“ที่จริง คดีนี้ยังมีปัญหาอีกอย่าง คือ เรื่องของผู้หญิงสองคนที่อยู่ในร้านขายของเก่าของมิสเตอร์พ็อตต์”
ดร.ฟอล์กเนอร์ที่กำลังก้มหน้าเช็คอีเมล์ในโทรศัพท์มือถือของตัวเองเงยหน้าขึ้นมามองผม “สารวัตรหมายถึง มิสซิสพ็อตต์กับเจนนี่ สาวใช้ของเธอที่มาขอเข้าไปเก็บของในร้านใช่ไหมครับ”
ผมพยักหน้า ความจริง นี่ไม่ใช่หน้าที่ของแพทย์นิติเวชที่จะต้องวิเคราะห์ แต่ผมอดคิดไม่ได้ว่า เขาน่าจะมีคำตอบที่น่าสนใจบางอย่างที่ผมอาจคิดไม่ถึง
อัลฟ่าคนอื่นอาจนึกขันหรือไม่เห็นด้วยกับการพึ่งพาความคิดเห็นของโอเมก้าที่ถูกมองว่าอ่อนไหวและมีวิจารณญาณในการตัดสินใจน้อยกว่าจนไม่สามารถทำงานสืบสวนหรือปราบปรามได้ แต่ผมไม่เชื่ออย่างนั้น เพราะคนที่อยู่ข้างผมได้พิสูจน์แล้วว่า เขาไม่มีลักษณะเช่นนั้น และผมมีความเชื่อว่า โอเมก้าด้วยกัน น่าจะเข้าใจและสามารถโน้มน้าวให้โอเมก้าคนอื่น ๆ รับฟังและยอมเล่าสิ่งที่พวกเขาหรือเธอไม่กล้าบอกกับคนในชนชั้นทางเพศอื่น อย่างอัลฟ่าหรือเบต้าก็เป็นได้
“เจนนี่ เมนโดซ่า สาวใช้ของพวกเขา พำนักอยู่ในสหราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และใช้วีซ่าผิดประเภท เธอเข้าเมืองมาโดยวีซ่านักเรียน แต่เมื่อวีซ่าหมดแล้ว เธอไม่ได้กลับออกไปในเวลาที่กำหนด นับจากวันที่วีซ่าหมด เธออยู่อย่างผิดกฎหมายมาประมาณสี่เดือนแล้ว...” ผมบอก “แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น คือ เธอเป็นโอเมก้าที่กำลังตั้งครรภ์”
“การที่เธออยู่ในอังกฤษเพื่อทำงานโดยใช้วีซ่าผิดประเภท และอยู่ต่อหลังหมดวีซ่าแล้วโดยที่ไม่มีใครจับได้จนกระทั่งวันที่เจมส์ พ็อตต์ตาย มีความเป็นไปได้สูงมากว่า เธอแทบไม่ได้ออกไปไหน รู้จักคนแค่ในวงแคบ และคนที่เธอรู้จักอาจไม่รู้ว่า เธอเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้สินะครับ”
ข้อสันนิษฐานของโทเบียส ฟอล์กเนอร์ไม่แตกต่างจากสิ่งที่ผมคิดไว้ในใจเลยสักนิด
“ใช่ครับ คุณหมอ นั่นทำให้คดีนี้ยุ่งยากขึ้นไปอีก เพราะเราคาดว่าประกาศนียบัตรด้านภาษาที่เธอได้รับอาจมาจากสถาบันที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเกี่ยวข้องกับการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เพราะเธออ่านและพูดภาษาอังกฤษได้แค่ระดับพื้นฐานเท่านั้น ไม่ใช่การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารขั้นสูงตามที่ระบุ เธอจึงอาจเป็นทั้งเหยื่อและผู้ที่ทำผิดกฎหมายคนเข้าเมือง นี่ยังไม่นับเรื่องที่เธอท้องอีกนะ”
“เธอท้องได้กี่เดือนแล้วครับ” เขาถามต่อ สีหน้าที่เคยนิ่งเฉย ซึ่งเป็นสีหน้าปกติของเขามีอารมณ์บางอย่างก่อตัวขึ้น และแววตาของเขาดูครุ่นคิดมากกว่าเก่า “และอีกเรื่องหนึ่ง มิสซิสพ็อตต์มีเพศรองเป็นอะไร”
“เจนนี่ท้องได้ประมาณสี่เดือน เป็นระยะเวลาเท่ากับที่เธออยู่อังกฤษมาโดยวีซ่าหมดอายุ” ผมตอบ “คลาร่า พ็อตต์เป็นโอเมก้า แต่มีอะไรบางอย่างที่แปลกอยู่… เธอมีกลิ่นของโอเมก้าก็จริง แต่เบาบางผิดปกติ เกือบจะใกล้เคียงกับเบต้า และสามีภรรยาพ็อตต์อยู่ด้วยกันมาเป็นสิบปีโดยไม่มีลูกแม้แต่คนเดียว”
