……
ตอนที่ 28 : คนที่ 6 ปรากฏกาย
“ว่าไงเจค” เสียงที่ผมได้ยินปลุกผมจากอาการมึนงงผมเปิดเปลือกตาอันหนึกอึ้งเพื่อมองไปยังต้นเสียง ตรงหน้าผมเป็นชายหนุ่มดูสะอาดสะอ้านในชุดเสื้อเชิ้ตลายกับกางเกงยีนส์
ผมขยับท่าทางเล็กน้อยให้สบายตัวขึ้นก่อนเห็นว่าตนกำลังนั่งพิงพนักเบาะอยู่ในร้านอาหารติดริมถนนแห่งหนึ่งที่ยังมีสภาพค่อนข้างดีแต่ร่างกายผมยังไม่หายขาดจากพิษของพวกเคลโอผมนั่งอยู่ตรงข้ามกับชายที่ผมไม่คิดว่าจะได้เจออีกแล้วโดยมีโต๊ะกระจกใสคั่นกลางระหว่างเราทั้งสองคน
“คุณคือคนที่ 6 ใช่มั้ย? ” ผมถามยังไม่อยากเชื่อความคิดตนเอง
“เรียกฉันว่า พอล เถอะ” เขาตอบ
“ครับ ว่าแต่นี่ผมได้คุณช่วยชีวิตไว้อีกแล้วหรอเนี่ย” ผมถาม พอลหัวเราะ
“แค่ผ่านทางมาเจอเข้าเท่านั้นแหละ” พอลตอบ “ว่าแต่ช่วงนี้นายดังใหญ่แล้วนาฆ่าต้นแบบการทดลองไปถึง 4 ใน 7 คนเลย คงไม่คิดจะฆ่าฉันด้วยหรอกนะ” พอลถามกลับ
“ฮ่าๆ ไม่หรอกครับ ผมจะฆ่าคุณได้ไงล่ะ ไม่ได้คุณผมคงออกมาจากเคลโอไม่ได้แน่ๆ”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ว่าแต่ เอ้า! ฉันล่ะทนเห็นนายสภาพนี้ไม่ได้จริงๆ”พอลวางขวดทรงกระบอกสีขาวเล็กๆ ลงบนโต๊ะ “กินให้หมดถือซะว่าเป็นของขวัญที่ไม่ได้เจอกันนาน”
ผมรับเจ้าสิ่งที่น่าจะเป็นยากระดกจนหมดขวดมันไม่ใช่แบบเม็ดที่ผมมี แต่ผมรู้สึกได้ถึงอาการเจ็บปวดของผมที่เริ่มหายไปแขนขาเริ่มกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง หลังจากชาจนแทบจะไม่รู้สึก
“ขอบคุณสำหรับยานะครับ” ผมวางขวดเปล่าลงบนโต๊ะพร้อมกล่าวขอบคุณ
“ไม่เป็นไรหรอก แต่ฉันรู้สึกว่าบางทีฉันอาจตั้งใจมาหานายก็ได้” พอลว่า
“หมายความว่าไงครับ”
“ฉันมีบางอย่างอยากจะให้นายช่วย” พอลทำท่าจริงจังพลางโน้มตัวมาข้างหน้า
“อะไรหรอครับ” ผมถาม แต่แล้วผมก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงซ่าๆ ของคลื่นวิทยุดังขึ้นในวิทยุไร้สายของผมและได้ยินเสียงเปาพูด
“เจคๆ ! ได้ยินรึเปล่า นี่เปานะนายยังโอเคอยู่ใช่มั้ย” เสียงเปาดังขึ้น พอลปล่อยตัวพิงกับเบาะพร้อมกับโบ้ยมือให้ผมคุยตามสบายผมทำสีหน้าขอโทษเล็กน้อยพลางก้มหัวขอบคุณ
“ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว มีอะไรเปล่า ถ้าข้อมูลล่ะก็ผมได้แล้ว” ผมตอบเปา
“เรื่องข้อมูลนั่นเอาไว้ก่อนเถอะ เรามีภารกิจใหม่ต้องทำตอนนี้” เปาว่า
“ตอนนี้เนี่ยนะ” ผมถามย้ำ
“ใช่ เดี๋ยวจะมีรถฮัมวี่ของพวกเคลโอมุ่งหน้าเข้าเมืองไปทางนาย 3 คันพวกเราเดาว่ามันอาจจะขนแคปซูลที่เคิร์กผลิตไว้ นายต้องเอามันกลับมา ถ้ามีล่ะก็นะ”เปาสั่ง
“มันขโมยงานเคิร์กมาเหรอ?”
