เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
สาระภาษา (ไม่) มีอยู่จริงpadumpalm
04 : ทำไม "โบ้" ต้องเป็นหมา?
  •         สมัยนี้พอเราเห็นหมาตัวไหนที่ไม่รู้ชื่อวิ่งมา ปากมันก็ต้องพลอยไปเรียกมันว่า "โบ้" หรือ "ไอ้โบ้" ทุกทีเลย ทั้ง ๆ ที่หมาตัวนั้นอาจจะไม่ได้ชื่อโบ้ แต่กลับกลายเป็นชื่อสามัญของหมาไปซะแล้ว ยิ่งเป็นหมาสีน้ำตาลขนเกรียน ๆ ถือว่ามีโหงวเฮ้งความเป็นโบ้อย่างมาก แต่ทำไมโบ้ถึงได้กลายมาเป็นชื่อแทนเจ้าหมากันละ? แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับภาษาศาสตร์ด้วยเหรอ? เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันดีกว่าค่ะ

          จุดเริ่มต้นของบล็อกนี้มาจากเพลงญี่ปุ่นเพลงหนึ่งที่เราได้ฟังในคาบ แทนที่เขาจะบอกว่า "นั่งกินข้าวกับหมา" แต่เขากลับเลือกใช้คำอื่นเพื่อสื่อความแทนตัวของมันแทน ซึ่งพอเรามาลองคิดดูแล้ว ในภาษาไทยก็มีคำลักษณะนี้เยอะมากและใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิดค่ะ !  หนึ่งในนั้นก็คือ คำเรียกแทนสัตว์ต่าง ๆ ที่แค่เราได้ยินปุ๊บ เราก็จะเกิดอิมเมจของสัตว์นั้นในหัว ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้พูดถึงมันตรง ๆ เช่น เจ้าโบ้ ที่เรายกมาพูดคุยกันในครั้งนี้นั่นเอง


    ใครเป็นคนตั้งชื่อให้โบ้? แล้วเจ้าโบ้ในภาษาญี่ปุ่นชื่ออะไรกันนะ?

          คำว่า "โบ้" ในภาษาไทยนั้น แอบกระซิบว่าคำนี้มีที่มาที่ดาร์คกว่าที่เราคิดค่ะ จากการค้นคว้า สันนิษฐานว่าโบ้ อาจจะมาจากคำว่า โบโบ้ (BOBO) ซึ่งเป็นชื่อของกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมมีชอบเพศสัมพันธ์กับสุนัข จัดเป็นกลุ่มผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตชนิดหนึ่งที่ต้องได้รับการบำบัด (ตอนที่เรารู้ก็ตกใจมากเลยค่ะ T-T เพราะเป็นคำที่ใช้บ่อยพอสมควร) แต่เราคิดว่าการนำมาใช้แทนชื่อน้องก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะคนส่วนมากก็มองว่ามันน่ารักและไม่ได้ใช้ด้วยเจตนาไม่ดี แถมคำว่าโบ้นี้ยังไปพ้องเสียงกับชื่อหมายอดฮิตของคนไทยอย่าง "จัมโบ้" ด้วย เจ้าโบ้ก็เลยกลายเป็นคำสามัญเรียกน้องหมาไปโดยปริยายค่ะ ^^)/


         อย่างไรก็ตาม ภาษาญี่ปุ่น เองก็มีชื่อยอดฮิตที่เอาไว้เรียกแทนน้องหมาเหมือนกันนะ ! เชื่อว่าหลายๆคนที่ชอบดูอนิเมะหรือเคยเรียนญี่ปุ่นมาก็อาจจะเคยได้ยินบ้าง คิดออกกันไหมคะ ติ๊กต็อกๆ ชื่อนั้นก็คือเจ้า "โปจิ" (ポチ) นั่นเองค่ะ โดยเจ้าโปจิเนี่ย ก็เป็นชื่อที่มาจากภาษาต่างประเทศเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีใครทราบที่มาแน่ชัด ส่วนมากจะเชื่อกันว่าเป็นคำที่มาจากภาษาฝรั่งเศส "petit" ซึ่งแปลว่า ตัวเล็ก น่ารัก ตะมุตะมิ และเกิดการเพี้ยนเสียงไปเป็นโปจิในที่สุดค่ะ

