……….
ตอนที่ 40 : ณ คฤหาสน์ #2
“นี่ถ้าจะเปิดมาเจอพวกมันทุกห้องล่ะก็นะ” ตลอดเวลาโจเอาแต่วิ่งวนไปมาอยู่เพียงแค่ชั้น4 เนื่องด้วยเหล่าซอมบี้วิ่งล่าเขาอย่างบ้าคลั่งตั้งแต่ชั้น 3 ได้ เขาพยายามเปิดหาห้องเพื่อจะหลบภัยหรือแค่พักหายใจบ้างแต่กลับกลายเป็นเพิ่มจำนวนพวกมันซะอย่างนั้น ถึงแม้ว่าจะมีทั้งปืนพกและไรเฟิลที่สะพายอยู่ ก็ล้วนแต่เป็นตัวเรียกพวกมันชั้นดีเลยถ้าเขาคิดจะใช้
โจทำได้แค่ถีบซอมบี้ที่ขวางหน้าไปชนกับตัวอื่นๆเพื่อถ่วงเวลา แต่ถ้าต้องปะทะจริงๆ ก็จะใช้มีดสั้นเข้าจัดการจุดสำคัญๆเช่น เบ้าตา กกหู ปาก คอ มันเป็นจุดที่ง่ายต่อการโจมตีสมองที่สุดเพราะไม่ต้องผ่านชั้นกะโหลกหนาๆ
แต่สิ่งที่ทำให้โจกลัวที่สุดก็คือเจ้าซอมบี้เนื้อแดงก่ำที่ปะปนมากับฝูงด้วย กริ๊ก ! เสียงบิดกลอนประตูดังขึ้น โจที่ยังวิ่งไปไม่ถึงกลับผงะตกใจเมื่อมีซอมบี้พุ่งพรวดออกมาจากห้องข้างหน้า
“มันเปิดประตูกันเป็นแล้วหรอวะ?” โจอุทานขึ้น เขาโดนดักหน้าดักหลังแล้ว
โจง้างมีดขึ้นเร่งฝีเท้าพุ่งเข้าแทงมีดทะลุคอตัวตรงหน้าก่อนรีบดึงออกอย่างไว เขาหมุนตัวกลับมาถีบซอมบี้ที่วิ่งตามมาด้านหลังกระเด็นไปชนกับกลุ่ม โจก้มหลบเอื้อมมือที่เกือบจะคว้าเขาได้อย่างหวุดหวิด ตอนนี้โถงทางเดินเต็มไปด้วยซอมบี้ ทำให้เขาไม่มีทางเลือกจัดการซอมบี้อีกตัวข้างหน้าก่อนวิ่งเข้าไปในห้องที่ซอมบี้เปิดไว้
“ว่าจะไม่ใช้แล้วเชียว” โจดึงปืนพกขึ้นมา ลั่นกระสุนไปยังพวกมันที่เข้ามาในห้องทีละตัว โจเปลี่ยนแม็กแล้วยิงต่ออย่างคล่องแคล่ว ซากศพพวกมันนอนเกลื่อนอยู่แถวประตูหลายสิบตัวแต่ก็ยังมีพวกมันถาโถมเข้ามาอีก แต่แล้วเจ้าเนื้อแดงนั่นก็ผลุบเข้ามาสำเร็จ เขาระดมยิงเท่าไหร่มันก็ไม่เป็นไรแถมยังเดินเข้ามาหาอย่างเนือยนาดราวกับว่าเขาต้องเสร็จมันแน่
เขาหยุดยิง มองไปรอบห้องที่ตนยังไม่ทันได้สังเกตมันเป็นห้องสะสมของโบราณ มีตู้ไม้ที่ข้างในเต็มไปด้วยข้าวของเก่าแก่มากมาย มีโต๊ะสี่เหลี่ยมตั้งวางเป็นระเบียบอยู่ทั่วห้อง ข้างบนมีทั้งปืนไม้โบราณ มีดสั้นที่ด้ามสลักลวดลายวิจิตรงดงาม มันถูกกระจกใสครอบไว้อย่างดีทุกโต๊ะ เจ้าห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้านี่กว้างพอสมควรทีเดียว
“เอาไงกับมันดีล่ะเนี่ย” โจคิดหาทางออก ขยับก้าวถอยหลังเมื่อพวกมันเริ่มเข้ามาเยอะขึ้น เขาเปลี่ยนแม็กปืนพกแม็กสุดท้าย คลำหาสิ่งของที่ตัวเองพกจนไปเจอเข้ากับระเบิดที่ยังมีอยู่ โจวิ่งซิกแซกไปตามตู้โชว์ เหล่าซอมบี้พลันวิ่งตาม เขาดึงสลักออก ปาไปทางประตูเข้าห้อง เสียงลูกระเบิดดังกระทบพื้นดัง ครึ่ก ครึ่ก ก่อนระเบิดดัง ตูม !
