..........
ตอนที่ 38 : กำลังเสริม
หลังจากนอร่าอันตรธานหายไป ทั้งสามก็เดินเข้าป่าข้างทาง มุ่งหน้าสู่รถฮัมวี่ที่จอดไว้ในป่าพวกเขาค่อยๆ ย่อง เผื่อว่ามีพวกมันซุ่มโจมตี แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร จึงลงมือกันค้นหากระเป๋า
“เจอแล้ว” เอิร์นพูดขึ้น เมื่อทั้งสามช่วยกันหากระเป๋าใส่แคปซูลมาได้สักพัก
“แล้วเราจะเอามันไปไว้ไหน คงไม่หอบมันไปช่วยทางโน้นหรอกนะ” เปาถาม เพราะถ้าทำอย่างนั้นจริงได้โดนพวกมันชิงกลับแน่ และนั่นก็ไม่ใช่ทางที่ดีเท่าไหร่
“เก็บไว้ในรถก็ได้นี่ มีรถตั้งเยอะ มันไม่รู้หรอกว่าเราแอบไว้คันไหน”เอิร์นเสนอทางเลือก
“มันก็ใช่หรอก แต่ดูมันไม่ปลอดภัยไงไม่รู้สิ” อ๋องไม่ค่อยแน่ใจกับวิธีของเอิร์น
“เอาน่า พวกมันก็อยู่ตรงโน้นหมด เอาไปเก็บในรถที่เราขับมานั่นแหละ” เปาสรุป
“ไม่ต้องคิดมากเพื่อน ตราบใดที่มีพวกเราล่ะก็ของไม่มีวันหายแน่นอน” เอิร์นยืนยันก่อนหิ้วกระเป๋าเดินกลับออกทางเดิม แต่ดันชะงักงันหยุดอยู่กับที่ขึ้นมาดื้อๆ
“เกิดอะไร.....ขึ้น” อ๋องถาม ก่อนจะลากเสียงยาวเมื่อเห็นในสิ่งที่เอิร์นเห็น ทั้งสามรีบกระชับปืนในมือเตรียมตั้งรับ
ข้างหน้าปรากฏพวกกลายพันธุ์จำนวนมากขวางทางพวกเขาไว้ พวกมันเดินเข้ามาอย่างนวยนาดเหมือนว่าทั้งสามเป็นหมูในอวยไม่มีทางหนีได้
“อย่างงี้ก็แย่สิเพื่อน” เปาพูดขึ้น ปรากฏพวกมันอีกกลุ่มดักอยู่อีกทางทำให้กลายเป็นทั้งสามโดนล้อมหน้าล้อมหลังไว้เรียบร้อย
“เหอะๆ ว่าแล้ว แค่หยิบกระเป๋าแล้วกลับนี่มันง่ายไปสำหรับพวกเราสิน่า”เอิร์นพูด
“ก็ทำใจไว้บ้างล่ะนะ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นจริง” อ๋องกล่าว
“เอาไง เราจะเปิดหรือจะให้มันเปิด”เปาถาม
“ก็ต้องเปิดก่อนสิวะ !” เอิร์นพูดจบก็กราดกระสุนใส่พวกกลายพันธุ์ทันที และนั่นเหมือนไปกระตุ้นต่อมบ้าของพวกมันเข้าอย่างจัง พวกมันวิ่งรี่เข้ามาหาจากทั้งสองด้าน ทั้งสามตกใจทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยิงโต้กลับ
“เปิดก่อนๆ เป็นไงล่ะ จะโดนมันเปิดหนังหัวแล้วเนี่ย” เปาตะคอก
“ใครมันจะไปรู้เล่าว่ามันจะเป็นยังงี้” เอิร์นตะโกนตอบขณะถอยหลังหลบกรงเล็บที่กวาดขึ้นกลางอากาศ
“ขึ้นไปบนรถ !” อ๋องตะโกนบอกเพื่อน ใช้สันปืนกระแทกเข้าที่หน้ากลายพันธุ์ตัวหนึ่งตามด้วยลั่นกระสุนเข้าที่หัวปลิดชีพ แต่จำนวนมันมากเกินที่ทั้งสามจะรับมือ