         ทฤษฎีที่มาของคำนี้ที่แพร่หลายที่สุดคือ ในสมัยเอโดะที่ญี่ปุ่นติดต่อกับชาวต่างชาติแล้ว มีคนฝรั่งเศสมาเห็นเจ้าหมาพันธุ์ญี่ปุ่น (Japanese Chin) ดูตัวเล็กน่าเอ็นดู ก็เลยพูดออกมาว่า "Petit" คนญี่ปุ่นที่สมัยนั้นยังไม่ได้มีความรู้เรื่องพันธุ์สุนัขละเอียดนัก ฟังแล้วก็เข้าใจไปว่า เจ้าหมานี่เรียกว่า โปจิ นั่นเองค่ะ
     หมาพันธุ์ Japanese Chin

         นอกจากนี้ชื่อโปจิยังนิยมเอาไปใช้ตั้งชื่อหมาในอนิเมะมาก ๆ ก็เลยกลายเป็นภาพจำไปว่า โปจิ = น้องหมา เลยทีเดียว มีอิทธิพลถึงขนาดที่ว่า ในการ์ตูนดังเรื่อง 花咲じいさん (The Man who made flowers bloom) มีตัวละครหมาที่แต่เดิมชื่อชิโระ (เจ้าขาว) แต่เวลาต่อมาชื่อของมันก็ถูกเปลี่ยนเป็นโปจิ เพื่อให้คนทั่วไปเรียกติดปากได้ง่ายมากขึ้น จนทำให้ชื่อเดิมของมันถูกลืมไปเลยค่ะ 

    น้องโปจิ (ชิโระ) จากเรื่อง 花咲じいさん

    แล้วชื่อน้องหมาเกี่ยวกับภาษาศาสตร์ยังไงกันนะ?

         จริงๆแล้วไม่ว่าจะเป็นการเรียกเจ้าโบ้ หรือ โปจิ ต่างก็เป็นการพูดถึงโดย ไม่ได้บอกว่ามันหมายถึงอะไรตรง ๆ แต่คนที่ฟังก็จะเข้าใจได้ว่าหมายถึงอะไร ทางภาษาศาสตร์จะเรียกวิธีพูดแบบนี้ว่า "Metonymy" หรือ นามนัย (換喩) ค่ะ วิธีการนี้ค่อนข้างจะคล้ายกับการใช้สัญลักษณ์ หรืออุปมาอุปไมยที่เพื่อน ๆ น่าจะคุ้นเคยกันดี แต่จะต่างออกไปนิดหน่อยค่ะ 

      "Metonymy involves using one word as a stand-in for a related word or concept."

          Metonymy เป็นกลวิธีหนึ่งในการใช้ลีลาโวหาร ใช้คำโดยนำเพียงแค่บางส่วนหรือจุดเด่นของสิ่งนั้นมาใช้เรียกแทนภาพรวมทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยงให้ไม่ตรงหรือเตะตาจนเกินไป ซึ่งวิธีนี้อาจช่วยเพิ่มความสุภาพมากขึ้น ไปจนถึงเพิ่มอรรถรสในการคุยด้วยค่ะ
    ยกตัวอย่างคำง่ายๆ อย่างเช่น  
    • "ขอไปห้องน้ำก่อนนะ"    (จริง ๆ ไม่ได้แค่ไปห้องน้ำเฉย ๆ แต่ไปทำอย่างอื่นด้วยใช่มั้ยคะ)
    • "ไปกินหม้อไฟกันไหม?"  (กินอาหารที่ปรุงด้วยหม้อไฟต่างหาก)
    • อ่านหนังสือ                    (อ่านตัวอักษรต่างหากละ)
    หรือใช้ส่วนหนึ่งของร่างกายสื่อความก็ได้ด้วยนะ! 
    • Can you give me a hand carrying this box up the stairs? (ขอความช่วยเหลือ)