“เปล่า เคิร์กเป็นคนส่งมันให้พวกเคลโอเอง บางทีเคิร์กอาจจะทรยศ” เปาว่า
“ให้มันได้อย่างงี้สิ” ผมบ่นอย่างไม่อยากเชื่อ แต่ผมก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะท่าทีเคิร์กดูแปลกๆ อยู่แล้ว ไม่ค่อยจะสุงสิงกับใครนักตั้งแต่ผมเจอ “แล้วทำไมต้องเดาว่าแคปซูลมันมาทางผม”
“เพราะมันแบ่งอีกสามคันตามทีมสำรวจไปน่ะสิ ไออ๋องก็ดันเห็นคนขับหน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเจอเข้าอีกพวกเราเลยจะตามไปช่วยฝั่งโน้นก่อน นายคนเดียวไหวสินะ” เปาถาม
“ก็ต้องไหวอยู่แล้ว” ผมตอบ
“งั้นก็โชคดี ฉันต้องวางแล้ว” เปาว่าก่อนตัดสายไป
ผมนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ เพราะพอลก็จ้องไปที่นอกกระจกร้าน สักพักผมจึงเอ่ยถาม
“ว่าแต่คุณจะให้ผมช่วยอะไรล่ะ” ผมถามพอล
“เกี่ยวกับภารกิจที่นายเพิ่งได้รับนั่นแหละ ฉันอยากให้นายปล่อยให้พวกเคลโอให้ได้มันไป”พอลว่า
“...” ผมรอพอลอธิบาย
“อาจจะเชื่อยากนะ เพราะฉันก็ไม่มีหลักฐานด้วยแต่แคปซูลนั่นคือสิ่งเดียวที่จะทำลายระบบการทดลองของพวกเคลโอได้พวกมันจะได้เลิกเปลี่ยนมนุษย์เป็นแบบพวกเราสักที” พอลว่า
“ไม่ใช่ว่าแคปซูลนั่นจะช่วยพวกมันหรอกหรอ” ผมถาม
“พวกฉันน่ะตามสืบเคิร์กมาหลายครั้งแล้ว เลยรู้ว่าเคิร์กเป็นต้นตอของทุกอย่างที่เกิดขึ้นไอไวรัสที่ระบาดอยู่นี่ก็เป็นเพราะหมอนั่นคนเดียว แต่เหมือนกาลเวลาทำให้คนเปลี่ยนหมอนั่นมันอยากจะยุติสิ่งที่มันทำ”
“อยากกลับตัวน่ะเหรอ” ผมถาม
“คงประมาณนั้นแหละ” พอลตอบ “หมอนั่นมันเลยคิดจะทำลายระบบสายการผลิตของพวกมันซึ่งนายก็รู้ดีว่ามันเข้าถึงยากขนาดไหนและสิ่งเดียวที่เข้าไปได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยก็คือแคปซูลที่เคิร์กผลิตขึ้นด้วยความเชื่อใจในตัวเคิร์กที่ร่วมงานกันมานาน พวกมันจะไม่สงสัยแม้แต่น้อยแคปซูลจะเข้าถึงสายการผลิต และเมื่อมันเริ่มทำงานโครงสร้างหนึ่งเดียวของพวกมันก็จะถึงจุดจบ” พอลอธิบาย
ไม่ใช่ว่าสิ่งที่พอลพูดมันจะฟังดูเป็นไปไม่ได้หรอกนะแต่ถ้าเกิดมันไม่ใช่ล่ะ ถ้าเกิดพอลสำรวจพลาดขึ้นมา ว่าแต่ เขามีพรรคพวกด้วยหรอ?