อ๋องควักระเบิดแสงออกมา หมายจะทำให้พวกมันตาพร่าเพื่อถ่วงเวลา ตนดึงสลักออก ตะโกนบอกเพื่อนทั้งสองที่กำลังปีนขึ้นไปบนรถให้เตรียมตัวรับแสงแฟลชไว้ ก่อนโยนมันลงกับพื้นใต้เท้าตน
เกิดเสียง แว่บ ! ขึ้น ตามด้วยแสงสีขาวจ้า ทำเอารอบบริเวณสว่างไสวท่ามกลางกลางคืนที่มืดมิด แต่สิ่งที่ทั้งสามกับแปลกใจก็คือเสียงร้องโหยหวนของเจ้าพวกกลายพันธุ์ที่ร้องราวกับจะขาดใจตายซะให้ได้ เมื่อแสงหมด ทั้งสามกับตกอยู่ท่ามกลางควันสีขาวที่ลอยฟุ้งในอากาศ ส่งกลิ่นเหม็นไหม้โชยออกมา
“พวกมันแพ้แสง !” เปาตะโกนเมื่อเห็นอาการพวกมัน
“รีบฆ่ามันตอนที่มันใกล้จะตายนี่แหละ เร็ว !” อ๋องที่อยู่ข้างล่างคนเดียวตะโกนสั่ง ดีที่ทั้งสามต่างมีแว่นตามองกลางคืน ทำให้ยิงกระสุนกำจัดพวกมันได้อย่างง่ายดาย แต่พวกมันก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง พร้อมกวัดแกว่งเล็บอันยาวเฟื้อยของพวกมันไปมาอย่างน่าหวาดเสียว
อ๋องรีบปีนขึ้นไปยืนรวมกับทั้งสองบนหลังคารถ แต่ก็ใช่ว่าพวกมันจะปีนขึ้นมาไม่ได้ ตอนนี้พวกมันนับสิบกำลังปีนป่ายขึ้นมาจากทุกทิศรอบตัวรถ
“กระสุนเราจะพอมั้ยเนี่ย ถ้าต้องยิงอยู่อย่างนี้” เอิร์นถามขณะเปลี่ยนไปใช้ปืนฟาดพวกมันร่วงลงไปกระแทกพื้นแทนดีที่พวกตนอยู่บนรถ ทำให้พวกมันที่กำลังปีนไม่สามารถป้องกันตัวเองได้และกลายเป็นเป้านิ่ง แต่ด้วยจำนวนที่มากขนาดนี้พวกตนอาจจะเป็นฝ่ายแพ้ในที่สุด
“นั่นน่ะสิ เฮ้ย!” เปาอุทานขึ้นด้วยความตกใจเมื่อมีบางสิ่งมาคว้าที่ข้อเท้าตนจากด้านหลังพร้อมกระชากตนลงไปจากรถ
“เปา !” อ๋องและเอิร์นตะโกนขึ้นพร้อมกันเมื่อเห็นเพื่อนสนิทถูกลากลงไปต่อหน้าต่อตา
“บ้าเอ้ย !” เอิร์นสบถ กระโดดไม่กลัวตายลงไปจากรถพร้อมกับใช้สันปืนฟาดกลายพันธุ์ตัวหนึ่งจนเซถลาไปตามแรงอ๋องที่อยู่ข้างบนยิงคุ้มกันเอิร์นระหว่างวิ่งไปหาเปาที่กำลังนัวเนียกับพวกมันอยู่บนพื้นดินขรุขระของถนนข้างทาง
เปาดึงเอามีดที่เหน็บไว้ตรงต้นขาขึ้นมาแทงฉึก ! เข้าที่เบ้าตาตัวที่ขึ้นค่อมเขาอยู่ เอิร์นที่รีบโดดลงมาไม่มีเวลาเปลี่ยนแม็กจึงใช้สันปืนฟาดซอมบี้แทน ก่อนชักปืนพกขึ้นมาเป่าหัวกลายพันธุ์ตัวข้างๆที่กำลังจะเงื้อมมือฟาดกรงเล็บใส่ตน
“ลุกเร็วเข้า !” เอิร์นฉุดเปาที่นอนอยู่กับพื้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ข้างหลัง !” เปาตะโกนผลักเพื่อนออกข้าง ยิงปลิดชีพซอมบี้ที่หมายจะทำร้ายเพื่อนตน
