เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องเล่าเมื่อเราไปเมืองสิงค์ ( in 2015)SnapDiary
Chapter 14/แวะออร์ชาร์ด ตลาดแบรนด์เนม
  • เราขึ้นรถไฟจากไชน่าทาวน์มาลงที่สถานี ออร์ชาร์ด  เพื่อมาแหล่งชอปปิงที่ ฮิต ฮ๊อตที่สุดของที่นี่  

    ตามข้อมูลในไกด์บุ๊ค บอกว่าย่านนี้มีห้างมาหมายให้ช็อปปิ้งละลายทรัพย์  และเว็บไซต์ท่องเที่ยวหลายสำนักบอกว่า...ที่นี่เป็นถนนสายช้อปปิ้งที่มี ชื่อเสียงที่สุดของเอเชีย ภายในห้างเหล่านั้น ต่างบรรจุของแบรนด์เนมต่างๆ ไว้เกือบทุกแบรนด์ จุดหมายของเราที่น้องอ่านเจอในรีวิว คือ ห้าง  ION (ออกเสียงไงวะเนี่ย ไออ้อนใช่เปล่า )  ซึ่งการเดินทางไปห้างนี้สะดวกสบายมาก  พอกรุ๊ปเราลงจากรถไฟ  เดินไปตามป้ายชี้บอก ที่เขียนว่าทางไป INO ORCHARD เด้อ พอเราเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอทางเข้าห้าง

    เมื่อหลุดเข้ามาในห้าง ก็สมกับคำล่ำลือ คือ…มีชอปสินค้าแบรนด์เนม มากหน้าหลายตาตั้งอยู่เต็มไปหมด แต่ด้วยเพราะกรุ๊ปเราต้องทำเวลา จึงมุ่งหน้าสู่ช็อป Charles & Keith.ทันที
    ในระหว่างที่เดินไปชอปนั้นผมคิดเล่นๆว่า หากน้องๆ ชอปปิ้งซื้อของเยอะ จะถือของพะรุงพะรังเยี่ยงนี้ไปเที่ยว การ์เด้นบายเดอะเบย์ หรือไร เคยมีประชาชนชาวสยามทำแบบนี้หรือไม่นะ แล้ว…ที่ตรงนั้นจะมีที่รับฝากของหรือเปล่าน้อคิดเพลินจนกระทั่งน้องคนนึงหันมาบอก….”ถึงแล้วพี่”
    ชอป Charles & Keith ใหญ่เอาการเลยทีเดียว  มีสินค้ามากมาย อยู่บนชั้นวางที่สูงเลยหัวคน  ของเต็มทุกชั้น ไม่เหมือนห้างเมื่อวานที่เราไปกันเมื่อคืน ดังนั้นผลที่ตีกลับมาหาสาวๆ ในทริปคือเสียงร้อง…. ว้าว…ว้าว ว้าว…ออกมาหลายว้าวเลยทีเดียว และสิ่งที่ผมคาดการในเวลาต่อมาคือ  คงต้องให้เวลาน้องๆมากกว่าเดิม ให้ สมกับคำว่า ว้าว ว้าว ว้าว
    สาวๆ ในทริปมุ่งสู่สินค้าที่ตัวเองสนใจทันที  ในระหว่างที่ผมรอยืนดูนั่น นี่ไปเรื่อยๆ ก็ได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาจาก น้องๆในกรุ๊ปเป็นระยะๆ  “อุ๊ยๆ อันนี้ก็ดี อันนี้ก็สวย อันนี้ก็ถูก ร้องเท้าก็ใช่  แว่นก็เก๋
    ผมรู้สึกเหมือนเวลามันหายไปช่วงหนึ่ง ไม่มีใครพูดอะไรกับใคร น้องๆ ต่างตกอยู่ในโลกของการชอปของตัวเองปล่อยผมลอยคว้างอยู่ในช่วงเวลาของการรอ….

