ชีวิตของคนเราทุกคนไม่ต่างจากคลื่นของทะเลที่มีเดี๋ยวสงบ เดี๋ยวพายุ และสลับกันแบบนี้ไป แต่สุดท้ายแล้ว คลื่นเหล่านั้นทำให้ชีวิตของเรา เดี๋ยวมันก็ผ่านมาและผ่านไป
บางครั้ง เวลาที่เรารักใคร เราก็จะยึดติดกับคนๆนั้นมากจนคิดว่า เขาคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเราแล้ว จนเราลืมสิ่งสำคัญไปว่า คนที่เราควรรักมากที่สุดอยู่ในกระจกของเราทุกวันนั้นเอง
“ไม่ว่าเราจะรักเขามากแค่ไหน
สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างจริง”
รูปภาพนี้ ความจริงในวันหนึ่ง
และหลายครั้งที่เวลาเราเกลียดคนๆหนึ่งมาก คนนั้นเข้ามาในชีวิตเรา เข้ามาในจิตใจเรา เราต้องมองดูว่า ชีวิตคนๆนั้นจะเป็นอย่างไร ถ้าคนๆนั้นไม่ดีกว่าเรา เราคิดว่า กรรมตามสนอง แต่ถ้าชีวิตคนๆนั้นดีกว่าเราก็จะคิดว่าทำดีไม่ได้ดี
“เพราะเรากำลังอยู่ในมิจฉาทิฏฐิ
ในความเป็นจริงแล้ว ชีวิตเขาจะดีหรือไม่ดี
ก็ไม่เกี่ยวกับเราแต่ต้น
เพราะคนเหล่านั้นก็คือแค่คนนอกวง
เพราะเดี๋ยวความรู้สึกนั้นก็จะหายไป”
เปรียบดั่ง
“คลื่นกระทบฝั่งในชีวิตนี้
คลื่นมีดีกระทบฝั่งแล้ว
สุดท้ายทุกอย่างก็คงแคล้ว
จากไปแล้วลาลับไม่กลับมา”
รูปภาพนี้ สิ่งที่เรียกว่ายั่งยืนคือการเปลี่ยนแปลง
ในวันหนึ่งๆมีความรู้สึกที่กระทบเข้ามาในความรู้สึก ในใจเรามากมายไม่ว่าเป็นความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ รักหรือชัง แต่สุดท้ายแล้ว หากเราสังเกตดีๆ ความรู้สึกเหล่านั้น มันจะหายไปเอง ดังนั้น ถ้าหากเราเล่นบทบาทเป็นคนในวงที่ดูคนนอกวงอย่างคนอื่นทำงานผ่านไปเรื่อยๆ เราพบว่า แต่ละวัน แต่ละเวลา ไม่มีสิ่งใดจีรังยั่งยืนแน่นอนเลย มีการเปลี่ยนเเปลงตลอดเวลา ดังนั้น ถ้าเราจะบอกว่า ความแน่นอนคือการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาคงไม่น้อยจนเกินไป
รูปภาพนี้ ทางเลือกในชีวิต
ทุกครั้งที่เราเลือกจะต้องมีการเปรียบเทียบตลอดเวลา ถ้าเลือกสิ่งนี้ก็ต้องมีอีกสิ่งหนึ่งที่อยู่ตรงกันข้าม เฉกเช่นเดียวกับการที่เราเลือกทางออกให้กับชีวิตว่า คือ ใช่หรือไม่ใช่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรายังมีอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถมุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ประมาท คือ เฉยๆและเงียบๆ เพื่อมองดูทางเลือกที่ใช่หรือไม่ใช่ค่อยๆผ่านไป เราพบว่า มันก็เป็นหนึ่งทางเลือกเช่นกัน
รูปภาพนี้ การเลือกปฏิบัติสิ่งที่ถูกต้อง
หลายครั้งที่เดี๋ยวนี้ เราลืมแม้กระทั่งคำง่ายๆพื้นฐานอย่างเช่น ขอโทษเมื่อเราทำผิดและขอบคุณเมื่อเขาทำสิ่งที่ดีๆให้ เพราะเราคิดแต่มุ่งไปยังตัวเอง รักตัวเองแบบเห็นแก่ตัว จนเราลืมไปว่า หลายๆครั้ง คนรอบข้างก็ยังต้องการความเห็นใจและความเอาใจใส่เหมือนที่ตัวเราต้องการจากคนอื่น ดังนั้น การกระทำที่ดูเป็นพื้นฐานนี้จึงหายไปจากสังคม กลายเป็นว่า ถ้าใครทำแสดงถึงความไม่เสมอภาคและไม่เท่าเทียมกัน แต่ถ้าใครไม่ทำกับเรา เราก็โกรธ ดังนั้น เราลองกลับมาทบทวนตัวเองดูสักนิด ว่า จริงๆแล้ว เราเป็นอะไรกันแน่
มันง่ายเพียงแค่เรามองมาที่ตัวของเราเอง เพียงแค่เราเข้าใจความเป็นจริงของชีวิตและของตัวเอง ว่า จริงๆแล้ว ทุกอย่าง เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ไม่มีอะไรแน่นอน ต่มีสิ่งหนึ่งที่เราอย่าลืมว่า
“มนุษย์คือสัตว์ที่มีสมองและเป็นสัตว์ประเสริฐ
ดังนั้น เราทำตัวของเราสมกับ
เป็นมนุษย์แล้วหรือยัง”
Look A Breathe
(LAB)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in