้วย "
ไม่จริงหรอก พอถึงวันนั้น เธออาจจะกลายไปเป็นเจ้าหญิงของคนอื่นแล้วก็ได้
:_)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in