เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storykinda_cool_1
Childhood #โฮลิน


  • Childhood #โฮลิน
    rate : none
    couple : พี่แพ็ค & ยินยิน








    1

     

    คุณไม่มีทางรู้หรอก ว่าสุดท้ายแล้วคุณจะลงเอยกับใคร

    อาจจะเป็นรุ่นพี่สมัยมัธยม

    เพื่อนมหาลัย

    คนที่อยู่อีกฟากนึงของโลก

    หรือแม้แต่พี่ชายข้างบ้าน

     

     

    สำหรับเด็กชายวัยสามขวบอย่างไลควานลินเรื่องนั้นยังเป็นสิ่งที่ไกลตัว แค่ได้รู้จักคำว่ารักจากพ่อแม่และนิทานอีสปที่ได้ฟังก่อนนอนก็เพียงพอแล้ว

     

     

    ควานลินสวมรองเท้าแตะที่มีไซส์ใหญ่กว่าเท้าตัวเองหลายเท่าทำให้เดินไม่ถนัด  แต่ก็ยอมเดินลากไปยังประตูรั้วเล็กๆข้างบ้านจนได้   มือเล็กเกาะรั้วแน่นพยายามเขย่งขาเพื่อมองเข้าไปยังบ้านอีกหลัง เมื่อไม่เห็นอะไรเลยจึงตะโกนออกไปสุดเสียง

     

     

    “พี่แพ็ค! ยินยินมาแย้ว”  

     

     

    เสียงกุกกักดังขึ้นที่ขอบหน้าต่างพร้อมกับการปรากฏตัวของเจ้าอ้วนประจำซอย  แบคโฮในวัยหกขวบปีนเก้าอี้ขึ้นมานั่ง  ในมือมีขนมขบเคี้ยวที่พร่องไปแล้วครึ่งถุง

     

     

    “ไม่ได้ชื่อแพ็ค ชื่อแบค”  คิ้วขมวดเป็นปมราวกับไม่พอใจ เด็กนี่ไม่เคยเรียกชื่อเขาถูก แบคโฮไม่รู้หรอกว่าควานลินไม่ใช่คนเกาหลี แต่เคยสอนหลายครั้งแล้วทำไมไม่จำสักที

     

     

    “พี่แพ็คเปิดประตูหน่อย ยินยินเปิดไม่ถึง” เสียงเล็กบ่นงึมงำพองแก้มตุ้ย

    “มีอะไรมาแลก”

     

     

    “ยินยินเอาคุ้กกี้ของหม่าม้ามา” ควานลินหยิบซองคุกกี้ที่ซ่อนในเสื้อออกมา ทำให้พี่แพ็คของยินยินยิ้มกว้างพอใจทันที ทิ้งถุงขนมข้างตัวแล้วปีนขอบหน้าต่างเพื่อกระโดดลงพื้น แต่ก้าวพลาดไปตัวเลยหล่นพื้นดังตุ้บ ตัวกลิ้งไปมาบนพื้นหญ้าเหมือนหมีโคอาล่า

     

     

    “พี่แพ็ค ไม่เจ็บหรอ” เมื่อเห็นพี่ชายเม้มปากกลั้นน้ำตาเลยถามไถ่ รู้อยู่แก่ใจว่าพี่แพ็คเก่งจะตายกระโดดแค่นี้ไม่เจ็บหรอก

      

     

    “อย่าบอกแม่พี่นะ” แบคโฮยกฝ่ามือตัวเองขึ้นดู มีรอยแผลเกิดขึ้นทั้งสองข้าง

    “พี่แพ็ค น่ากลัวจังเลย”

     

     

    ควานลินเอื้อมไปจับมืออ้วนที่คล้ายแง่งขิงของพี่แพ็ค  เป่าลมฟู่บนแผลที่ไม่มีแม้แต่เลือด แค่เป็นรอยถลอกนิดหน่อยแต่ทำไมพี่แพ็คทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อย่างนี้

     

     

    “ยินยินเป่าจนหายแล้วนะ”

    “พี่จะตายมั้ย” ปากเล็กขยับมุมมิบ เขี่ยนิ้วรอบแผลไปมา

    “ยินยินไม่ให้พี่ตาย”

    “เอาคุ้กกี้มาก่อน”

    “ได้เลย แต่พี่แพ็คห้ามตายนะ” ยินยินของพี่แพ็คยื่นซองคุกกี้ให้  มืออ้วนรับมันก่อนจะฉีกซองถุงแล้วโยนทิ้งไร้ทิศทาง งับคุกกี้รสช็อกโกแลตเข้าปากเอร็ดอร่อย

    “มีขนมอะไรให้พี่กินอีกเอามาให้หมด ไม่งั้นพี่ตายแน่ๆ”

     

     

     

     

     

     

     

     

    2

     

