เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
SF - Fade AwayAlice SP
Chapter 2 - Us
  • -2-


     

    “ฝนตกอะไม่มีร่มด้วย” หลังจากที่เราสองคนเดินเล่นที่เซนทรัลปิ่นเกล้ากันเสร็จเจมส์ก็มาส่งฉันที่แถวหอแต่ฝนดันตกลงมาหนักมาก เราสองคนเลยไปหลบฝนกันที่เซเว่นหน้าปากซอย

    “รอฝนหยุดก่อนก็ได้”อยู่ๆก็ต่างคนต่างเงียบกันความอึดอัดที่เริ่มกลับมาอีกครั้งทำให้ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูก

    เจมส์มองหน้าฉันก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างหูฉัน

    “เป็นแฟนกันไหม?”

    ฉันอึ้งกับประโยคที่ได้ยินนี่กูหูฟาดปะวะ เขาขอกูคบจริงหรอ’

    “อะไรนะ”ฉันถามเพื่อความมั่นใจอีกรอบเจมส์ยิ้มแล้วพูดอีกครั้ง

    “เป็นแฟนกับเค้านะ”ชัดเจนเลยค่ะ เจมส์ขอคบจริงๆด้วย

    “อือ ตกลง”ฉันตอบเสียงสั่น เขินมากถึงมากที่สุด เสียงที่สั่นแต่ยังต้องแพ้ใจที่สั่นกับคนข้างๆฮ่าๆ

     

    สถานะของเราเปลี่ยนไปทุกๆอย่างก็ดูอินเลิฟไปหมด

    ตั้งแต่มีเจมส์เข้ามาในชีวิตฉันรู้สึกมีความสุขมาก การที่รอคนๆนึงตอบ การที่รอคอลกันทุกๆคืนการที่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน ถึงเราจะไม่ค่อยได้เจอกันเพราะต่างคนต่างเรียนหนักและมหาลัยเราก็ค่อนข้างไกลจากกันแต่มันทำให้ฉันกับรู้สึกว่าเวลาที่ได้เจอกันมันจะยิ่งพิเศษมาก

    “ปิดเทอมนี้ไปเที่ยวกันปะ”ฉันถามเจมส์

    “เอาดิน่าสนุกไปไหนดี”

    “หัวหินดีไหมเธอว่างวันไหน เค้าว่างตั้งแต่วันที่9เป็นต้นไปเลย”

    “เค้าว่างหลัง13ต้องส่งงานก่อน”

    “โอเคไปวันที่14,15,16กันปะ”

    “ได้ๆตามนั้น”

     

    J : ‘อยู่ไหนแล้วเค้าถึงแล้วนะ’

    Me : ‘ใกล้แล้วๆรถติดมาก รอเค้าแปปนะ’

    ในที่สุดวันทีรอคอยก็มาถึงไปหัวหินกับเจมส์ เราสองคนจะนั่งรถไฟไปกันไป เที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันครั้งแรกพอถึงสถานีหัวลำโพงที่นัดเจอกัน ฉันรีบโทรหาและเดินตามหาเจมส์ทั่วสถานีจนไปสบตากับผู้ชายคนนึง ความรู้สึกนี้มันมาอีกแล้วมันยังเหมือนเดิมยังเหมือนครั้งแรกที่เจอกันเลย ยังคงใจสั่นกับผู้ชายคนนี้ตลอดเราส่งยิ้มให้กัน

    “ปะไปจองตั๋วกัน” ฉันที่รีบพูดกลบเกลื่อนความเขินและจูงมือนำเจมส์ไปจองตั๋วไปหัวหิน หลังจากได้ตั๋วเราก็นั่งรอรถไฟสักพักนึงรถไฟก็มาเทียบชานชลา ฉันรีบก้าวขึ้นรถไฟด้วยความตื่นเต้นระหว่างทางฉันมองไปข้างทางวิวข้างทางที่เป็นธรรมชาติอย่างเพลินตาอากาศวันนี้มีแดดแต่ยังมีลมหนาว ระยะเวลาที่นั่งรถไฟยาวนานมากแต่ฉันกลับรู้สึกดีเพราะคนข้างๆกับวิวที่สวยทำให้รู้สึกเวลาผ่านไปอย่างมีความสุข

     

    “เย่ ถึงแล้ว”ฉันร้องออกมาอย่างดีใจ

    “นั่นสิถึงสักที”

    เราสองคนเดินทางไปที่พักที่ได้จองล่วงหน้าไว้จากนั้นก็ไปเที่ยวด้วยกันการที่ได้มาเที่ยวกันครั้งนี้ทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น ได้ใช้เวลาด้วยกันอย่างเต็มที่หลังจากไม่ได้เจอกันมานานมันเป็นช่วงเวลาทีดีมากๆ เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขตั้งแต่คบมาเลยก็ว่าได้ฉันอยากจะหยุดช่วงเวลานี้ไว้แต่มันก็ทำไม่ได้ เมื่อถึงเวลาที่เราต้องกลับกรุงเทพเราก็ต้องห่างกันอีกครั้งและยิ่งนานเลยเพราะฉันต้องกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเพราะเป็นช่วงปิดเทอมความรู้สึกกลัวกลับมาอีกครั้ง ความห่าง ความคิดถึง แต่จะทำไงได้ล่ะ

    ก็แค่ต้องอดทนรออีกแล้วสินะ..

     

    คู่เราไม่ได้เจอกันบ่อยต้องอดทนมากที่แต่ละทีกว่าจะได้เจอกันต่างคนต่างมีหน้าที่ ถึงแม้การที่นานๆได้เจอกันจะเป็นเรื่องดีอยู่บ้างเพราะมันจะทำให้เวลาที่เราเจอกันอีกครั้งมันจะรู้สึกพิเศษมากใช่มันเป็นแบบนั้น แต่สุดท้ายข้อเสียมันก็มากกว่า นอกจากจะอดทนรอการเจอกันก็ยังต้องมีความเชื่อใจกันความหนักแน่นพอที่จะไม่นอกใจกัน หลายครั้งที่เราต้องทะเลาะกันฉันมักจะเป็นฝ่ายชวนทะเลาะก่อนด้วยนิสัยที่ฉันงี่เง่า เอาแต่ใจมาก ฉันเป็นคนคิดมากและติดแฟนพอเริ่มห่างกันฉันก็เริ่มจะงอแงใส่เจมส์ งอนเจมส์เวลาเจมส์เริ่มตอบช้าหรือหายไปไหนหลายครั้งที่เราต้องทะเลาะกันเรื่องนี้ฉันยังคงเอาแต่ใจยังคิดว่าจะให้เจมส์รับปรับตัวอยู่ตลอดโดยที่ฉันเองไม่เคยจะปรับบ้างเลยแต่เจมส์ก็ยังคอยตามง้อตลอด คอยตามใจฉันตลอดไม่ว่าจะทะเลาะกันแรงแค่ไหนเจมส์ก็จะอดทนพยายามในการฉันง้อมากมากจนฉันลืมคิดไปว่าคนเราก็ต้องมีการเหนื่อย ต้องมีการหมดความอดทน…

     

     

    และฉันก็พลาดที่ทำให้เจมส์เป็นแบบนั้น

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in