ซอมบี้นับสิบบริเวณทางเข้าโดนระเบิดร่างกระจายเป็นชิ้นๆพร้อมกับเลือดที่สาดกระเซ็นเต็มผนังและข้าวของต่างๆ ผนังแตกพังเป็นวงกว้าง กระจกตู้โชว์แตกระนาว
โจที่หลบวิถีระเบิดอยู่หลังตู้ไม้ไม่ได้ระวังตัวโดนเจ้าตัวแดงชกทะลุตู้เข้าเต็มๆ หน้า โจเซไปชนตู้ข้างหลังก่อนถีบตู้ที่มันยังไม่ได้ดึงมือออก ทับใส่ร่างมันกับพื้น เขาหันกลับไปยิงซอมบี้อีกตัวที่เข้าใกล้ กลายเป็นว่าตู้ที่รายล้อมกลับเป็นที่กำบังชั้นดีเหมือนกัน ช่วยกันเขากับพวกซอมบี้ได้เป็นอย่างดี
“โอ้ย !” อยู่ๆ ความรู้สึกเจ็บก็แปล๊บขึ้นกลางหลังโจก้มลง หมุนตัว รัวกระสุนใส่เจ้ากลายพันธุ์ที่หัวไปสามสี่นัดจนมันล้มแน่นิ่งไป
“เสียงนี้มัน...” โจได้ยินเสียงเหมือนอะไรกำลังแหวกอากาศมาทางตน “อย่าบอกนะว่า !” โจตะโกนลั่น วิ่งแหวกตู้มากมายพยายามเข้าไปอยู่ในๆห้องเข้าไว้ ก่อนจะทิ้งตัวหมอบราบกับพื้นห้อง
ตูม ! เสียงระเบิดดังกัมปนาทขึ้นสามครั้งซ้อน แรงทำลายล้างมากกว่าระเบิดที่เขาปาหลายเท่า ตัวคฤหาสน์สั่นสะเทือนราวกับจะถล่มให้ได้
ด้านหน้าคฤหาสน์โดนทำลายเป็นแนวยาวแทบทั้งชั้น กินตั้งแต่ชั้นสามเกือบถึงชั้นห้า ซากความเสียหายร่วงกราวลงสู่สนามหญ้าข้างล่าง โครงเสาต่างโดนพังทำลายแตกหัก ผนังที่ประดับประดาอย่างสวยงามกลายเป็นเพียงเถ้าถ่านสีเทาที่ลอยคว้างไปมาในอากาศพร้อมกับควันไฟที่ลุกโหมกระหน่ำไปทั่วทั้งอาคาร เหล่าซอมบี้ในคฤหาสน์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนล้มตายไปกับกองเพลิง
“บ้าชิบ” โจโอดครวญอยู่ใต้ซากไม้และกระจกที่แตกเป็นชิ้นๆทั้งห้องเละไม่เหลือเค้าเดิม วัตถุโบราณที่เจ้าของเก็บไว้อย่างดีแตกหักเสียหายร่วงกระจายไปตามพื้นห้อง เศษกระจกแตกเกลื่อนพื้นพรมสีแดงเลือดหมู ไฟฟ้าทั้งตึกพลันดับลง เกิดความมืดมิดขึ้นมาทันที
แต่เจ้าตัวแดงมันก็ยังไม่ตายจากแรงระเบิด คงเพราะมันอยู่ข้างในห้อง เกือบใกล้ๆ เขาด้วยซ้ำ โจผลักซากไม้น้อยใหญ่ออกจากตัว เคลื่อนไรเฟิลที่สะพายไว้กับตัวมาถือขณะลุกขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลน โจหยิบปืนสั้นไม่ทันแล้ว เพราะมันกระเด็นไปไกลเกินเอื้อม
เขาส่องกล้องเล็งไปยังหัวมัน ปัง ! หนึ่งนัดเข้าอย่างจัง มันกระเด็นไปตามแรง นัดที่สองตามติดๆมันล้มลงกับพื้น โจวิ่งไปหยิบเอาปืนสั้นที่พื้นขึ้นมากระหน่ำยิงเข้าทีหัวมันอย่างบ้าคลั่งจนหมดแม็ก สภาพหน้ามันคงไม่ต้องพูดถึง อันที่จริงแทบจะไม่เหลือหัวแล้วก็ว่าได้
ปัง ! โจได้ยินเสียงปืนดังขึ้นข้างนอก แต่เขาไม่สามารถมองได้เพราะยังมีเปลวเพลิงที่ลุกสูงกั้นไว้ เขาใจชื้นขึ้นคิดว่ามีคนมาช่วยแล้ว โจเดินข้ามศพเจ้าตัวแดงอย่างระมัดระวัง ยังไม่แน่ใจว่ามันตายจริงรึเปล่า แต่แล้วก็หยุดลงก้มหยิบกระเป๋าที่ไม่รู้มาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรโจเริ่มควานหาไฟฉายอยู่ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงเพลิงไหม้เป็นแสงนำทางแก่ตน
