เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
FUK-YOU Trip : ญี่ปุ่นหน้าร้อนeiijay_
(8)ซางะ-ตลาดโยบุโกะ
  • - ตลาดโยบุโกะตอนบ่ายตลาดวายแล้ว แต่ร้านอาหารยังเปิดอยู่

    - นั่งเรือไปเที่ยวกลางทะเล คุ้มค่าอยู่นะ;)

    - ห้ามพลาดหมึกใสกับหอยซาซาเอะย่าง

    - ใครเป็นแฟนคลับYuri on ice ไปตามรอยที่สถานีkaratsuได้นะ(แต่คราวนี้ไม่ได้ลงลึกจ้า)

    ____________________________________________________________________________

    วันนี้เป็นอีกวันที่เราตั้งใจจะมาในทริปนี้ นั่นก็คือตามรอยซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ(ติดซีรีส์55555) มากินปลาหมึกใสที่ตลาดเช้าโยบุโกะนั่นเอง! แต่คนเที่ยวมาเช้าไม่ไหวแล้ว...เลยต้องยอมเป็นตลาดบ่ายแทน แห้งเลย-3- กับอีกที่หนึ่งก็คือถ้ำหินบะซอลต์ จะเป็นแท่งเหลี่ยมๆเรียงตัวกัน คือมองจากภาพแล้วอยากมาเห็นของจริงมาก มันจะมีเรือเป็นรอบๆ นั่งไปแป็บเดียวก็ถึงแล้ว เลยต้องเพิ่มช่วงเวลาให้มันหน่อย


    กว่าจะมาถึงสถานีkaratsu แล้วรอรถบัสมาyobukoแดดก็เอียงสะแล้ว… แต่พอเห็นว่าตลาดเช้ายังไงก็วายแล้วแน่ๆ เลยตัดสินใจล่องเรือไปดูถ้ำก่อน แล้วเรื่องกินค่อยว่ากัน (ตั้งใจมากินหมึกใสกับหอยซาซาเอะย่างนะเนี่ยT^T) พอถึงท่าเรือก็เห็นจุดขายตั๋วทันที แค่บอกชื่อเรืออิกะมารุกับให้เงินไป1600เยน ก็ได้ตั๋วมาง่ายๆเลย55555555 ที่เหลือแต่แค่รอเวลาเรือออก…


    ลำนี้นี่แหละอิกะมารุ! ที่!จะพาเราไปชมถ้ำกัน เรือรูปปลาหมึกน่ารักกรุ๊งกริ๊ง


    สภาพเรือก็ปกติ มีที่นั่งให้เลือกจับจองกันเอง ที่พีคคือเรือมีเปิดTheme Songด้วย!5555


    เรือออกแล้ว มาเจอเพื่อนกลางทะเลพอดี อีกลำหนึ่งจะเป็นวาฬสีชมพู ไว้ชมปลาในทะเล ราคาตั๋วจะแพงกว่าประมาณ500เยน


    เรือเร่งสปีดแล้ววววววววววว พุ่งไปเลยอิกะมารู้ววววววววว!!


    เริ่มเห็นรูปร่างเสาแท่งๆแล้ว ใกล้ถึงถ้ำของเราแล้วแหละ!


    ยิ่งเข้ามาใกล้ก็ยิ่งสวย…. ทั้งหมดคือธรรมชาติสร้างมาล้วนๆ :) มีป้าแบกกล้องโปรมายืนถ่ายรัวๆข้างๆเราอ่ะ55555 คือทุกคนตื่นตาตื่นใจกันมาก



    วิวสุดท้ายที่ได้เห็นก่อนจะเลี้ยวเรือกลับ…. สวยงามประทับใจมากกกกกก แงงงงงงTwT



    วิวสุดท้ายก่อนขึ้นฝั่ง มองจากกลางทะเล เป็นเมืองท่าที่สวยและมีเสน่ห์จริงๆ


    พอขึ้นฝั่งมาปุ๊ป ก็ได้เวลาหาอะไรกินแล้ว เย่ๆๆๆๆๆ เราตั้งใจตั้งแต่ที่ไทยแล้วว่าจะมากินร้านนี้แน่นอน เดินตามกูเกิ้ลไปได้สักพักก็เจอร้านที่ว่านี้จนได้ ชื่อว่าร้าน Ikahonke (คนไทยรีวิวเยอะมาก5555) กำเงิน2500แน่นมาก5555555 กะว่าจะไปแล้วกินให้เต็มคราบ พอได้ปุ๊ป……..


    ส...สามสิบคิว…….