     

    “พี่แพ็ค! ยินยินมาแย้ว”

    เสียงเดิม คนเดิม ที่เดิม

     

     

    นับเป็นสองเดือนแล้วตั้งแต่ครอบครัวของควานลินย้ายมาอยู่ข้างบ้าน แม่ของแบคโฮเครียดโดยไม่รู้สาเหตุว่าทำไมหลายเดือนมานี้ลูกชายตัวแสบถึงได้อ้วนเอา น้ำหนักเพิ่มจากเดิมตั้งห้ากิโลฯ ส่วนหม่าม้าของควานลินก็เครียดเพราะขนมหายไปทุกวัน ถ้ารู้ว่าต้นเหตุคืออะไรมีหวังตกใจขำแน่ ๆ

     

     

    “วันนี้มีอะไรหรอ” หลังจากที่แบคโฮออกไปเปิดประตูรั้วให้ควานลินแล้วพากันวิ่งเข้าบ้าน  ก็มีคำถามเดิมประจำทุกวันเอ่ยออกมา

      

     

    “หม่าม้าดุยินยินว่าแอบกินขนม”

    “แล้วยังไง”

    “แต่ยินยินเอามาให้พี่ต่างหาก”

    “ห้ามบอกหม่าม้านะ!”

    “ม่ายบอก” ควานลินลากเสียงยาว ริมฝีปากน้อยเปิดกว้างกว่าปกติ  แบคโฮมองรอยยิ้มนั้นแล้วเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา  เด็กนั่นต้องมีแผนอะไรแน่ เห็นเงียบ ๆ แบบนั้นแต่แสบไม่เบา

     

     

    “ยิ้มอะไร”  แบคโฮเอื้อมมือไปยืดแก้มนุ่มจนเกือบติดมือ นึกหมั่นไส้ไม่น้อย บางทีก็อยากแกล้งโดยการหาไม้มาตีก้น

     

     

    “มีอะไรมาแลก”

     

     

    เด็กแสบนี่ขโมยคำพูดเขามาชัด ๆ

     

     

    “ไม่มี” แบคโฮปฏิเสธทันควัน เบือนหน้าหนีแล้วแสร้งทำเป็นยุ่งอยู่กับการต่อเลโก้รถถังอยู่  ของเล่นโปรดของเด็กชายแบคโฮคือการต่อเลโก้  แต่หลายวันมานี้โครงการสร้างรถถังก็ต้องพับเก็บไป เพราะเด็กไต้หวันคนนั้นพาเขาไปเล่นอะไรไม่รู้ ทั้งก่อทราย ซ่อนแอบ หรือไม่ก็เล่นขายของ

     

     

    “พี่แพ็คทำอะไรหยอ น่าสนุก” ควานลินมองกองเลโก้ตาแป๋ว

    “เลโก้ เล่นมั้ย” เขารู้อยู่แล้วว่าเด็กนี่เล่นไม่เป็น แต่ก็ชวนไปแบบนั้นแหละ

    “เล่นๆๆ ยินยินอยากเล่น”

    “ถ้าต่อผิดต้องเอาขนมมาให้พี่ เข้าใจไหม”

    “แต่หม่าหม้ายินยิ-”

    “กลับบ้านตัวเองไปเลย เด็กขี้ป๊อด”

    “ใจล้าย”

     

     

    ควานลินยื่นปากงอนแต่ก็ก้มช่วยต่อเลโก้เงียบ ๆ งอนไปก็เท่านั้น พี่แพ็คไม่เคยง้อหรอก

     

     

    ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ร่างเด็กอ้วนในเสื้อกล้ามสีเหลืองนั่งจมปุกท่ามกลางกองเลโก้ท่าเดิม  ต่างจากเด็กข้างๆที่เริ่มไหลตัวไปนอนกับพื้น  ถึงเวลานอนกลางวันของเด็กวัยสามขวบแล้ว  ควานลินหยิบจุกนมหลอกที่เตรียมไว้ใส่เข้าปากแล้วมองพี่แพ็คที่กำลังต่อเลโก้อย่างตั้งใจ

     

     

    “จะเอาผ้าห่มมั้ย”  แบคโฮถามเมื่อเห็นน้องลินของเขาขดตัวบนพื้น  ควานลินพยักหน้ารวดเร็ว พื้นบ้านสั่นสะเทือนเป็นจังหวะการวิ่งของเจ้าอ้วน ก่อนจะกลับมาพร้อมกับผ้าห่มลายออโรร่า เจ้าหญิงนิทราตัวโปรด

     

     

    ควานลินหัวเราะคิกคักพร้อมส่งสายตาล้อเลียน  แบคโฮขมวดคิ้วเก๊กขรึมไม่สมกับเป็นเด็กวัยหกขวบ  อันที่จริงเขาไม่ได้ชอบเจ้าหญิงขนาดนั้นแต่เพราะแม่ซื้อมาต่างหากเลยต้องจนใจใช้จนถึงวันนี้

