แจฮยอก : เป็นการคัมแบคเต็มวงในรอบเกือบจะ 1 ปีเลยครับ ผมหวังว่าคนที่เห็นจะคิดว่า ‘เท่จัง’ นะครับ ปกติผมไม่ค่อยได้ใช้หน้าตาเท่าไหร่นะครับ แต่สำหรับสเตจนี้ต้องใช้หน้าตาหน่อยแล้วครับ (หัวเราะ)
แจฮยอก : ผมเองก็ชอบเพลงของรุ่นพี่ YG เหมือนกันครับ ผมกำลังทดลองอะไรหลายๆอย่างเยอะๆแล้วก็ตอนนี้กำลังพยายามหาสีสันหรือลักษณะเด่นของตัวเองอยู่ครับ
แจฮยอก : ช่วงนี้ผมก็กำลังทำเพลงอยู่เหมือนกันครับ ถ้าเมมเบอร์ให้ฟีดแบคดีผมจะอารมณ์ดีมากเลย ผมมีความฝันน่ะครับ เป้าหมายอนาคตที่ใกล้ที่สุดคือได้ทำเพลงกับร้องเพลงกับพี่ฮยอนซอกครับ พี่เขาเป็นคนที่ผมเคารพมากที่สุดเลยอยากทำมันให้สำเร็จครับ ถึงตอนที่ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยผมก็ได้ฟังคำแนะนำจากพี่เขาเยอะอยู่เหมือนกันก็ตาม (หัวเราะ)
แจฮยอก : ตอนนั้นพอโดนว่าผมก็มีเสียใจกับพี่เขานิดหน่อยนะครับ แต่พอมาลองคิดดูมันก็เป็นเรื่องที่น่าขอบคุณมากจริงๆ อันที่จริงพวกพี่ๆเขาก็น่าจะยุ่งมาก แต่ก็ยังดูแลเมมเบอร์คนอื่นๆ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ
แจฮยอก : ความทรงจำตอนแสดงที่เคียวเซร่าโดมยังสดใหม่เหมือนทัศนียภาพที่งดงามอยู่เลยครับ แฟนคลับของเราค่อยๆเยอะขึ้นมากโดยทึ่ผมไม่รู้ตัวเลย มันทำให้ผมรู้สึกว่าตอนนี้ผมกำลังได้รับความรักจากแฟนๆมากขึ้นเรื่อยๆอยู่สินะ
แจฮยอก : จริงๆแล้วผมถูกแคสติ้งแบบกะทันหันแล้วก็ได้ออกรายการในฐานะเด็กฝึกแบบกะทันหันครับ เพราะงั้นตอนนี้พอมาคิดดูแล้วเวลามันผ่านไปจนไม่มีช่องว่างให้ผมได้คิดเลยครับ ตอนนี้ผมเลยถามตัวเองอยู่บ่อยๆว่าเพลงแบบไหนที่ตัวผมอยากทำครับ
แจฮยอก : ไม่มีนะครับ จะบอกว่าคือช่วงแรกๆ(ที่เป็นเด็กฝึก)ที่ YG มันก็แบบ (หัวเราะ)
แจฮยอก : ดวงดีใช่ไหมล่ะครับ ฮึๆ
แจฮยอก : อ่าา ผมอายคนแปลกหน้าน่ะครับ โดยเฉพาะถ้าไปแฟนไซน์ผมแทบไม่เงยหน้าขึ้นเลย (หัวเราะ) ถึงจะซ้อมไป 100% แล้วแต่ถ้าแฟนๆมอง ผมก็จะนึกที่ซ้อมไว้ไม่ออกเลยครับ
Q : อายคนแปลกหน้ามันก็ไม่ได้แย่นะคะ สำหรับเทรเชอร์เมกเกอร์แฟนคลับเทรเชอร์ก็คงคิดว่าท่าทีแบบนั้นน่าเอ็นดูนะคะแจฮยอก : ใช่แล้วครับ ยิ่งเวลาผ่านไปกับแฟนๆ ผมยิ่งอยากสนิทให้มากกว่านี้ครับ ถ้าได้เจอกันบ่อยๆกว่านี้คงจะไม่เป็นไรใช่ไหมครับ อันที่จริงช่วงที่เราโปรโมทมันมีช่วงที่คาบเกี่ยวกับการระบาดครั้งใหญ่เยอะมากด้วย ตอนนี้เลยยิ่งอยากโชว์ให้เห็นมากกว่าเดิมครับ
แจฮยอก : อืม .. ยกตัวอย่างเช่น เวลาเมมเบอร์ 4 คนรวมผมขึ้นรถคันเดียวกันแล้วก็ต้องเดินทาง ถ้าสมมติว่าในระหว่างนั้นเมมเบอร์ 3 คนสัปหงกขึ้นมา เมมเบอร์ที่เหลืออีก 1 คนที่ยังตื่นอยู่ก็จะไปเตรียมตัวเงียบๆก่อนครับ ถ้าตัวเองไปเตรียมตัวก่อน อีก 3 คนที่เหลือก็จะได้นอนต่อได้อีกนิดครับ เมมเบอร์ทุกคนทำแบบนั้นอยู่เสมอเลย เวลาเห็นอะไรแบบนั้นก็จะรู้สึกว่าเราเป็นทีมเดียวกันครับ รู้สึกขอบคุณมากเลย
แจฮยอก : เรื่องแบบนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วไงครับ มันแน่นอนเกินไป (หัวเราะ)