    มาตอนเที่ยงไงครับ โดนไปเลยคิวที่สามสิบ แล้วเวลาลงคิวต้องเขียนชื่อเป็นตัวอักษรญี่ปุ่นครับ………. อึ้งแดกสิ จนต้องไปดีลกับป้าพนักงานเรียกคิว ว่าขอเขียนเป็นภาษาอังกฤษได้ไหม(ทำหน้าตาจะร้องไห้ใส่… ป้าเลยทำหน้าแบบจะบอกว่า...เขียนอะไรไปก็ได้เรื่องมึ๊งงง555555) เสร็จแล้วป้าก็ไล่ให้มารอห้องรอคิวข้างๆ ที่ร้านมีระบบเรียกคิวที่ต่อลำโพงกับไมค์ประกาศไปทั่วห้อง ได้ยินเสียงเรียกชัดแจ๋วววว....


    ...แต่ป้าเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่น-______- 


    เราก็กะว่าเดี๋ยวค่อยไปยืนชะเง้อเสนอตัวเรื่อยๆละกัน เพราะป้าอ่านภาษาอังกฤษไม่ได้อยู่แล้ว


    ภาพนี้ไม่ใช่โรงแรมที่ไหนนะครับ… ห้องรอคิวของร้าน!!! ติดแอร์มีห้องน้ำในตัว วินาทีนั้นคือถามในใจเลยว่า ทำไมป้าไม่ทุบแล้วเอาไปทำที่นั่งกินเพิ่มวะ-3-


    พอไปนั่งรอได้สักพัก...อยากกินหอยซาซาเอะย่างอ่ะ คือเราจำได้ว่าเห็นร้านป้าอยู่ตรงหัวมุมถนนขายหอยย่างอยู่… ด้วยความหิวสุดๆ ก็เลยตัดสินใจลุกขึ้นมาแล้วพุ่งไปซื้อหอยกินเลยครับ คือดีกว่านั่งรอคิวที่ไม่ถึงสักทีอ่ะ….T-T แล้วดูหน้าตาหอยสะก่อน….

    น่ากินมากกกกกกก เรายืนน้ำลายหกชูนิ้ว1ใส่ป้า ป้าก็ถามภาษาญี่ปุ่นอะไรไม่รู้กลับมา ก็ยืนงงสิครับ ป้าเห็นว่ายัยนี่คุยไม่รู้เรื่องละ…. เลยทำมือแทน ยกมือป้องๆกว้างๆแคบๆ อ๋ออออออ ป้าจะถามว่าเอาตัวใหญ่ไหม55555555 เราเลยทำมือแคบๆกลับไป เอาตัวเล็กๆก่อนป้า อยากชิมเฉยๆกลัวมันไม่อร่อย555555 ป้าเลยยื่นตัว100เยนมาให้….(มีถึงไซส์400เยนแน่ะ!) มีไม้ปักไว้1อันไว้จิ้มกิน เราก็ยืนโซ้ยตรงหน้าร้านป้าเลย

    ผลลัพธ์คือ หอยอร่อยมากกกกก เนื้อกรุบกรอบโดยที่ไม่ได้ปรุงรสเพิ่มใดๆ ที่สินะของสดที่แท้จริงมักจะมีรสชาติแห่งความสดใหม่(ทำเสียงโซมะ…) ฝาที่รูปร่างพิลึกๆนั้นกินไม่ได้นะ ต้องคายออกมา55555 มันจะมีบางพาร์ทที่ขมป้าไม่ได้เอาออกให้ ให้คิดสะว่ามันเป็นขมๆติดปลายลิ้นละกัน เราก็กินลงไปทั้งตัวนั่นแหละ


    พอได้กินเสร็จก็ฝากป้าทิ้งเปลือกแล้ววิ่งกลับมาที่ห้องรอคิวเลยฮะ555555 พอรอๆไปสักพักก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเรียกเราผ่านไปแล้วป่าววะ…. ชิบละ...คุยไม่รู้เรื่องแน่เลย เลยเข้าไปยืนชะเง้อตรงป้าที่รับคิวอีกรอบ เห็นว่าเหลืออีกแค่คิวเดียวก็จะถึงเราแล้ว(เฮ้ย เร็วเว่อร์!) พอจะเรียกคิวเรา ป้าก็ทำท่าอ้ำอึ้งๆว่าจะเรียกยังไงดี เราก็เสนอตัวชึ้บบบบบบ หนูเองคร่ะป้าาาา ป้าก็เชิญให้ขึ้นชั้นสอง ก็ว่าทำไมข้างล่างที่มันน้อยๆ ที่นั่งกินอยู่ชั้นสองนี่เอง….


