"เพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง 花束みたいに恋をした (hanataba mitai na koi o shita) “ตกหลุมรักดั่งช่อดอกไม้” เพลงนี้เล่าถึงความรักตั้งแต่เริ่มจนจบของคนสองคนตามภาพยนตร์เลยโดยชื่อเพลง勿忘 (wasurena) มาจากชื่อดอกไม้ 勿忘草 หรือดอก forget me not ดอกไม้ที่บานช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอก forget me not มีความหมายว่า “อย่าลืมฉัน” และ “รักแท้” ที่มาของชื่อดอก forget me not มาจากตำนานโศกนาฏกรรมเยอรมันที่ว่าอัศวินหนุ่มคนหนึ่งต้องการเก็บดอกไม้ที่อยู่ริมเขื่อนไปให้คนรักของเขาแต่กลับพลาดตกลงไปโดยที่พยายามโยนดอกไม้ไปยังฝั่งโดยคำสุดท้ายที่เขาพูดคือ “don’t forget me” คนรักของเขาได้นำดอกไม้นี้ไปไว้ที่หลุมศพของอัศวินหนุ่มและตั้งชื่อดอกไม้สีฟ้านี้ตามคำกล่าวสุดท้ายของคนรักเธอ จึงเป็นที่มาของชื่อดอก forget me not "
歌手:Awesome City Club
作詞:atagi・PORIN
作曲:atagi
例えば今君が その瞳濡らしていたとしても
tatoeba ima kimi ga sono hitomi nurashite ita to shite mo
ต่อให้ตอนนี้น้ำตาของเธอจะเอ่อล้นออกมาก็ตาม
呼ぶ声はもう聞こえない
yobu koe wa mou kikoenai
แต่ฉันก็ไม่อาจได้ยินเสียงของเธออีกแล้ว
絵の具を溶かすように 君との日々は記憶の中 滲んでく
enogu wo tokasu you ni kimi to no hibi wa kioku no naka nijindeku
ช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับเธอมันซึมลงไปในความทรงจำดั่งสีวาดเขียนที่ละลายรวมกัน
"สีวาดภาพหรือสีน้ำเวลาที่มันละลายรวมกันแล้วสุดท้ายมันจะเป็นสีสีที่ผสมจนไม่เป็นสีเหมือนก่อน ก็คือมันไม่สดใสเด่นชัด สวยงามเหมือนเมื่อก่อนแล้วซึ่งก็เปรียบได้กับความรักของคนสองคน ที่อาจจะมาถึงทางตันแล้ว ที่แม้ว่าอีกฝ่ายรู้ดีถึงความเจ็บปวดของคนรักแต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้"
何かを求めれば何かがこぼれ落ちてく
nani ka wo motomereba nani ka ga koboreochiteku
ยิ่งแสวงหาสิ่งใด ยิ่งก็มีสิ่งอื่นที่ไหลล้นออก
そんなこの世界で
sonna kono sekai de
ในโลกนี้ที่เป็นเช่นนั้น
"ตรงนี้หมายถึงความรับผิดชอบของทั้งสองที่ต้องทุ่มเทกับมันจนละเลยความรัก ก็คือเวลาทุ่มไปกับงานมากเกินไปก็ทำให้มีเวลาให้ความรักน้อยลงเท่านั้น"
春の風を待つあの花のように 君という光があるのなら
haru no kaze wo matsu ano hana no you ni kimi to yuu hikari ga aru no nara
หากว่าเธอเป็นแสงสว่างเฉียกเช่นดอกไม้นั้นที่รอสายลมฤดูใบไม้ผลิ
巡り巡る運命を超えて
megurimeguru unmei wo koete
ก้าวผ่านโชคชะตา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
咲かせるさ 愛の花を 花束を
sakaseru sa ai no hana wo hanataba wo
ให้ดอกไม้แห่งรักได้ผลิบานเป็นช่อดอกไม้
"ดอกไม้ในที่นี้ก็คือ ดอก forget me not ที่บานในฤดูใบไม้ผลิ ที่ญี่ปุ่นฤดูใบไม้ผลิหมายถึง การเริ่มต้นใหม่ ในที่นี้อาจหมายถึงการรอคอยความรักให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง"
願いが叶うのなら ふたりの世界また生きてみたい
negai ga kanau no nara futari no sekai mata ikite mitai
หากคำอธิฐานเป็นจริงได้ อยากจะขอให้ได้ไปอยู่ในโลกมีกันละกันอีกครั้ง
あのキスから芽吹く日々
ano kisu kara mebuku hibi
วันเวลาที่ได้แตกกิ่งก้านไปจากจูบครั้งนั้น
水色花びらはもう香りを忘れ 君への想い 枯れていく
mizuiro hanabira wa mou kaori wo wasure kimi e no omoi karete iku
ความรู้สึกที่มีต่อเธอก็ได้เหี่ยวเฉาราวกับได้ลืมเลือนกลิ่นของกลีบดอกไม้สีน้ำทะเลไป
散ってしまいそうな心に覚えたての愛の美しさを
ねえ咲かせて
chitte shimai sou na kokoro ni oboetate no ai no utsukushisa wo
nee sakasete
ให้รักครั้งใหม่ที่แสนงดงามนี้ได้ผลิบานในหัวใจที่กำลังจะแตกสลาย
"ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาก็เหมือนกันความรักที่จบลงไป แต่ก็ยังอยากให้ดอกไม่ที่เหี่ยวไปแล้วกลับมาผลิบานอีกครั้งเช่นเดียวกับความรัก"
春の風を待つあの花のように飾らない心でいられたら
haru no kaze wo matsu ano hana no you ni
หากฉันอยู่ในหัวใจที่ไร้การปรุงแต่งได้ดั่งดอกไม้ที่รอคอยสายลมฤดูใบไม้ผลิได้
kazaranai kokoro de iraretara
触れられなくても
furerarenakute mo
แม้จะสัมผัสไม่ได้
想い煩っても
omoi wazuratte mo
แม้จะมีแต่ต้องกังวลใจ
忘れないよ
wasurenai yo
ก็จะไม่ลืม
"ตรงนี้อาจหมายถึงการหวนนึกถึงความรักที่จบไปแล้ว มีอุปสรรค์มากมาย ถึงจะคิดอยากกลับไปแต่ก็ทำไม่ได้ สิ่งแล้วที่ทำได้คือการเก็บไว้ภายในความทรงจำ"
この恋をひとつずつ束ねいて君という光があるのなら
kono koi wo hitotsu zutsu tabaneite kimi to yuu hikari ga aru no nara
ถ้ามีเธอที่เป็นเหมือนแสงสว่างผูกรวมรักครั้งนี้ทีละเล็กน้อย
巡り巡る運命を超えて
megurimeguru unmei wo koete
ก้าวผ่านโชคชะตา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
咲かせるさ 愛の花を 花束を
sakaseru sa ai no hana wo hanataba wo
ให้ดอกไม้นี้เบ่งบานเป็นช่อดอกไม้
"ความรักในอดีตอาจหมายถึงดอกไม้หนึ่งดอก ที่รอและหวังว่าสักวันจะรวมกันเป็นช่อดอกไม้ไม่ว่าอดีตจะเป็นอย่างไร"
https://www.uta-net.com/song/297041/
http://caffkafu-kousatu.blog.jp/archives/8663397.html
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in