“คุณคงเดียวคงตามสืบไม่ได้ทั้งหมดแน่” ผมเอ่ย
“ใช่ ตั้งแต่นายออกมาคราวนั้น พวกพิเศษกลุ่มแรกๆ ก็มีพวกที่คิดจะต่อต้านเคลโอเหมือนกันจึงพากันต่อต้านและหลบหนีออกมา แต่ตอนหลังดูท่าเคลโอจะตระหนักได้ทำให้พวกมันใส่อะไรสักอย่างเพิ่มไปในการทดลองทำให้ทุกคนที่เปลี่ยนเป็นพวกพิเศษต้องตกอยู่ใต้คำสั่งมัน” พอลว่า
“แล้วพวกคุณไม่โดนตามล่าหรือไง” ผมถาม
“อันที่จริงพวกมันไม่กล้าจู่โจมพวกเราเท่าไหร่หรอกนายคงไม่อยากปะมือกับพวกพิเศษทีเดียวเป็นสิบๆ คนหรอกนะ” พอลตอบซึ่งนั่นเป็นความจริงทีเดียวให้สู้กับพวกนั้นเป็นสิบผมขอฆ่าตัวตายดีกว่าโดนพวกมันทรมานให้ตายช้าๆ
“เอาล่ะ ! ฉันคงต้องไปแล้ว” พอลลุกขึ้นจากเก้าอี้ “นายคิดให้ดีละกันกับสิ่งที่ฉันบอกไปเพราะมันเป็นตัวกำหนดว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร”
“แล้วถ้าเป็นงั้นทำไมพวกคุณไม่ลงมือเองล่ะ” ผมถามในเมื่อกำลังคนเก่งกว่าเห็นๆ
“นายคิดว่าทั้งโลกมีแค่เคลโอกับนิวเคลโอรึไง ฉันต้องทำให้แน่ใจว่าพวกเคลโอไม่ได้มีสิ่งแอบแฝงอยู่ที่อื่นอีกนั่นล่ะหน้าที่ของพวกฉัน นายก็ควรทำหน้าที่ของนาย” พอลว่า ก่อนลุกเดินออกไปตามทางผมลุกขึ้นเดินตาม
“หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะเจค” พอลเปิดประตูร้าน เขากระโดดพรวดเดียวขึ้นไปบนหลังคาตึกฝั่งตรงข้ามก่อนจะกระโดดอีกครั้งหายลับไป
ผมยืนนิ่งอยู่ตรงประตูร้านระดมความคิดกับสิ่งที่พอลว่าไว้และสิ่งที่เปาบอก ก่อนตัดสินใจติดต่อไปหานอร่า
“ว่าไงเจค ว่าแล้วว่านายยังไม่ตาย” นอร่าทัก
“คนมันดวงดีน่ะ”
“มีอะไรให้ช่วยรึไง?” นอร่าถาม
“อยากให้หาข้อมูลปูมหลังเคิร์กให้หน่อย ฉันสงสัยว่าเคิร์กอาจเป็นสายน่ะ”
“เคิร์กเคยเป็นนักวิจัยให้พวกเคลโอมาก่อนและเป็นคนสร้างไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ตอนนี้ด้วย”นอร่าตอบกลับทันที
“หาเร็วจังนะ”
“เค้นมากับมือนี่นา” นอร่าตอบ ผมคงไม่ต้องถามว่าเธอหามาด้วยวิธีอะไร
“งั้นไม่มีอะไรและ ขอบใจมากนอร่า” ผมกล่าวขอบคุณ
“ได้เสมอ” นอร่าตอบกลับก่อนตัดสายไป
ผมเดินออกมายืนอยู่บนทางเท้าริมถนนในตัวเหลือแค่มีดสั้นทหารกับมีดยาวอย่างละเล่ม ปืนพกไม่รู้หายไปตอนไหน ผมวิ่งถีบผนังอาคารก่อนกระโจนขึ้นดาดฟ้าร้านอาหาร
เห็นกลุ่มควันไฟที่ลุกโหมกระหน่ำอยู่ถัดไปสองสามช่วงถนนพอลพาผมหลบวิถีจรวดนั่นมาแถวนี้ ซึ่งเป็นด้านที่เห็นถนนฝั่งขาเข้าเมืองพอดี ผมมองเห็นจุดสีดำเล็กๆ สามจุดกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ
“หวังว่าพอลคงไม่ได้ตั้งใจพามาปล่อยตรงนี้หรอกนะ” ผมพูดกับตัวเองเมื่อมันเหมือนกับว่าพอลรู้อยู่แล้วว่าพวกนั้นกำลังจะมา
..........
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in