    เอเหมือนผมจะลืมอะไรบางอย่างนะ 
    ใช่ๆ ลืมส่งข่าวให้น้องสาวว่ามา Charles & Keith   ผมยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา อืม...ตอนนี้ที่โน่นเป็นเวลาทำงานของนางด้วยซิ  จะไลน์ถามดีมั้ยนะ  เอ้า!!!..ไหนๆ ก็มาแล้ว ลองถามดูละกัน เผื่อนางว่าง

    ผมไลน์หาน้องสาว ถามนางว่าอยากได้อะไรที่นี่ไหม จะถ่ายรูปส่งไปให้ดู   
    ไลน์ไป….แบบไม่คาดหวังว่านางจะตอบกลับมาเร็ว เพราะพนักงานแบงค์เวลานี้ คงตอบไลน์ลำบาก   ปรากฎว่าไม่กี่นาทีนางก็ตอบกลับมา เราคุยกันพักนึง แล้วผมก็ถ่ายรูป กระเป๋า ส่งไปให้ดู  

    ในขณะที่ง่วนอยู่กับการคุยกับน้องสาว ผมไม่ทันรู้สึกตัวเลยว่ามีกรุ๊ปทัวร์จากประเทศตัวเองเข้ามาในชอป  เมื่อเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ ก็พบกับคนไทย มากหน้าหลายตากำลังเลือกของ เสียงพูดคุยภาษาบ้านเราดังทั่วร้าน เสมือนได้กลับไปอยู่ขอนแก่นในทันที   ผมยิ้มให้กับนักท่องเที่ยวบ้านเดียวกัน ทักทายตามประสาคนไทยพอประมาณแล้วทำทีเลือกของต่อ

    ไม่นาน น้องสาวผมก็ตอบกลับมาว่า มีกระเป๋าที่นางชอบ เข้ารอบมาสองใบ แล้วนางก็ให้ถ่ายรูปแบบละเอียดหลายๆมุม สองใบนั้นกลับไปอีกรอบ เพื่อให้เพื่อนๆที่ทำงานช่วยเลือก  
    ผมถ่ายรูปแทบจะทุกมุมส่งไปแล้วยืนรอ...พร้อมกับการถือกระเป๋าสีชมพูทั้งสองใบไว้ในมือ
    ในขณะที่กำลังรอคำตอบอยู่นั้นผมก็รู้สึกว่า...….มีน้องผู้หญิง(คนไทย)คนหนึ่ง ก็เล็งเอากระเป๋าที่ผมกำลังเลือกอยู่เหมือนกัน  ดูเหมือนว่า..น้องเค้ารอจังหวะให้ผมเดินออกจากมุมนี้อยู่

     (บางส่วนของสินค้าที่ ช่วงปี 2015  ที่นี่ราคาไม่แรงเท่าบ้านเรา)
    เอาหล่ะช่วงเวลานี้ หากเคยเกิดขึ้นกับใคร ผมคงไม่ต้องอธิบายนะครับว่าเป็นยังไง (เดทแอร์ชิทหาย)   
    ทำไงดีๆ ผมคิดในใจ  หากวางกระเป๋าลง แล้วเดินออกจากมุมนี้ น้องเค้าคงเข้ามาหยิบไปแน่ๆแล้วถ้ายัง
    ยืนถือกระเป๋าเป็นลุงหวงก้างอยู่อย่างนี้  น้องเค้าจะว่าเราในใจมั้ยวะ (ลุงหนวดจะเอาหรือไม่เอารีบ ตัดสินใจเร็วหน่อยค่ะเสียเวลาคนอื่นเด้อค๊า อะไรประมาณนี้มั้ยน้อ)แล้วๆๆ ถ้าน้องสาวผม นางหายไปนาน ผมต้องวางกระเป๋าลงบนชั้นซักใบแล้วนางดันเลือกใบที่วางล่ะ    เอาไงดีๆ

