คุณไม่มีทางรู้หรอก ว่าสุดท้ายแล้วคุณจะลงเอยกับใคร
อาจจะเป็นรุ่นพี่สมัยมัธยม
เพื่อนมหาลัย
คนที่อยู่อีกฟากนึงของโลก
หรือแม้แต่พี่ชายข้างบ้าน
สำหรับเด็กชายวัยสามขวบอย่างไลควานลินเรื่องนั้นยังเป็นสิ่งที่ไกลตัว แค่ได้รู้จักคำว่ารักจากพ่อแม่และนิทานอีสปที่ได้ฟังก่อนนอนก็เพียงพอแล้ว
ควานลินสวมรองเท้าแตะที่มีไซส์ใหญ่กว่าเท้าตัวเองหลายเท่าทำให้เดินไม่ถนัด แต่ก็ยอมเดินลากไปยังประตูรั้วเล็กๆข้างบ้านจนได้ มือเล็กเกาะรั้วแน่นพยายามเขย่งขาเพื่อมองเข้าไปยังบ้านอีกหลัง เมื่อไม่เห็นอะไรเลยจึงตะโกนออกไปสุดเสียง
“พี่แพ็ค! ยินยินมาแย้ว”
เสียงกุกกักดังขึ้นที่ขอบหน้าต่างพร้อมกับการปรากฏตัวของเจ้าอ้วนประจำซอย แบคโฮในวัยหกขวบปีนเก้าอี้ขึ้นมานั่ง ในมือมีขนมขบเคี้ยวที่พร่องไปแล้วครึ่งถุง
“ไม่ได้ชื่อแพ็ค ชื่อแบค” คิ้วขมวดเป็นปมราวกับไม่พอใจ เด็กนี่ไม่เคยเรียกชื่อเขาถูก แบคโฮไม่รู้หรอกว่าควานลินไม่ใช่คนเกาหลี แต่เคยสอนหลายครั้งแล้วทำไมไม่จำสักที
“พี่แพ็คเปิดประตูหน่อย ยินยินเปิดไม่ถึง” เสียงเล็กบ่นงึมงำพองแก้มตุ้ย
“มีอะไรมาแลก”
“ยินยินเอาคุ้กกี้ของหม่าม้ามา” ควานลินหยิบซองคุกกี้ที่ซ่อนในเสื้อออกมา ทำให้พี่แพ็คของยินยินยิ้มกว้างพอใจทันที ทิ้งถุงขนมข้างตัวแล้วปีนขอบหน้าต่างเพื่อกระโดดลงพื้น แต่ก้าวพลาดไปตัวเลยหล่นพื้นดังตุ้บ ตัวกลิ้งไปมาบนพื้นหญ้าเหมือนหมีโคอาล่า
“พี่แพ็ค ไม่เจ็บหรอ” เมื่อเห็นพี่ชายเม้มปากกลั้นน้ำตาเลยถามไถ่ รู้อยู่แก่ใจว่าพี่แพ็คเก่งจะตายกระโดดแค่นี้ไม่เจ็บหรอก
“อย่าบอกแม่พี่นะ” แบคโฮยกฝ่ามือตัวเองขึ้นดู มีรอยแผลเกิดขึ้นทั้งสองข้าง
“พี่แพ็ค น่ากลัวจังเลย”
ควานลินเอื้อมไปจับมืออ้วนที่คล้ายแง่งขิงของพี่แพ็ค เป่าลมฟู่บนแผลที่ไม่มีแม้แต่เลือด แค่เป็นรอยถลอกนิดหน่อยแต่ทำไมพี่แพ็คทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อย่างนี้
“ยินยินเป่าจนหายแล้วนะ”
“พี่จะตายมั้ย” ปากเล็กขยับมุมมิบ เขี่ยนิ้วรอบแผลไปมา
“ยินยินไม่ให้พี่ตาย”
“เอาคุ้กกี้มาก่อน”
“ได้เลย แต่พี่แพ็คห้ามตายนะ” ยินยินของพี่แพ็คยื่นซองคุกกี้ให้ มืออ้วนรับมันก่อนจะฉีกซองถุงแล้วโยนทิ้งไร้ทิศทาง งับคุกกี้รสช็อกโกแลตเข้าปากเอร็ดอร่อย
“มีขนมอะไรให้พี่กินอีกเอามาให้หมด ไม่งั้นพี่ตายแน่ๆ”
“พี่แพ็ค! ยินยินมาแย้ว”
เสียงเดิม คนเดิม ที่เดิม
นับเป็นสองเดือนแล้วตั้งแต่ครอบครัวของควานลินย้ายมาอยู่ข้างบ้าน แม่ของแบคโฮเครียดโดยไม่รู้สาเหตุว่าทำไมหลายเดือนมานี้ลูกชายตัวแสบถึงได้อ้วนเอา น้ำหนักเพิ่มจากเดิมตั้งห้ากิโลฯ ส่วนหม่าม้าของควานลินก็เครียดเพราะขนมหายไปทุกวัน ถ้ารู้ว่าต้นเหตุคืออะไรมีหวังตกใจขำแน่ ๆ
“วันนี้มีอะไรหรอ” หลังจากที่แบคโฮออกไปเปิดประตูรั้วให้ควานลินแล้วพากันวิ่งเข้าบ้าน ก็มีคำถามเดิมประจำทุกวันเอ่ยออกมา
“หม่าม้าดุยินยินว่าแอบกินขนม”
“แล้วยังไง”
“แต่ยินยินเอามาให้พี่ต่างหาก”
“ห้ามบอกหม่าม้านะ!”