“โอเมก้าหญิงมีโอกาสท้องได้มากกว่าโอเมก้าชายหลายเท่า เพราะโอเมก้าชายจะท้องได้เฉพาะช่วงฮีทที่มีระยะเวลาสั้น ๆ ไม่กี่วันไม่กี่รอบต่อปีเท่านั้น ในเงื่อนไขปกติ ไม่มีความบกพร่องเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ์ภายใน หรือไม่ได้คุมกำเนิด หรือฝ่ายอัลฟ่าหรือเบต้าชายที่เป็นคู่ไม่ได้เป็นหมันหรือเป็นฝ่ายคุมกำเนิด”
ดร.ฟอล์กเนอร์เอ่ยโดยไม่ได้หันหน้ามามองผม เขาก้มหน้าเหมือนมองจอโทรศัพท์ในมืออีกครั้งแต่มันมืดสนิท น้ำเสียงที่เบากว่าปกติและจังหวะพูดที่ช้าลงกว่าเคย ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ในขณะที่พูดถึงเธอนั้นเขาก็กำลังคิดถึงสถานะโอเมก้าของตนเองอยู่ด้วยเช่นกัน
“การที่เธอแต่งงานกับเจมส์ พ็อตต์ซึ่งเป็นอัลฟ่ามานานนับสิบปีโดยไม่มีลูกด้วยกัน อาจเป็นเพราะเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งที่ผมพูดไปเมื่อกี้ แต่ที่สารวัตรบอกว่า เธอมีกลิ่นของโอเมก้าเบาบางมากจนเกือบเหมือนเบต้า มีความเป็นไปได้ว่า เธออาจกินยากดฮอร์โมนมาอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ และ suppressant ที่เธอใช้อยู่อาจได้มาอย่างผิดกฎหมาย เพราะการใช้ suppressant ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ และต้องมีใบสั่งยา เพราะมันมีผลข้างเคียงต่อร่างกายค่อนข้างมาก...”
เขาเคยผ่านความทุกข์ทรมาน เพราะการใช้ยาประเภทนี้อย่างต่อเนื่องมาแล้ว และรู้ว่ามันทำให้สภาพร่างกายแปรปรวนได้มากแค่ไหน... เขาไม่ได้พูด แต่สายตาที่ผมเห็น เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมามองผมแวบหนึ่งบอกกับผมเช่นนั้น
แม้จะอยากปลอบใจ แต่ในเวลาไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงที่เราอยู่ด้วยกัน ผมมองออกว่าเขาไม่ใช่คนที่จะเผยความอ่อนแอของตนเองออกมาง่าย ๆ และไม่ต้องการความเห็นใจจากผู้ใดทั้งสิ้น เพราะมันทำให้เขารู้สึกแย่ลงมากกว่าจะดีขึ้น สิ่งที่ผมทำได้ คือ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และให้เขาได้ทำสิ่งที่ต้องทำ รับฟังเขาออกความเห็น และทำให้เขาได้เห็นว่ามีคนที่ต้องการใช้ความสามารถของเขาอยู่ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องแสร้งทำ เพราะผมเชื่อในตัวเขาอย่างแท้จริง
“ผมอดคิดไม่ได้ว่าเธอใช้มันเพื่อกันไม่ให้เขาเข้าหา เพราะเธออาจไม่ได้รักสามีของตัวเอง แต่ที่อยู่ด้วยกันมาถึงทุกวันนี้ เพราะเธอพลาดบอนด์กับเขาโดยที่เธอไม่เต็มใจ และยังมีผลประโยชน์ร่วมกันอยู่”
ความเห็นของผมทำให้เขาหันมาหาเลิกคิ้วน้อย ๆ เหมือนไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดพวกนี้ออกมาจากปากของเชปชิฟเตอร์ที่เป็นอัลฟ่า สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในระดับสูงสุดของสังคมกำลังแสดงความเห็นใจโอเมก้าหญิง และขอความเห็นจากโอเมก้าชายที่มีสถานะในลำดับล่างสุดของสังคมที่เราอยู่ในเวลานี้ แต่ท่าทีของเขาไม่ได้บ่งบอกถึงความประหลาดใจเมื่อคำพูดเหล่านั้นออกมาจากปากของผม