     

     

    ถึงจะยังไงก็เถอะลินลินของพี่แพ็คชอบผ้าห่มผืนนี้เป็นบ้าเลย

     

     

     

     




    3

     


    หลังจากวันนั้นแบคโฮวุ่นอยู่กับเลโก้รถถังจนไม่มีเวลาให้ควานลินเหมือนเคย  จนเจ้าตัวเริ่มจะทนไม่ไหว ขนาดเอาขนมมาล่อแล้วยังไม่สนใจ ควานลินคงต้องใช้ไม้เด็ดในการแงะเจ้ามิชลินแก้มป่องซะแล้ว

     

     

    “พี่แพ็ค! หม่าม้ายินยินกำลังหาตัวคนล้าย” แบคโฮหันมามองควานลินที่กำลังยืนกอดอกด้วยความงุนงง

    “คนร้ายอะไร”

    “ที่แอบกินขนมยินยิน”

    “หา! จริงหรอ แล้วลินลินว่าไง” แบคโฮตาโต รีบปรี่ตัวไปหาควานลิน



    ดูเหมือนว่าแผนจะสำเร็จ



    “ยินยินไม่บอกว่าเป็นพี่แพ็ค”

    “ดีมาก” แบคโฮยีหัวควานลินจนผมยุ่ง

    “แต่วันนี้พี่ต้องไปเล่นกับยินยินนะ” คำขอของเด็กตรงหน้าทำให้แบคโฮชะงัก

    “พี่ไม่ว่าง”

    “งั้นยินยินจะบอกหม่าม้า”

     

     

    เด็กนี่ร้ายกว่าที่คิด!

     

     

    “จะให้พี่เล่นอะไร ไม่เล่นขายของแล้วนะ เบื่อ” แบคโฮพูดดัก กลับกันควานลินยิ้มกว้างขึ้นมา  เอาอีกแล้ว รอยยิ้มนั่น ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ ๆ

     

    “ยินยินอยากเล่นเป็นจ้าวชายแล้วพี่เป็นสิงโต”

    “อะไรนะ”

    “จ้าวชายอยากขี่หลังสิงโตคับ”

    “พี่สิต้องเป็นเจ้าชาย”

    “ม่ายเอาพี่เป็นสิงโตสิ หรือพี่อยากเป็นเจ้าหญิงก็ด้ายนะ” ควานลินพยักหน้างึกงัก แววตาคาดหวังเต็มที คิดมาหลายคืนแล้วว่าจะเล่นอะไรกับพี่แพ็คของเขาดี นี่คงเข้าท่าที่สุดแล้ว

     

     

    “ก็ได้ ๆ เล่นในบ้านพอนะ”

    “ม่ายเอาเล่นที่สะหนามเด็กเล่นสิ”

     

     

    เจ้าอ้วนประจำหมู่บ้านต้องโดนล้อว่าเป็นสิงโตเจ้าป่าของควานลินตลอดชีวิตแน่!

     

     

    ...

    ..


    “ลินลิน พอยางงง พี่เหนื่อยแล้ว” แบคโฮหอบแฮ่กๆ  ปล่อยควานลินลงบนม้านั่ง ถึงเด็กนี่จะตัวเล็กนิดเดียวแต่ทำเอาเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว

     

     

    “อ่ะ  จ้าวชายจะมอบของรางวัลให้องครักษ์” เด็กวัยสามขวบที่ดูการ์ตูนมากเกินไปเรียกให้แบคโฮหันมา  ลูกอมหลากสีสันเต็มมือน้อย  แบคโฮยิ้มตายีคว้าลูกอมทุกเม็ดมาใส่กระเป๋ากางเกงจนตุงไปข้างนึง

     

     

    “กลับบ้านดีกว่า”  หลังได้ขนมแบคโฮก็จะชิ่งกลับบ้าน ขาที่เหมือนข้าวต้มมัดวิ่งออกไป ทิ้งควานลินบนม้านั่งคนเดียว พี่แพ็คนะพี่แพ็ค ได้ขนมแล้วหนีกลับบ้านเลย!

     

     

    “เด็กใหม่หรอ” เด็กผู้ชายสองคนเดินมาล้อมควานลินทันทีที่แบคโฮกลับไป 

    “อื้อ ใครอ่ะ”

    “เราชื่อจงกี่เธอชื่อไร” เด็กที่ดูสูง ๆ แนะนำตัว

    “ชื่อยินยิน”

    “เธอแย่งแบคโฮไปจากพวกเรา”

    “ไม่ด้ายแย่ง”

    “แบคโฮไม่ได้มาเล่นกับพวกเราหลายวันแล้ว”

    “พี่แพ็คของยินยิน”

    “ไอ้เด็กฟันหลอ! คนขี้แย่ง!”