“เร็วหน่อยสิครับเพื่อน ไม่งั้นคนที่ไม่รอดมันคือผมนะค้าบ !” อ๋องตะโกนไปทางทั้งสอง ที่ยังอยู่ท่ามกลางซอมบี้และพวกกลายพันธุ์
อ๋องตกใจเมื่อข้างๆ มีซอมบี้ขึ้นมายืนเทียบตนอยู่บนรถแล้ว เขาหันยิงไปรอบทิศอย่างอลหม่านก่อนจะโยนปืนทิ้งเมื่อกระสุนหมดชักมีดออกมา พุ่งเข้าใส่อย่างกับมันเป็นเพียงนักเลงขี้ก้างที่ใส่สนับมือเท่านั้น อ๋องเสียบมีดทะลุคอถีบตัวมันตกรถ หันมาเตะตัดขาอีกตัวล้มลง ทิ้งตัวปักมีดเข้าเบ้าตา ร่างมันแน่นิ่ง
ตอนนี้ทั้งสามวุ่นวายกับซอมบี้ที่รายล้อมจนไม่มีเวลาเหลือบไปมองที่อื่นพวกตนเปลี่ยนไปใช้อาวุธประชิดกันหมด
“ทำไรกันอยู่ ทางนี้จะตายกันหมดแล้วเนี่ย” เสียงนอร่าดังขึ้น ทั้งสามต่างได้ยินชัดเจนในหูฟัง
“ทางนี้ก็จะตายเหมือนกันเนี่ย !” เอิร์นตอบกลับไป ขณะเอี้ยวตัวหลบกรงเล็บในระยะเผาขน ดีที่ทั้งสามใส่เกราะกันกระสุน ทำให้พวกมันฟันไม่เข้า แต่ก็ต้องคอยหลบตอนที่มันคิดจะแทงเหมือนกัน ไม่มีใครคิดจะทดสอบคุณภาพชุดหรอกว่ามันรับได้หรือไม่
“แล้วนั่นมันอะไรอีกวะนั่น ! เอ่า วางไปซะแล้ว”
ปรากฏแสงไฟรถขึ้นในความมืดมาแต่ไกลเอิร์นเห็นคร่าวๆ ได้ 6 ดวง นั่นหมายความว่ามีรถกำลังมุ่งมาทางพวกตน 3 คันด้วยกัน
“พวกไหนล่ะนั่น” อ๋องถามกับตัวเอง กระโดดลงจากรถเมื่อข้างบนเต็มไปด้วยศพซอมบี้จนตนไม่มีที่ยืน “อ้าก” แต่แล้วอ๋องก็โดนเข้าจนได้ เมื่อรู้สึกได้ถึงกรงเล็บที่ฟันเข้าบริเวณหลังขาเขาทรุดฮวบลงกับพื้น หันหลังหมายจะยิงกำจัดแต่กับได้ยินเพียงเสียง แก๊ก ! ของกระสุนที่ไม่เหลือแล้ว “จบกัน” อ๋องเห็นมันเงื้อมมือขึ้น กำลังจะฟันลงมาตนคิดจะกลิ้งตัวหลบแต่ก็สายไปแล้ว
ปัง ! เสียงปืนหนึ่งนัดดังขึ้น เจ้ากลายพันธุ์ตรงหน้าล้มหงายหลังไปพร้อมกับเลือดที่กระเซ็น ทั้งสามต่างแปลกใจและสงสัยว่าใครเป็นคนยิง
“สบายดีไหมเพื่อน” เสียงหนึ่งดังขึ้นเป็นเสียงที่ทั้งสามรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“ไอริก !” เอิร์นตะโกนออกมาด้วยความดีใจเมื่อเห็นหนึ่งในเพื่อนรักโผล่ขึ้นมาพร้อมกับลูกทีมนับสิบข้างหลัง
“จัดการพวกมันให้หมด” ริกสั่งการลูกทีม
อ๋องใช้ปืนพยุงตัวลุกขึ้น เปาที่โดนลากตกลงไปกับเป็นแค่แผลขีดข่วน ตนที่อยู่เฉยๆกับโดนปาดซะเลือดโชก ลูกทีมสามสี่คนยิงกำจัดซอมบี้ที่อยู่รอบๆ อ๋องก่อนเข้ามาทำท่าจะช่วยพยุง “ไม่เป็นไร ฉันยังไหว” อ๋องตอบ ใช้ปืนสั้นยิงซอมบี้ที่ขวางหน้าตนอยู่