แม้จะไม่พูดสิ่งใดแต่ผมรู้ว่า เขารับรู้ว่า ผมเข้าใจในสิ่งที่เขาคิดและรู้สึก อีกทั้งเข้าใจด้วยว่าการที่โอเมก้ามีความสัมพันธ์กับอัลฟ่าอาจไม่ได้เกิดจากความยินยอมพร้อมใจเสมอไป และในบางครั้ง การบอนด์ หรือการผูกพันธะระหว่างอัลฟ่ากับโอเมก้าในการเมท โดยที่อัลฟ่าเป็นฝ่ายกัดบริเวณหลังคอหรือข้างลำคอซึ่งเป็นตำแหน่งของต่อมกลิ่นและจุดที่ผลิตฟีโรโมนของโอเมก้าเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของและทำให้โอเมก้าตกเป็นของอัลฟ่าคนนั้นไปจนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง หรือมีอัลฟ่าคนอื่นมากัดซ้ำ บางครั้งก็เป็นเหมือนโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งโอเมก้าที่ถูกบอนด์คนนั้นให้ตกนรกไปเกือบตลอดชีวิต เหมือนกับที่แฟนนี่ น้องสาวที่เป็นโอเมก้าของผมเคยเผชิญมาแล้ว ก่อนที่ความตายของอัลฟ่าที่เป็นพ่อของโลเวลล์ หลานชายของผมจะปลดปล่อยเธอกับลูก ที่ยังไม่รู้ว่ามีเพศรองเป็นอะไร ให้เป็นอิสระอีกครั้ง
“มีเรื่องหนึ่งที่ผมนึกได้และอยากถาม” ดร. ฟอล์กเนอร์เอ่ยขึ้น ขณะสอดโทรศัพท์มือถือกลับลงไปในกระเป๋าเสื้อโค้ต “ในกรณีนี้ เจนนี่เป็นผู้ต้องหาในคดีลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย แต่เธอไม่ได้ไปอยู่ที่ยาร์ลส์วู้ดอย่างที่ผู้ต้องหาที่เป็นโอเมก้าคนอื่นต้องไป มีใครช่วยประกันตัวเธอออกมาหรือครับ"
“คลาร่า พ็อตต์เป็นคนประกันตัวเธอออกมา ด้วยเหตุผลว่า เธอไม่อยากให้เจนนี่ที่กำลังท้องไปอยู่ที่สถานกักกันผู้ต้องหาที่เป็นโอเมก้าและเบต้าหญิงในคดีลักลอบเข้าเมือง” ผมตอบตามตรง “ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร การตัดสินใจของเธอเป็นสิ่งที่ดี เป็นผม ผมก็ไม่อยากให้เจนนี่ต้องไปอยู่ที่นั่นหรอก เพราะสภาพความเป็นอยู่ที่นั่นไม่ดีสำหรับบางคนที่เป็นทั้งผู้ต้องหาและผู้เสียหายในคนคนเดียวเท่าไหร่ จนถึงตอนนี้ แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีสถานที่แบบนี้อยู่ในอังกฤษ”
ถ้าผมมองไม่ผิดคราวนี้ คนที่นั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับยิ้มมากขึ้นกว่าเดิม และสายตาที่มองมายังผมทำให้ผมหายใจสะดุดไปชั่วครู่อย่างช่วยไม่ได้ แต่ต้องรีบเรียกสติให้กลับคืนมา เพราะสำนึกได้ว่าตัวเองยังคงกุมพวงมาลัยรถอยู่
“พวกเธอโชคดีที่ได้สารวัตรเป็นผู้รับผิดชอบคดี” เขาเอ่ย
“ผมเองก็โชคดีที่มีคุณหมอมาช่วยทำคดีนี้” ผมยิ้มตอบ และเอื้อมมือไปบีบมือที่วางอยู่บนตักของเขาเบา ๆ ก่อนที่จะถอนมือกลับมาที่เกียร์อีกครั้ง
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ดังกล่าว ผมคิดว่า เขาคงสัมผัสได้ว่า ผมไม่ได้ต้องการเพียงแค่ขอบคุณ แต่ยังต้องการปลอบใจ ผมไม่รู้ว่าเขายอมรับความรู้สึกอย่างหลังของผมหรือไม่ แต่อย่างน้อยที่สุด เขาก็ไม่ได้ดึงมือของเขาหนีไปจากผมตลอดเวลานั้น
To be continued....
