.
.
.
เจโน่มีไอเดียอยู่มากมายตอนที่บอกจีซองว่า ‘You could stay and chill for a while.’
แต่ทั้งหมดทั้งมวล ความจริงเขาแค่อยากใช้เวลาส่วนตัวกับอีกคนบ้างเท่านั้น
เจโน่คิดว่าอยากจะดูหนังสักเรื่อง อาร์โอวีหรือพับจีสักสองสามเกม ไม่ก็เปิดเพลย์ลิสต์โปรดในสปอติฟายอันล่าสุดที่เพิ่งค้นเจออาทิตย์ก่อน
พอพูดตัวเลือกออกไปจีซองก็เลือกที่จะดูหนัง แต่ทุกคนคงรู้ว่าการเลือกหนังในเน็ตฟลิกซ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด
คนเด็กกว่านั่งกดโทรศัพท์อยู่บนบีนแบ็กที่ปลายเตียงได้สักพักก็เริ่มเบื่อ เงยหน้าขึ้นมากี่ครั้งเจโน่ก็ยังจุ้มปุ้กอยู่ที่หน้าแล็ปท็อป ไม่กดเลือกอะไรเสียที
“Jen?”
“Yes?”
“I’m bored now, c’mon.”
“You come here and choose one then.” เจ้าของห้องหันมาเบ้ปากใส่เขาก่อนจะหันกลับไป
ให้เลือกเหรอ ได้
จีซองโยนโทรศัพท์ลงข้างตัวก่อนจะถดตัวลงที่พื้น มือสองข้างคว้าเข้าที่เอวของคนข้างหน้า
“What are you doing?!”
ออกแรงดึงครั้งเดียวเจโน่ก็เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนอย่างง่ายดาย คนตัวเล็กกว่าส่งเสียงพลางยื่นมือไปข้างหน้าเหมือนเวลาเด็ก ๆ ยื่นมือหาตุ๊กตา
มันน่าฟัดนัก
“You told me to choose one, so I did.”
“What?”
จุ๊บ
“I chose you.” แค่เขากดจูบลงเบา ๆ ที่แก้ม เจโน่ก็สะดุ้งเหมือนลูกหมาตกใจ
ยังไม่เลิกเขินเสียที ใช่ว่าครั้งแรกที่ไหนกัน
แต่หน้าตาตื่นตูมอย่างนั้นยิ่งทำให้เจ้าตัวขาวบนตักน่ามันเขี้ยว
“What’s wrong?”
“That doesn’t— h- hey”
จีซองถาม แต่ไม่ได้เปิดโอกาสให้ตอบแม้แต่น้อย
มือใหญ่โอบเอวอีกคนเข้ามาใกล้ เจโน่เม้มปาก ลมหายใจติดขัดเมื่อสัมผัสอุ่นไล่ประทับจากแก้มนุ่มลงมาถึงหลังใบหู ย้ำลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนจรดลงที่ซอกคอ
“That doesn’t sound like you at all.” แม้จะพูดอย่างนั้น แต่รอยยิ้มน่ารักก็เผยขึ้นเมื่อหลังของเจโน่แนบลงกับแผ่นอกของคนข้างหลัง แล้วรับรู้ถึงจังหวะเต้นของหัวใจที่รุนแรงไม่แพ้กัน
“How so?” จีซองซบหน้าลงกับไหล่ลาด ปลายจมูกคลอเคลียต้นคอคนพี่ไม่ห่าง
ทางเจโน่ได้ยินคนขี้เก๊กถามออกมาหน้าตาเฉยแล้วก็เกิดหมั่นไส้ขึ้นมา เขาขืนตัวออกก่อนจะพลิกตัวมานั่งประจันหน้ากับคนขี้แกล้ง
จีซองพยายามแล้วที่จะไม่ยิ้ม แต่ท่าทางซุกซนอย่างนั้นทำเอาเขาอดไม่ได้จริง ๆ
“You’re always cold. What are you, Jack Frost?”