สถานการณ์เริ่มดีขึ้นเมื่อริกพากำลังเสริมมาช่วยได้อย่างหวุดหวิดไม่งั้นทั้งสามอาจไม่รอดก็เป็นได้
“เอาไป” ริกยื่นกล่องยาขนาดเล็กให้ อ๋องรับมาเปิดกล่องก่อนกินเข้าไปหนึ่งเม็ดอาการและบาดแผลเริ่มดีขึ้น
“ขอบใจ”
“พวกมึงสามคนนี่ก็โหดใช่ย่อยนะ ฆ่าพวกมันไปเหยียดร้อยแล้วมั้งเนี่ย” ริกพูดอย่างทึ่งๆ เมื่อเห็นกองซากศพเรี่ยราดอยู่เต็มพื้นดิน พร้อมกับเลือดที่เปรอะไปทั่ว ตอนนี้พวกมันลดน้อยลงไปเยอะ พวกนี้ถึงแม้จะโหดร้าย แต่ประเภทที่มีแค่กรงเล็บอย่างเดียวก็ไม่มีความเร็วอะไรพวกตนไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธให้เปลืองกระสุนและนั่นก็เป็นสิ่งที่หน่วยจู่โจมฝึกมาเป็นอย่างดี
“ขอบใจทุกคนจริงๆ ที่มาช่วย !” เอิร์นตะโกนก้องบอกกับทุกคนที่มาช่วยตนกับเพื่อนไว้
“ยินดีเสมอครับ !”
“พวกเราว่างอยู่แล้วครับหัวหน้า”
“มีที่ไหนลูกน้องจะปล่อยให้หัวหน้าไปตายคนเดียวล่ะครับ”
เหล่าสมาชิกหน่วยต่างขานตอบไม่ขาดสายทำให้ทั้งสามรู้สึกปลื้มและขอบคุณจริงๆ ที่มีลูกทีมที่ดีอย่างนี้ ลูกทีมที่คอยบุกน้ำลุยไฟไปพร้อมกับพวกตน ถึงแม้ว่าเส้นทางข้างหน้ามันจะอันตรายแค่ไหนก็ตาม
“ไม่เอาน่าหัวหน้า ไม่ร้องๆ” ลูกทีมคนหนึ่งแซวเอิร์น
“ใครว่าฉันร้องเล่า ไปเลย ขึ้นรถ เรามีงานต้องทำอีกเยอะ” เอิร์นรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“อะไรกันๆ เอิร์นร้องไห้รึเนี่ย ฮ่าๆๆ” เปาหัวเราะร่า ทำเอาลูกทีมพากันหัวเราะไปด้วย
“ยอมเถอะเอิร์น” อ๋องพูด เมื่อเห็นเอิร์นทำท่าจะเถียง
“เอาล่ะ เจ๊นอร่าแกรอเราไปช่วยอยู่” ริกพูดขึ้น
“โอ้ส !” ลูกทีมทั้งหมดพากันขึ้นรถอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบ
“เอาปืนมาเผื่อใช้มั้ย” เปาถามริก
“แน่อยู่แล้ว พวกนายมันชอบทิ้งปืนอยู่แล้วนี่” ริกตอบ
“ก็มันใช้ไม่ได้จะถือให้มันหนักทำไมล่ะ” เอิร์นย้อน
“เฮ้ย ! เอิร์นกระเป๋าแคปซูลล่ะ” เปาเพิ่งคิดได้ เมื่อเห็นเอิร์นเดินขึ้นรถมือเปล่า เพราะเปาเองก็ไม่ได้ถือเหมือนกัน
“อยู่บนรถแล้ว ว่าแล้วว่าต้องลืมกัน” อ๋องพูด
“โอเค งั้นออกรถได้ !” เปาขึ้นเป็นคนสุดท้ายพร้อมกับปิดประตูรถ
รถเรนจ์ โรเวอร์สีดำสามคันแล่นออกไปบนถนนมุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ที่ตอนนี้พวยพุ่งไปด้วยควันไฟและเสียงปืนที่ดังดุจเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น
..........
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in