อีกอย่างที่ดีใจคือดีใจกับคุณหมอที่มีอัลฟ่าคอยเข้าอกเข้าใจแล้วนะคะ เป็นคู่แท้ที่ดีมากจริงๆ สนับสนุนในทุกคำพูดอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซัพพอร์ตทุกกำลังใจให้ตลอดเลย คือสารวัตรเป็นคนละเอียดดีมากๆเลยอ่ะค่ะ คอยระมัดระวังทุกอย่างที่อาจมีผลต่อความรู้สึกของคุณหมอ ฮือ /ชูป้ายไฟ
เรื่องของสองสาวที่ว่าดูมีกลิ่นแปลกๆแล้วสินะคะ...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจนนี่กันแน่ แล้วตัวภรรยาเองมีเหตุผลที่จะกลบกลิ่นโอเมก้าเพราะเรื่องของบอนด์จริงหรือไม่ ถ้าจริงนี่เจ็บปวดใจเบาๆค่ะ แต่เราก็ยังไม่เดาดีกว่าว่าจะยังไง รวมถึงสาเหตุการตายด้วย ;-;
สิ่งนึงที่เราดีใจมากๆคือเวลาอ่านแล้วเข้าใจจุดประสงค์ที่คนเขียนจะสื่อนี่แหละค่า ดีใจมากๆเลยที่ได้ยินแบบนั้น ;w; ไม่หนีไปไหนหรอกค่ะ พอเห็นคุณอัพก็รีบfavเอาไว้แล้วมาตามอ่านในคอมพ์จะได้คอมเมนต์สะดวกๆ แฮ่
โฮว ขอบคุณค่ะ จริงๆ คนเราไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าใครสักคนที่เห็นคุณค่าหรอกเนอะ เล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้ดีใจได้แล้ว ถ้า ดร. เวสต์รู้คงสบายใจได้มากขึ้นเยอะเลยค่ะ ที่ฝากฝังไว้ไม่เสียเปล่า
เพราะสารวัตรอายุมากแล้ว ผ่านประสบการณ์มองเห็นอะไรมาเยอะแล้วก็ได้ค่ะ อีกอย่างนึง ในความเป็นชิฟเตอร์ คือ สัญชาตญาณของหมาที่จะรับรู้ความรู้สึกของคนได้ไว แล้วก็แสดงออกเก่งกว่าพวกแมวอย่างหมอด้วย หวังว่าจะไม่ผิดหวังที่เชียร์สองคนนี้นะคะ ^^
ฮืออออ ความเจ็บช้ำของโอเมก้าในยูนิเวิร์สนี้ คือ ประเด็กหลักของเรื่องนี้เลยค่ะ สองสาวโอเมก้าที่อยู่บ้านเดียวกันนี้จะมีอะไร แล้วเกี่ยวอะไรกับมือ กับการตายของเจมส์ พ็อตต์ที่ก็ไม่ใช่อัลฟ่าที่น่ารักเท่าไหร่หรือไม่ก็จะค่อยๆ เฉลยในอีกไม่ช้าค่ะ
เอาเป็นว่า ต่างคนต่างดีใจที่เราเข้าใจสิ่งที่ต่างคนต่างอยากสื่อก็แล้วกันค่ะ >< /ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ที่มาคุยกันตรงนี้ <3