แม้จะโดนบอกว่าเย็นชา คนตรงหน้าก็ยังยิ้ม
เห็นหรือเปล่า ถ้าอยู่ข้างนอกก็ไม่มีวันหรอกที่จีซองจะยิ้มออกมาอย่างนั้น
“Yeah? What else?”
“You always act like you don’t care about me.”
“Uh-huh? What else?” จีซองก้มลงประสานสายตากับคนตัวเล็กกว่า
“See? You don’t even care. You’re always mean, and you— you barely… remember anything I said.” เจโน่ว่าต่อ แต่ก็เอนตัวหนีเมื่อสัมผัสได้ถึงความอันตรายจากอีกฝ่าย รอยยิ้มที่มาพร้อมสายตาร้ายกาจอย่างนั้นไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด
“Wow, dear me.”
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด
“G!!”
ลูกหมาอย่างเจโน่ จะไปทันอะไรลูกหมาป่าอย่างจีซอง
“Have I been that awful to you?” รู้ตัวอีกทีก็ถูกช้อนในท่าเจ้าสาวกลับขึ้นมาบนตัก จีซองโยกตัวไปมาเบา ๆ ทำราวกับเขาเป็นเด็กตัวเล็ก
แต่เจโน่ไม่ได้ตัวเล็กแล้ว ไม่เลย
จีซองต่างหาก โตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“เนี่ย— What’s wrong with you?” ประโยคฟังดูหาเรื่องขนาดนี้ แต่เสียงกลับอู้อี้ไปหมดเพราะคนบนตักยกมือขึ้นปิดหน้าเอาไว้
“Answer my question.” จีซองสั่งเสียงเบา
แต่เสียงทุ้มต่ำอย่างนั้นกลับทำให้คนฟังใจสั่นมากกว่าครั้งไหน ๆ
“You are awful.” จีซองหลุดยิ้ม มือใหญ่เกี่ยวมือของอีกคนลงมากุมเอาไว้ แต่กลายว่าเป็นต้องยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อเจโน่ที่ยังไม่ยอมสบตากันเอียงหน้าเข้าหาแผ่นอกของเขาแทน
นั่นทำให้เจโน่โดนหอมแก้มเป็นครั้งที่สองของวัน
ตาใสหลับแน่นหลังจากหันมาแล้วสบเขากับตาเรียวที่ห่างไปไม่ถึงคืบ
“G, don’t do this to me.”
“You hate it?”
“No, I don’t. Of course, I don’t hate it.” เจโน่ซุกหน้าลงกับอกเขาอีกครั้ง “But we’re not even a thing yet.” คราวนี้น้ำเสียงกลับแฝงความน้อยใจเข้ามาดื้อ ๆ
“You think so?”
แน่นอนว่าจีซองเอ็นดูสีหน้างอแงของเจโน่ แต่ครั้งนี้เขาคงปล่อยมันผ่านไปไม่ได้
“What do you mean?”
ชัดเจน ว่าที่ผ่านมาเจโน่ไม่ได้เข้าใจอะไรเลย
“Do you think I’m just messing around with you?” จีซองถาม
“I don’t— I mean, I don’t know.” เจโน่เสียงดังขึ้นเล็กน้อย
ที่เมื้อกี้เขาบอกว่าจีซองเย็นชา ดูไม่ใส่ใจเขาน่ะ เจโน่ไม่ได้แค่พูดเล่น ไม่เลย
จริงอยู่ว่าสามปีที่ผ่านมาระหว่างพวกเขาดูเหมือนมีอะไรมาตลอด แต่เจโน่คิดเสมอว่าเขาเป็นฝ่ายเดียวที่วิ่งตามจีซอง
ความสัมพันธ์ของพวกเขาไร้คำนิยาม
และตลอดมามีแต่เขาที่รอ แม้จะห้ามตัวเองแล้วแต่เจโน่ก็ยังคิดอย่างนั้นมาเสมอ
ทุกช่วงเวลาที่ใช้ด้วยกัน และทุกสัมผัสที่จีซองมอบให้ ไม่เคยมีคำอธิบาย
เช่นเดียวกันกับจูบแผ่วเบาที่ทำเอาเขาใจเต้นแทบตายก่อนหน้านี้
“We’ve never really talked about it, have we?” น้ำเสียงเง้างอน ริมฝีปากกระจับคว่ำลงเล็กน้อย และเพราะเจโน่กึ่งนอนอยู่บนตักของเขา จากมุมนี้เลยกลายเป็นว่าตาคู่นั้นกำลังช้อนมองขึ้นมาที่เขา
ก็น่ารักแบบนี้ อยากขัดใจให้ร้องไห้ไปเลยด้วยซ้ำ
จีซองหายใจเข้าลึก เข้าใจดีว่าเขาต้องข่มความรู้สึกอยากแกล้งเอาไว้ก่อน
“I didn’t think we need to talk.”
