รูปภาพนี้ ถ้าเปรียบรสชาติอาหาร เล่มนี้ถือว่า กลมกล่อม
พอวันนี้ เราได้หนังสือเล่มนี้มา เราเริ่มต้นอ่านหนังสือ และพบว่า เป็นหนังสือเกาหลีอีกเล่มที่เบาสมองและคลายเครียด
รูปภาพนี้ ภาพจากเว็บเพจใน Bloom
ถึงแม้ว่า คุณนีน่าเขียนหนังสือเล่มนี้ตอนตัวเองอายุ 30 ปี และเมื่ออ่าน ก็ทำให้เราย้อนกลับไปมองตัวเองว่า ตอนเราอายุ 30 ปี เราทำอะไรอยู่นะ
“เราพบว่า ตอนนั้นชีวิตเราอยู่
ในช่วงโชติช่วงชัชวาลย์”
รูปภาพนี้ ภาพในวัยทำงานนี้
และถามว่า ตอนนี้ เราเลยวัยนั้นไปแล้ว เราพบว่า ชีวิตของเรายังไม่ได้ต่างจากก่อนเท่าไหร่ แต่แค่มีชีวิตมีขึ้นๆลงๆบ้าง ก็ทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น
“เมื่ออ่านเล่มนี้จบ ก็พบว่า ความสุขอยู่แค่ปัจจุบัน”
เปรียบดั่ง
“ปัจจุบันคือความสุข
ไร้ทุกข์เมื่อเข้าใจตัวเรา
ตัวตนมีสุขเหนือตัวเขา
เพียงเราเขาเหมือนกันนี่เอง”
รูปภาพนี้ ภาพที่แสดงความจริง
นักเขียนนีน่า เล่าถึงตอนตัวเองอายุ 30 ปีว่า ตัวเธอรองานนานถึง 2 ปี แล้วได้งานหนึ่งมา ซึ่งเป็นงานที่เธอรอมานานและอยากได้ แต่เมื่อเธอไปทำ เธอก็รู้สึกไม่ชอบ ดังนั้น เมื่อเธอทำงานนี่ไป 3 ปีกว่า เธอตัดสินใจออกและจองทัวร์ไปเที่ยวสเปน
รูปภาพนี้ ภาพที่แสดงชีวิต
หลังจากนั้น ชีวิตของเธอมีขึ้นๆลง สุขปนทุกข์ ทุกข์ปนสุข วนเวียนกันไป แต่เธอก็มีความสุข แค่เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง เรียนรู้ที่จะทำความรู้จักกับคนรอบข้างบ้าง โดยไปทานอาหารกับเพื่อนบ้าง เพื่อนร่วมงานบ้าง และเธอยังมีการเก็บเงินสะสมก้อนโต ก่อนเบิกเงินมาใช้ในยามจำเป็นบ้าง
รูปภาพนี้ ภาพที่แสดงความน่ารัก
หลายๆครั้งที่เธอป่วย เธอคิดถึงแม่ ถึงเธอจะมีความรักหญิงชายหลายครั้ง แต่ก็เลิกลากันไป สุดท้าย เธอจะเหงาบ้าง แต่เธอยังมีรักในตัวเอง บางที เธอหันไปเห็นพ่อเธอที่อายุมาก เธอก็คิดถึงยามที่พ่อดูแลตอนเด็ก และบางครั้ง เธอก็หันไปมองท้องฟ้า และคิดถึงแม่ว่า ถึงแม้หลายครั้งที่ทะเลาะกัน แต่ก็มีแม่กับพ่อที่อยู่เคียงข้างตลอด
ความสุขที่เกิดจากการรักตัวเอง เข้าใจตัวเองและมีครอบครัวอยู่เคียงข้าง ก็ถือว่า เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับชีวิตของคนหนึ่งคนที่มีความสุขในปัจจุบัน
“ความสุขคืออะไร ดูเป็นคำถามที่ง่าย
แต่ถ้าจะตอบ คงตอบยากเหมือนกัน
เพราะแต่ละคนมีสุขไม่เท่ากัน”
Look A Breathe
(LAB)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in