Q : เร็วๆนี้มีเรื่องโรแมนติกอะไรบ้างไหมคะ เมื่อวานผมกับแจฮยอกไปห้างฯเพื่อซื้อของขวัญของแจฮยอกครับ
อาซาฮิ : เมื่อไม่นานมานี้เป็นวันเกิดเขาน่ะครับ พอถามว่า “จะเอาอะไรดี?” ไปดูเครื่องฟอกอากาศ ดูเสื้อผ้า ดูนู่นดูนี่เยอะมากเลยครับ แต่แจฮยอกบอกว่า “อะไรก็ได้” ครับ เพราะงั้นตอนนั้นเลยเดินกันในสภาพเกือบจะยอมแพ้แล้ว พอหันหลังมาตรงนั้นมันมีสกู๊ดเตอร์ไฟฟ้าพอดี พอเห็นเจ้านั่นผมกับแจฮยอกก็ (ทำตาเป็นประกาย) พร้อมกัน ‘นี่แหละ!’ พอดีชื่อทีมผมกับแจฮยอกในวงคือ ‘낭만즈 (โรแมนติกไลน์)’ น่ะครับ
อาซาฮิ : ผมเริ่มสนิทกันแจฮยอกตั้งแต่มาเกาหลีได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนเลยครับ ผมจำได้ว่าตอนนั้นอาจเป็นเพราะผมยังไม่ชินกับภาษาเกาหลีเท่าไหร่ ภาพลักษณ์เลยเหมือนยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางครับ ตอนนั้นเลยคิดว่าผมไม่มีเสียงกัน ในสถานการณ์แบบนั้นแจฮยอกช่วยเหลือผมเยอะมากเลยครับ เราสองคนเป็น ‘I’ แล้วแจฮยอกก็คงรู้สึกได้ก่อน (ว่าเป็น I ทั้งคู่) ตอนนั้นผมใส่รองเท้า Converse ครับ เขาเป็นคนเข้ามาชวนคุยก่อนครั้งแรกด้วยการถามผมก่อนว่า “ชอบคอนเวิร์สหรอ? ฉันก็ชอบเหมือนกัน” จากนั้นก็ “เราเป็นเพื่อนกันแฮะ?” แล้วก็เริ่มสนิทกันครับ
อาซาฮิ : เรื่องนั้นค่อนข้างติดในความทรงจำผมนะครับ ตอนนั้นผมไม่ได้เก่งภาษาเกาหลีเหมือนในตอนนี้ แต่มันแจ่มชัดในความทรงจำผมมากเลยครับ
แจฮยอก : ตอนนี้ผมมีความสุขมากที่ได้ทำงานร่วมกับเมมเบอร์ที่ผมชอบจริงๆครับ แค่คิดเรื่องนั้นผมก็พอใจแล้ว 100% ถึงมันจะเป็นความเห็นส่วนตัวของผมก็ตาม แต่ผมอยากให้ทีมของพวกเราอยู่ด้วยกันตลอดไปเลยครับ เพราะงั้นก่อนหน้านี้ไม่กี่วันผมลองคิดเรื่องนี้ดู ผมเลยเอาชื่อเมมเบอร์มาผสมกันแล้วก็รวมกันจะกลายเป็นไรม์มิ่งเลยครับ ยกตัวอย่างเช่นถ้ามีจองฮวานกับจองอู อันนี้แค่ยกตัวอย่างจริงๆนะครับ (หัวเราะ) ‘ถ้าตัดสินใจ(จองฮัน->จองฮวาน)จะเป็นผู้ใหญ่ / ก็รับมันแล้วใช้ชีวิตต่อไปกันเถอะ มิตรภาพ (อูจอง->จองอู)’ ถ้าทำอะไรแบบนี้มันก็จะมีชื่อเมมเบอร์ทุกคนเข้าไปอยู่ในเนื้อเพลงครับ ผมอยากห่อให้มันเท่ๆแล้วก็ทำเพลงที่มีชื่อเมมเบอร์ในเพลงสักเพลงครับ มันอาจจะดูเชยไปหน่อย แต่ถ้าทำให้มันออกมาดีๆเท่ๆมันก็จะหลงเหลือเป็นเพลงให้ฟังต่อไปครับ
แจฮยอก : เพลงไตเติ้ล ‘BONA BONA’ เป็นเพลงที่มีท่าเต้นและดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์มีการเชื่อมโยงกันระหว่างซาวด์ที่สง่างามมากๆกับวงดุริยางค์ หวังว่าจะตั้งใจฟังเสียงของ TREASURE นะครับ (หัวเราะ)
ภาพสแกนบทสัมภาษณ์จากนิตยสาร DAZED KOREA จาก twitter : @yoonsweet0723
แปลภาษาเกาหลีเป็นภาษาไทยโดย twitter : @biQx_
กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตให้ครบถ้วนและห้ามนำทั้งบทสัมภาษณ์ไปรีอัพโหลดโดยไม่ได้รับอนุญาต
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in