“…”
จากหน้าตาก็รู้ว่าเจโน่กำลังไม่เข้าใจ และอาจจะพาลโกรธจนร้องไห้ขึ้นมาจริง ๆ หากเขาไม่ได้รับคำอธิบาย
จีซองยิ้ม ยิ้มทำไมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เขาอาจจะเป็นบ้าไปแล้วก็ได้
เขาปล่อยเจโน่ลงจากตัก กลายเป็นว่าทั้งคู่นั่งหันหน้าเข้าหากันอยู่ที่พื้น โดยมีเจโน่นั่งอยู่ระหว่างขาของเขาที่เหยียดเอาไว้หลวม ๆ
จีซองก้มตัวลงเล็กน้อย มองตาใสคู่นั้นเหมือนเวลาพูดกับเด็กเล็ก
“Listen, dummy.”
“...”
“I didn’t think we need to talk, since it’s so obvious. We are, so obvious.”
เจโน่เม้มปาก พยายามจะสู้โดยการจ้องตาจีซองตอบ
“Since that first day in front of my tutor room, my eyes have never left you.”
แต่เจอไปเท่านั้นก็เกมโอเวอร์
เจโน่อยากตีตัวเอง แต่ตอนนี้เขาได้แต่ชันเข่าขึ้น มือขาวยกขึ้นมาปิดหน้าอีกครั้ง
เห็นอย่างนั้นแล้วจีซองเองก็เผลอยกมือขึ้นปัดปลายจมูกแก้เขินเหมือนกัน
เขารู้ตัวดีว่ากำลังทำตัวน่าเลี่ยนแค่ไหน ปกติแล้วคงรับตัวเองไม่ได้เลยที่เป็นอย่างนี้
“You were a deputy house captain, a year later you were a house captain, now you’re a college sophomore but…”
โดยเฉพาะประโยคต่อไป
“…all I ever was is yours.”
หูของเจโน่แดงเหมือนกำลังจะไหม้
จีซองยิ้มกับภาพตรงหน้า ทั้งที่อุตส่าห์กลั้นมาตลอดทาง
ไม่สิ ตลอดสามปี
“See? “You’re awful.” เจโน่บ่นอยู่กับฝ่ามือของตัวเอง “Awfully awful.”
ตอนนี้เขากลับทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มออกมา ยิ้มแบบที่กว้างจนรู้สึกว่าแก้มปวดไปหมด
“And you’re awfully cute.”
end (?)
ฮึ่ย เจโน่น่ารักทนไม่ไหว อัพซะเลย ;—;
นี่คือซองโน่สำหรับเราเลยค่ะ คือเจโน่ที่น่ารักกับน้องตลอด ชอบดูแลน้อง (ถึงบางทีจะซึนๆไปบ้าง) แต่จีซองชอบทำเหมือนไม่ชอบ ไม่สนใจ ทั้งที่ความจริงก็คิดว่าพี่เขาน่ารักจะแย่ เจ้าพวกเด็ก !
หวังว่าจะชอบกัน ฝากด้วยนะคะ ✊?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in