                                   แผนภาพอธิบาย Metonymy : เมืองผู้ดีประเทศอังกฤษ สื่อถึง เมืองลอนดอน

        ในวงการเม้าท์มอยเองก็มักจะได้ยินคำแบบนามนัยอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะเวลาพูดถึงใครที่ไม่อยากเจาะจงชื่อมากเกินไป ก็จะเรียกเป็นฉายา หรือลักษณะเฉพาะตัว เช่น 
    • มหาวิทยาลัยแถวสามย่าน (นึกออกไหมคะว่าที่ไหน 55555)
    • หนูน้อยหมวกแดง             (ไม่ได้บอกชื่อ แต่รู้เลยใช่ไหมคะว่าเป็นหนูน้อยคนไหน)
    • Hollywood                       (to refer to the film industry)

          คำลักษณะนี้ยังรวมไปถึงคำแทนสิ่งของที่เราใช้จนติดปากกันจนเป็นที่รู้กันทั่วไปแล้วด้วย เช่น มาม่า (บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป) , แฟ้บ (ผงซักฟอก) , โกเต๊ก (ผ้าอนามัย อันนี้ยังทันกันไหมคะ5555) ซึ่งชื่อแบรนด์เหล่านี้ได้กลายมาเป็นเป็นตัวแทนของภาพรวมสิ่งนั้นทั้งหมด และเป็นภาพจำของคนในสังคมนั่นเองค่ะ


    ?  >───⇌• : ? : •⇋───< ? 

         เป็นอย่างไรบ้างคะกับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในบล็อกครั้งนี้ นอกจากจะได้รู้จักเจ้าโบ้และโปจิของญี่ปุ่นในมุมมองใหม่ ๆ แล้ว เรายังได้รู้ว่าในชีวิตประจำวันของเราเองมีคำแบบนามนัยแฝงอยู่มากมาย จนบางทีเราไม่รู้ัต้วเลยว่าเผลอใช้ไป แถมจริง ๆ แล้ว Metonymy มีอยู่ในทุกภาษาทั่วโลกเลย ดังนั้นหากเพื่อนๆกำลังเรียนภาษาต่างประเทศอยู่ การเรียนรู้คำประเภทนี้ของเขา ก็จะช่วยให้เราใช้ภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีอรรถรสมากขึ้น ด้วยนั่นเอง ! อย่าลืมลองไปใช้กันดูนะคะ แล้วไว้เจอกันใหม่บล็อกหน้าค่ะ 

    จากกันไปด้วยมีมน้องโบ้ ?  ฝันดีค่ะ Zzzzzzz

    อ้างอิง
    ไทย
    https://www.innnews.co.th/lifestyle/news_86971/
    https://www.blockdit.com/posts/603327423f6a490bf429f644
    ญี่ปุ่น
    https://www.lettuceclub.net/news/article/219424/
    https://ddnavi.com/news/205513/a/ 
    https://www.excite.co.jp/news/article/Curazy_66732/
    https://zatsuneta.com/archives/006960.html
    https://psnews.jp/dog/p/25550/
    อังกฤษ 
    https://examples.yourdictionary.com/examples-of-metonymy.html
    https://smartblogger.com/metonymy-examples/
    ภาพ
    ปก : https://unsplash.com/photos/9JuzOoPcuHI
    WHOLE FOR PART FOR WHOLE metonymy : https://www.researchgate.net/figure/WHOLE-FOR-PART-FOR-WHOLE-metonymy_fig13_287993124

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
dearimese (@dearimese)
เขียนได้น่าสนใจและเข้าใจง่ายมากเลยค่ะ
clinomaniac (@clinomaniac)
สรุปได้ดี เข้าใจง่ายมากเลยค่ะ บางคำเราก็ใช้จนชินจนพึ่งมาสังเกตมามันคือ metonymy เช่น อ่านหนังสือ (ที่แปลว่าหนังสือนิยายจ้า555) หรือประโยคในภาษาอังกฤษพวกขอความช่วยเหลือที่ยกมาด้วย สรุปตัวอย่างมาให้เยอะดีมากเลยค่ะ
k.l.k (@k.l.k)
สมัยครูใช้แต่ เจ้าด่าง เจ้ามอม (เชยมาก) สรุป metonymy ได้ดีมาก งั้นที่ถูก ポチ ต้องใช้กับหมาตัวเล็กสินะคะ เพราะมาจาก petit