    “ไม่ด้ายแย่ง!”

     

     

    ควานลินเดินหนีสองคนนั้น แต่ด้วยความที่ตัวเองเด็กกว่า เดินยังจะล้มเลย ได้แต่ถอยหลังไปเงียบ ๆ อยากจะตะโกนเรียกพี่แพ็คใจจะขาด แต่พวกนั้นต้องล้อแน่ ๆ

     

     

    พลั่ก!

     

     

    “โอ๊ย”

    ควานลินถูกผลักให้ล้มไปกองกับพื้น  หัวเข่าโดนก้อนหินจนเลือดไหลออกมา


    “ลินลิน!” แบคโฮตะโกนเรียก เขากลับไปถึงบ้านแล้วแต่ลืมควานลินเลยกลับมารับแต่ก็เห็นว่าโดนพวกจงกี่กำลังแกล้งพอดี

    “จงกี่ ทำไมถึงทำลินลิน”

    “เด็กฟันหลอมันล้มไปเอง อ่อนแอชะมัด”

    “เราเห็นว่าพวกนายทำ”

     

     

    พลั่ก!

     

     

    “แบบนี้”

     

     

    แบคโฮผลักจงกี่เหมือนที่จงกี่ทำกับลินลินเมื่อกี้  เพื่อนที่มากับจงกี่ด้วยเห็นท่าไม่ดีหยิบก้อนหินปาใส่แบคโฮ จนโดนเข้าที่ข้อศอกเต็มเปา

     

     

    “พี่แพ็ค! เลือดออก” เลือดที่ข้อศอกไหลออกมาไม่หยุดจนต้องยกมืออวบอ้วนมาปิดแผลไว้ พวกจงกี่วิ่งหนีไปแล้ว เหลือแต่พวกเขากับแผลสด  ถึงอยากจะร้องไห้แค่ไหนแต่ก็ต้องฮึบไว้ เพราะกลัวลินลินจะเห็นน้ำตาลูกผู้ชาย

     

     

    “ลินลินก็มีเลือด”  แบคโฮชี้ไปที่หัวเข่าควานลินที่เริ่มมีเลือดซึมออกมา

    “พี่แพ็ค ยินยินกลัว”  ควานลินโผกอดพี่แพ็คแน่น ซุกใบหน้าบนเสื้อกล้ามเปื้อนเหงื่อ

    “ไปหาหม่าม้ากันเถอะ”

     

     

     




     

    4

     

     

    โรงเรียนเริ่มเปิดเทอมแล้ว ควานลินต้องเริ่มเข้าเรียนอนุบาลในขณะที่แบคโฮขึ้นประถมหนึ่ง  แต่เพราะเรียนโรงเรียนเดียวกัน จึงไปด้วยกันทุกวัน บางวันหม่าม้าควานลินไปส่ง บางวันก็เป็นแม่ของแบคโฮเอง

     

     

    “พิซซ่าอาหร่อยไหมพี่แพ็ค”

    “เมื่อไหร่จะเรียกชื่อพี่ถูกสักที”  แบคโฮไม่สนใจคำถามของควานลิน  พิซซ่าเต็มกระพุ้งแก้มทำให้เขาพูดไม่ถนัด

    “พี่แพ็ค”

    “แบคต่างหากเล่า! อ่ะ กินสิ จะได้โตไว ๆ” เป็นครั้งแรกที่แบคโฮยอมเสียสละของกินตัวเองให้คนอื่น  แบคโฮเห็นว่าควานลินไม่ค่อยกินขนม ตัวเล็กนิดเดียว  เขาไม่รู้หรอกว่าจริงๆ แล้วควานลินยกขนมที่หม่าหม้าเตรียมให้พี่แพ็คทั้งหมด โดยที่ตัวเองไม่ได้กินอะไร

     

    “กินแล้วโตไวหรอ”

    “ใช่ ดูกล้ามพี่สิ”  แบคโฮยกแขนขึ้นมาเบ่งกล้าม หากจริง ๆ แล้วคือก้อนไขมัน

    “โห เท่จังพี่แพ็ค”

    “กินเยอะ ๆ นะ”

    “จะสูงด้วยหรือเปล่า”  ควานลินถามตาแป๋ว เท้าคางมองพี่แพ็คเคี้ยวแก้มตุ่ย

    “ใช่สิ”

    “ยินยินอยากสูงๆ  สูงกว่าพี่แพ็คเลย”

    “แบบนั้นไม่ได้สิ”

    “ทำไมอ่ะ ก็ยินยินอยากตัวสูงๆ ปกป้องพี่แพ็คเหมือนที่พี่ปกป้องยินยินไง”

     

     

     

     

    (END)

     



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in