“ม่ายบอก” ควานลินลากเสียงยาว ริมฝีปากน้อยเปิดกว้างกว่าปกติ แบคโฮมองรอยยิ้มนั้นแล้วเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา เด็กนั่นต้องมีแผนอะไรแน่ เห็นเงียบ ๆ แบบนั้นแต่แสบไม่เบา
“ยิ้มอะไร” แบคโฮเอื้อมมือไปยืดแก้มนุ่มจนเกือบติดมือ นึกหมั่นไส้ไม่น้อย บางทีก็อยากแกล้งโดยการหาไม้มาตีก้น
“มีอะไรมาแลก”
เด็กแสบนี่ขโมยคำพูดเขามาชัด ๆ
“ไม่มี” แบคโฮปฏิเสธทันควัน เบือนหน้าหนีแล้วแสร้งทำเป็นยุ่งอยู่กับการต่อเลโก้รถถังอยู่ ของเล่นโปรดของเด็กชายแบคโฮคือการต่อเลโก้ แต่หลายวันมานี้โครงการสร้างรถถังก็ต้องพับเก็บไป เพราะเด็กไต้หวันคนนั้นพาเขาไปเล่นอะไรไม่รู้ ทั้งก่อทราย ซ่อนแอบ หรือไม่ก็เล่นขายของ
“พี่แพ็คทำอะไรหยอ น่าสนุก” ควานลินมองกองเลโก้ตาแป๋ว
“เลโก้ เล่นมั้ย” เขารู้อยู่แล้วว่าเด็กนี่เล่นไม่เป็น แต่ก็ชวนไปแบบนั้นแหละ
“เล่นๆๆ ยินยินอยากเล่น”
“ถ้าต่อผิดต้องเอาขนมมาให้พี่ เข้าใจไหม”
“แต่หม่าหม้ายินยิ-”
“กลับบ้านตัวเองไปเลย เด็กขี้ป๊อด”
“ใจล้าย”
ควานลินยื่นปากงอนแต่ก็ก้มช่วยต่อเลโก้เงียบ ๆ งอนไปก็เท่านั้น พี่แพ็คไม่เคยง้อหรอก
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ร่างเด็กอ้วนในเสื้อกล้ามสีเหลืองนั่งจมปุกท่ามกลางกองเลโก้ท่าเดิม ต่างจากเด็กข้างๆที่เริ่มไหลตัวไปนอนกับพื้น ถึงเวลานอนกลางวันของเด็กวัยสามขวบแล้ว ควานลินหยิบจุกนมหลอกที่เตรียมไว้ใส่เข้าปากแล้วมองพี่แพ็คที่กำลังต่อเลโก้อย่างตั้งใจ
“จะเอาผ้าห่มมั้ย” แบคโฮถามเมื่อเห็นน้องลินของเขาขดตัวบนพื้น ควานลินพยักหน้ารวดเร็ว พื้นบ้านสั่นสะเทือนเป็นจังหวะการวิ่งของเจ้าอ้วน ก่อนจะกลับมาพร้อมกับผ้าห่มลายออโรร่า เจ้าหญิงนิทราตัวโปรด
ควานลินหัวเราะคิกคักพร้อมส่งสายตาล้อเลียน แบคโฮขมวดคิ้วเก๊กขรึมไม่สมกับเป็นเด็กวัยหกขวบ อันที่จริงเขาไม่ได้ชอบเจ้าหญิงขนาดนั้นแต่เพราะแม่ซื้อมาต่างหากเลยต้องจนใจใช้จนถึงวันนี้
ถึงจะยังไงก็เถอะลินลินของพี่แพ็คชอบผ้าห่มผืนนี้เป็นบ้าเลย
หลังจากวันนั้นแบคโฮวุ่นอยู่กับเลโก้รถถังจนไม่มีเวลาให้ควานลินเหมือนเคย จนเจ้าตัวเริ่มจะทนไม่ไหว ขนาดเอาขนมมาล่อแล้วยังไม่สนใจ ควานลินคงต้องใช้ไม้เด็ดในการแงะเจ้ามิชลินแก้มป่องซะแล้ว
