“เจ้ามาเมะโกมะน้อย
ได้ลอยละล่องเหนือชลธี
ชีวิตฝันหวานถึงห้วงนที
อยากบินเหมือนนกท้องนภา
ชีวิตของคนเลี้ยงได้เปลี่ยนไป
เมื่อได้มีมาเมะโกมะมา
อยู่ร่วมบ้านในทุกเวลา
วันหนึ่งชีวาก็ผ่านไป”
เรื่องราวในเล่มนี้ เป็นเรื่องราวต่อเนื่องที่จริงๆ อยากแนะนำว่า ควรอ่านเรียงเล่มค่ะ มันจะติดตามชีวิตเธอไปเรื่อยๆ และเรียนรู้พัฒนาการเธอไปตามลำดับ แต่ถ้าไม่อ่านเรียงเล่ม ก็ไม่ถึงกับแย่นะ แต่แนะนำว่า ควรซื้อเล่ม 1 มาก่อน แล้วหลังจากนั้น จะซื้อเล่มไหนก็ยังได้อยู่
เธอไปเจอพี่ชายผู้เเสนดีเดินกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งทำให้เธอรู้สึกว่า กินแห้วแน่นอน ทำไงดีนะ เธออกหักแล้วหรือเนี่ย แต่เอาเถิด ชีวิตก็ยังงี้ ไม่มีอะไรแน่นอน แต่ก่อนก็อยู่ได้ ที่ไม่มีใคร แต่ตอนนี้ เรามีเจ้าโกมะโอะมาอยู่ด้วยแล้วนี้นะ
วันหนึ่งในขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ทั่วไป ที่โดนเจ้านายด่า ชีวิตมีสุขบ้าง ทุกข์บ้าง เมื่อเธอกลับมาที่บ้าน ก็โวยวาย ให้โกมะโอะฟัง ถึงแม้มันจะฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง แต่มีเพื่อนรับฟังที่บ่นล่ะกัน
ผ่านไปหลายวัน ขนของโกมะโอะร่วง เธอรีบไปหาพี่ชายผู้แสนดี และรีบไปหาช่างเล็มขน พอดูแลอย่างดี ขนของมันก็กลับมาแบบเดิม และอยู่ๆ พี่ชายผู้แสนดีชวนเธอไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ พร้อมแนะนำให้รู้จักว่า ผู้หญิงคนนั้น คือ น้องสาวเขาเอง ซึ่งเธอก็ดีใจที่อกไม่หักแล้ว
พอทั้งหมด 3 คนกับ 1 ตัวได้ไปพิพิธภัณฑ์กัน เจ้าโกมะโอะชอบเหลือเกินที่อยากกินปลาเหมือนเพนกวิน แต่ความกลัวฉลามนั้นก็ยังมีมากอยู่ และขากลับมาเจอกับคินตะ ลูกชายที่เป็นมาเมะโกมะของพี่ชายแสนดี รักกันกับเจ้าโกมะโอะ แบบเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน และสงสัยจะเป็นโซ่คล้องใจให้กับคนเลี้ยงทั้งสองด้วยแน่
เรื่องราวเรื่องนี้ก็ดำเนินไปอย่างมีความสุข ทำให้เห็นว่า ชีวิตของคนเราดำเนินผ่านไปแต่ละวันที่มีสุข มีทุกข์เคล้าน้ำตากันไป แต่ชีวิตก็ยังไม่สิ้นหวัง หรือหมดหวัง เพราะชีวิตที่ดี คือ การก้าวข้างหน้าอย่างเข้าใจในชีวิต
“ผมชื่อโกมะโอะครับ
ผมพร้อมรับฟังและเข้าใจทุกปัญหา
และผมพร้อมอยู่เคียงข้างเสมอไปครับ”
Look a Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in