    ผมลุ้นแล้วบ่นอยู่ในใจ โอ้ย…เมื่อไหร่นางจะตอบกลับมาเนี่ย    หลายนาทีผ่านไป ยังเงียบอยู่ ผมร้อนใจ เลยไลน์ข้อความไปบอกย้ำว่า…”ด่วนๆ ใบไหนๆ เร็วๆ มีคนต่อคิวอยู่นะ  นางไม่อ่านข้อความ (สงสัยติดลูกค้า) โอ้ย….ทำไงดี ระหว่างนั้น ผมก็หยิบมือถือขึ้นมากด กูเกิ้ลทรานซิทเตอร์เอ้ย…กูเกิ้ลทรานสเลท พิมพ์ประโยคเพื่อถามพนักงานว่ามีรุ่นนี้ในสต็อกมั้ย พอพนักงานเดินผ่านมา  อุตสาห์ถามออกไปเป็นภาษาอังกฤษ นี่ฝึกตามกูเกิ้ลสองรอบเลยนะเนี่ย พนักงานดันตอบกลับมาเป็นภาษาไทยว่า..“.เหลือเท่าที่วางขายจ้า”  

    หลังจากขอบคุณพนักงานเสร็จ น้องสาวผมก็ไลน์ กลับมาพอดี  นางถามว่า..เอาใบไหนดี ตัดสินใจไม่ได้ ซึ่งแปลความหมายได้ว่า  นางให้ช่วยเลือก  
    โอ๋ย... ไม่รู้เด้อ  เลือกไม่ถูกเหมือนกัน  รู้แต่ว่า...ตัดสินใจเร็วๆ ได้มั้ย ผมตอบน้องสาวกลับไปแบบนั้น เหมือนนางจะรู้สถาณการณ์ตัดใจเลือก ส่งรูปถ่ายกลับมายืนยันว่า “เอาใบนี้
    แล้วก็เป็นแบบที่ผมคาดการณ์ไว้พอผมหยิบกระเป๋าใบที่น้องสาวเลือก น้องผู้หญิงคนนั้นก็เดินเข้ามาหยิบอีกใบที่วางลงอีกที แถมมองใบที่ผมถืออยู่ด้วยสายตา ยากบรรยาย

    เฮ้อ..ขอโทษนะครับน้อง...ใจตรงกันอ่ะ  แล้วก็เฮ้อ….อีกที ให้กับตัวเอง ที่ผ่านมาผมเคยได้ยินแต่เพื่อนผู้หญิงเค้าคุยกันว่าเวลาชอป แล้วใจตรงกัน จะเกิดเหตการณ์แบบนี้  ไม่นึกว่าจะมาเจอกับตัวเองที่นี่   
    เมื่อผมได้กระเป๋าแล้วเลยเดินไปสมทบกับน้องๆ ที่กำลังเลือกของอยู่  บางคนกำลังต่อคิวจ่ายเงิน เราใช้เวลาที่นี่อีกนานพอสมควรจนได้เวลาที่เราจะต้องเดินทางไปที่อื่นต่อ  ผมเลยสะกิดให้น้องๆที่ยังเลือกไม่จบรู้ตัว

    เมื่อกรุ๊ปเราจ่ายตังค์ได้ของครบ ทุกคนมีถุงหิ้วขนาดใหญ่คนละใบ รวมทั้งผมด้วย (กระเป๋าสีชมพู ดีนะที่ถุงสีขาว)
    ในขณะที่กรุ๊ปเราเดินออกจากชอปสายตาผมกดันหันไปเจอ กระเป๋าอีกใบที่น้องสาวตัดใจไม่เลือก มันยังวางอยู่บนชั้น  แสดงว่าน้องผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ซื้อกระเป๋าใบนี้....

    ผมเดินออกมาจากชอปสักระยะก็หยุดนิ่ง คิด เอใบนี้นางบอกว่าจะจ่ายตังค์เอง(ฝากซื้อ)
    งั้นอีกใบซื้อไปฝากนางดีกว่า ไหนๆ ก็มาแล้วผมหันหลังกลับไปที่ชอปแล้วออกมาพร้อมกับถุงสองใบใหญ่ในมือ
    ในที่สุดคนที่คิดแทนน้องๆนักชอปในกรุ๊ปว่าใครชอปเยอะจะถือของพะรุงพะรังแบบนี้ไปเที่ยวการ์เด้นบายเดอะเบย์ยังไงนะ 
    คนคนนั้นเป็นผมเอง  (แฮร่)

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in