“พี่แพ็ค! หม่าม้ายินยินกำลังหาตัวคนล้าย” แบคโฮหันมามองควานลินที่กำลังยืนกอดอกด้วยความงุนงง
“คนร้ายอะไร”
“ที่แอบกินขนมยินยิน”
“หา! จริงหรอ แล้วลินลินว่าไง” แบคโฮตาโต รีบปรี่ตัวไปหาควานลิน
ดูเหมือนว่าแผนจะสำเร็จ
“ยินยินไม่บอกว่าเป็นพี่แพ็ค”
“ดีมาก” แบคโฮยีหัวควานลินจนผมยุ่ง
“แต่วันนี้พี่ต้องไปเล่นกับยินยินนะ” คำขอของเด็กตรงหน้าทำให้แบคโฮชะงัก
“พี่ไม่ว่าง”
“งั้นยินยินจะบอกหม่าม้า”
เด็กนี่ร้ายกว่าที่คิด!
“จะให้พี่เล่นอะไร ไม่เล่นขายของแล้วนะ เบื่อ” แบคโฮพูดดัก กลับกันควานลินยิ้มกว้างขึ้นมา เอาอีกแล้ว รอยยิ้มนั่น ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ ๆ
“ยินยินอยากเล่นเป็นจ้าวชายแล้วพี่เป็นสิงโต”
“อะไรนะ”
“จ้าวชายอยากขี่หลังสิงโตคับ”
“พี่สิต้องเป็นเจ้าชาย”
“ม่ายเอาพี่เป็นสิงโตสิ หรือพี่อยากเป็นเจ้าหญิงก็ด้ายนะ” ควานลินพยักหน้างึกงัก แววตาคาดหวังเต็มที คิดมาหลายคืนแล้วว่าจะเล่นอะไรกับพี่แพ็คของเขาดี นี่คงเข้าท่าที่สุดแล้ว
“ก็ได้ ๆ เล่นในบ้านพอนะ”
“ม่ายเอาเล่นที่สะหนามเด็กเล่นสิ”
เจ้าอ้วนประจำหมู่บ้านต้องโดนล้อว่าเป็นสิงโตเจ้าป่าของควานลินตลอดชีวิตแน่!
...
..
“ลินลิน พอยางงง พี่เหนื่อยแล้ว” แบคโฮหอบแฮ่กๆ ปล่อยควานลินลงบนม้านั่ง ถึงเด็กนี่จะตัวเล็กนิดเดียวแต่ทำเอาเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว
“อ่ะ จ้าวชายจะมอบของรางวัลให้องครักษ์” เด็กวัยสามขวบที่ดูการ์ตูนมากเกินไปเรียกให้แบคโฮหันมา ลูกอมหลากสีสันเต็มมือน้อย แบคโฮยิ้มตายีคว้าลูกอมทุกเม็ดมาใส่กระเป๋ากางเกงจนตุงไปข้างนึง
“กลับบ้านดีกว่า” หลังได้ขนมแบคโฮก็จะชิ่งกลับบ้าน ขาที่เหมือนข้าวต้มมัดวิ่งออกไป ทิ้งควานลินบนม้านั่งคนเดียว พี่แพ็คนะพี่แพ็ค ได้ขนมแล้วหนีกลับบ้านเลย!
“เด็กใหม่หรอ” เด็กผู้ชายสองคนเดินมาล้อมควานลินทันทีที่แบคโฮกลับไป
“อื้อ ใครอ่ะ”
“เราชื่อจงกี่เธอชื่อไร” เด็กที่ดูสูง ๆ แนะนำตัว
“ชื่อยินยิน”
“เธอแย่งแบคโฮไปจากพวกเรา”
“ไม่ด้ายแย่ง”
“แบคโฮไม่ได้มาเล่นกับพวกเราหลายวันแล้ว”
“พี่แพ็คของยินยิน”
“ไอ้เด็กฟันหลอ! คนขี้แย่ง!”