แฮ่ ! โจหันตัวไปตามเสียงด้วยความตกใจ ฉึก ! แต่ก็ดูเหมือนจะสายไป เขาโดนเจ้ากลายพันธุ์ที่เขาคิดว่าตายไปแล้ว มันเสียบกรงเล็บแหลมของมันเข้าที่ช่วงท้อง ดีที่เขายังไหวตัวทันปล่อยกระเป๋าลงแล้วคว้าเอาข้อมือมันเพื่อหยุดก่อนที่กรงเล็บมันจะเสียบเข้าไปลึกกว่านี้
“ไอ้ บ้า เอ๊ย !” โจสบถยกขาขึ้นถีบมันเซไปข้างหลัง โจเอามือซ้ายกุมบาดแผลห้ามเลือดก่อนวิ่งเข้าถีบมันอีกครั้ง มันกระเด็นแรงกว่าเดิมก่อนล้มลงโดนแง่งไม้ที่โผล่ขึ้นมาจากซากปรักเสียบเข้ากลางลำตัว
โจเดินโซซัดโซเซเหมือนจะหมดสติในไม่ช้า เขาเสียเลือดไปมาก ครั้งแรกก็ที่แขน ตามมาที่กลางหลัง คราวนี้หนักขึ้นอีก โดนแทงจังๆ ไหนจะระเบิด โจก้มลมอย่างยากลำบาก หยิบไฟฉายที่หล่นออกมาจากกระเป๋า ก่อนหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายเพราะมันยังมีกระสุนสไนเปอร์ที่ตนสะพายไว้อยู่ เขาเดินหลบซากสิ่งของต่างๆ ไปยังทางเข้าที่โดนระเบิดกลายเป็นวงกว้างโจเริ่มรู้สึกว่ากำลังโดนรมควันช้าๆ เขาไอแค่กๆไม่รู้จะเอามือห้ามเลือดหรือปิดหน้าดี
แสงไฟฉายสามลำแสงที่ส่องไปมาราวกับกำลังหาอะไรสักอย่างข้างหน้าเป็นความหวังเดียวที่จะพาเขาออกไปจากตรงนี้
“นั่น !” เสียงผู้หญิงที่คุ้นเคยดังขึ้นไม่ไกลจากโจมากนัก
“อะ...ลิซ” โจพยายามเค้นเสียงเรียก ก่อนทรุดฮวบลงกับพื้น ยังไม่ทันจะก้าวออกจากห้อง
“โจ !” อลิซวิ่งพรวดเข้ามาทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นโจที่เนื้อตัวโชกไปด้วยเลือด รอบบริเวณเต็มไปด้วยซากศพซอมบี้เกลื่อนกลาด
..........
“พาคนเจ็บทั้งหมดมาไว้ตรงนี้เร็วเข้า !” อ๋องสั่งลูกทีมขณะที่ตนกำลังหามชายคนหนึ่งที่โดนลูกหลงจากระเบิดเมื่อกี้เข้า ชาวบ้านโดนพวกซากปูนที่แตกร่วงหล่นทับบาดเจ็บหลายสิบคน บางคนก็ตายอยู่ใต้ซากความเสียหาย ทั้งอาคารพลันมืดสนิทเมื่อแสงไฟดับลง
“พวกนั้นจะรอดมั้ยล่ะเนี่ย” เอิร์นพูดขึ้น วางคนเจ็บอย่างเบามือบนพื้นสนามหญ้ารอบบริเวณรถที่กั้นเป็นอาณาเขตเฝ้าระวังซอมบี้
“พวกนั้นก็ฝึกมา คงจะมีดีติดตัวบ้างล่ะน่า” เปาตอบ
“พวกนายสี่คนคงต้องพาลูกทีมไปจัดการเจ้าตัวการที่ยิงจรวดเข้ามา” นอร่าสั่ง
“ก็ต้องยังงั้นแหละ” อ๋องว่า เรียกลูกน้องมือดีออกมาห้าหกคนให้ไปกับพวกตน
ริกเดินไปสตาร์ทรถเตรียมออกลุย ลูกทีมและพวกเอิร์นต่างพากันขึ้นรถอย่างรู้หน้าที่
“ฝากทางนี้ด้วยนอร่า” ริกกล่าวก่อนถอยรถออกไป หมุนเลี้ยวก่อนมุ่งหน้าสู่ทางออก ทางนี้เหลือเพียงนอร่าและหน่วยจู่โจมสิบกว่าคนที่ต้องเฝ้าระวังคอยคุ้มกันชาวบ้าน
“เฮ้อ ! วุ่นวายกันซะจริง” นอร่าบ่น สายตาจับจ้องไปยังเจคและวอลเทอร์ที่สู้กันราวกับจะแลกเลือดกันให้ได้
..........
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in