“ไม่ด้ายแย่ง!”
ควานลินเดินหนีสองคนนั้น แต่ด้วยความที่ตัวเองเด็กกว่า เดินยังจะล้มเลย ได้แต่ถอยหลังไปเงียบ ๆ อยากจะตะโกนเรียกพี่แพ็คใจจะขาด แต่พวกนั้นต้องล้อแน่ ๆ
พลั่ก!
“โอ๊ย”
ควานลินถูกผลักให้ล้มไปกองกับพื้น หัวเข่าโดนก้อนหินจนเลือดไหลออกมา
“ลินลิน!” แบคโฮตะโกนเรียก เขากลับไปถึงบ้านแล้วแต่ลืมควานลินเลยกลับมารับแต่ก็เห็นว่าโดนพวกจงกี่กำลังแกล้งพอดี
“จงกี่ ทำไมถึงทำลินลิน”
“เด็กฟันหลอมันล้มไปเอง อ่อนแอชะมัด”
“เราเห็นว่าพวกนายทำ”
พลั่ก!
“แบบนี้”
แบคโฮผลักจงกี่เหมือนที่จงกี่ทำกับลินลินเมื่อกี้ เพื่อนที่มากับจงกี่ด้วยเห็นท่าไม่ดีหยิบก้อนหินปาใส่แบคโฮ จนโดนเข้าที่ข้อศอกเต็มเปา
“พี่แพ็ค! เลือดออก” เลือดที่ข้อศอกไหลออกมาไม่หยุดจนต้องยกมืออวบอ้วนมาปิดแผลไว้ พวกจงกี่วิ่งหนีไปแล้ว เหลือแต่พวกเขากับแผลสด ถึงอยากจะร้องไห้แค่ไหนแต่ก็ต้องฮึบไว้ เพราะกลัวลินลินจะเห็นน้ำตาลูกผู้ชาย
“ลินลินก็มีเลือด” แบคโฮชี้ไปที่หัวเข่าควานลินที่เริ่มมีเลือดซึมออกมา
“พี่แพ็ค ยินยินกลัว” ควานลินโผกอดพี่แพ็คแน่น ซุกใบหน้าบนเสื้อกล้ามเปื้อนเหงื่อ
“ไปหาหม่าม้ากันเถอะ”
โรงเรียนเริ่มเปิดเทอมแล้ว ควานลินต้องเริ่มเข้าเรียนอนุบาลในขณะที่แบคโฮขึ้นประถมหนึ่ง แต่เพราะเรียนโรงเรียนเดียวกัน จึงไปด้วยกันทุกวัน บางวันหม่าม้าควานลินไปส่ง บางวันก็เป็นแม่ของแบคโฮเอง
“พิซซ่าอาหร่อยไหมพี่แพ็ค”
“เมื่อไหร่จะเรียกชื่อพี่ถูกสักที” แบคโฮไม่สนใจคำถามของควานลิน พิซซ่าเต็มกระพุ้งแก้มทำให้เขาพูดไม่ถนัด
“พี่แพ็ค”
“แบคต่างหากเล่า! อ่ะ กินสิ จะได้โตไว ๆ” เป็นครั้งแรกที่แบคโฮยอมเสียสละของกินตัวเองให้คนอื่น แบคโฮเห็นว่าควานลินไม่ค่อยกินขนม ตัวเล็กนิดเดียว เขาไม่รู้หรอกว่าจริงๆ แล้วควานลินยกขนมที่หม่าหม้าเตรียมให้พี่แพ็คทั้งหมด โดยที่ตัวเองไม่ได้กินอะไร
“กินแล้วโตไวหรอ”
“ใช่ ดูกล้ามพี่สิ” แบคโฮยกแขนขึ้นมาเบ่งกล้าม หากจริง ๆ แล้วคือก้อนไขมัน
“โห เท่จังพี่แพ็ค”
“กินเยอะ ๆ นะ”
“จะสูงด้วยหรือเปล่า” ควานลินถามตาแป๋ว เท้าคางมองพี่แพ็คเคี้ยวแก้มตุ่ย
“ใช่สิ”
“ยินยินอยากสูงๆ สูงกว่าพี่แพ็คเลย”
“แบบนั้นไม่ได้สิ”
“ทำไมอ่ะ ก็ยินยินอยากตัวสูงๆ ปกป้องพี่แพ็คเหมือนที่พี่ปกป้องยินยินไง”
(END)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in