    อันนี้ไม่ใช่สดธรรมดาแล้ว อันนี้เขาเรียกว่าเป็นๆแล้ววววT-T จ้องตากันมาตั้งแต่ยังไม่ได้จองคิว


    พอมานั่งเขาก็เอาเมนูมาให้ดู…. เห็นภาพแล้วก็จิ้มได้เลย(อ๋อ ไม่ได้ดูภาพ ดูราคา5555)


    พอเรียกพนง.มาสั่งเสร็จเรียบร้อย นั่งโยกไปโยกมาสักพัก(ถอดรองเท้า นั่งคุกเข่ากิน) สักพักใหญ่ๆ ป้าก็เดินมาเสิร์ฟหมึกก่อน ยืนโชว์ตัดหนวดหมึกให้ดู แล้วก็เทแช่ซอสให้ดูประมาณว่า มึงดู…กินแบบนี้นะ แล้วป้าก็วินวอล์คทิ้งหนวดหมึกไว้แบบนี้


    พอเอาเข้าปากคำแรกคือ ฟินนนนนนนน เราชอบกินของดิบ เอ่อ...เรียกของสดดีกว่า คือสัมผัสมันกรอบกรุบดีมาก ไม่คาวเลย ซอสเค็มแบบมีเอกลักษณ์ ก็กินไปเรื่อยๆจนเซ็ตมาครบ โอ้วววว เยอะเหมือนกันนะเนี่ย


    ถ้าจะให้วิจารณ์เรียงจานเลยก็คงยาวไป เอาเป็นว่าเห็นก้อนๆที่เป็นสีขาวขยุกขยุยในเข่งอันนั้นอร่อยมากกกกกก เหมือนปลาหมึกเด้งๆผสมแป้ง เป็นลูกชิ้นที่อร่อยมากอ่ะ ยังนึกไม่ออกว่าจะไปหากินได้ที่ไหนในไทย ส่วนผักดองก็เข้ากันดีมากเลย(ปกติไม่กินผักนะ แต่เท่าที่มาคิวชู เขาจะมีเครื่องเคียงผักเยอะอ่ะ เรากินได้อร่อยทุกชุดเลย)



    คือเคยอ่านมาว่าเขาให้ร้านทำเทมปุระให้ได้ ที่จริงเรากินแบบสดได้หมดนะ แต่อยากลองแบบอื่นบ้างเลยส่งให้ป้าเข้าครัวไป ก็นั่งรอกินอย่างอื่นเล่นไปเรื่อยๆ รอนานเลยแหละ จนป้าเดินมาถามอีกรอบว่ารอเทมปุระอยู่ใช่ไหม555555 เหมือนเกิดอะไรสักอย่างในครัวอ่ะ ทุกโต๊ะรอเหมือนกันหมดเลย แต่พอยกกลับออกมาแล้วโคตรดี หอม ร้อนๆ น่ากินกว่าเดิมเยอะเลย:)


    สัมผัสแป้งยังกรอบ แต่ข้างในเป็นหมึกนิ่มๆ ตอนแรกๆก็กินเปล่า เอามาจิ้มซอสอันเดิมบ้างแหละ แต่ก็พึ่งสังเกตเห็นถ้วยที่เขาให้มาใหม่ เป็นผงๆสีขาวน่าจะเป็นเกลือ พอจิ้มไปปุ๊ป...


    เฮ้ย! แตกต่าง!!! 


    ไม่เคยกินเทมปุระกับเกลืออ่ะ อร่อยมากกกกกกก คือปกติที่ไทยมันจะเป็นน้ำซอสสีน้ำตาลไว้จิ้มใช่ป่ะ แต่นี่อร่อยแปลกไปจากเดิม กลับไปกินซอสแบบเดิมไม่ได้แล้วอ่ะ=w=;; เราก็สงสัยจัดจนต้องถ่ายรูปกลับมาไว้เป็นตัวอย่าง เผื่อเอามาหากินได้ที่ไทย



    เอ๊ะ….เดี๋ยวนะ ทำไมรูปทรงผลึกมันแปลกๆ เขี่ยๆดูมันไม่ใช่เกลืออย่างเดียวหนิ….


    ร...รึว่า…….

    ….ใช่ครับ… เรากินเทมปุระกับผงชูรส!!


    เชี่ยยยยยย มันจะไม่อร่อยได้ไงล่ะ ก็กูแดกผงชูรสลงไปเนี่ย!!! 555555555555 ต้นตำรับอายิโนะโมโตะไหมละมึง55555555 คืองงไปหมดว่าเขากินกันอย่างนี้จริงๆใช่ไหม แล้วเสือกอร่อยจริง เสพติดไปสะแล้วTwT


    พอเช็คบิลแล้วเดินออกมา….(2500เยนมีบวกภาษีด้วยนะ…) เราก็เดินตัวลอยออกมา… ถือว่าสำเร็จไปอีกจุดประสงค์หนึ่ง อร่อยสมกับที่รอคอยมานานกว่า5ปี (ตั้งแต่ดูเก้ากินในเรื่องซากะครั้งแรกอ่ะ ตั้งแต่ตอนนั้นก็อยากกินมาตลอดเลย)

    หน้าร้านมีของIkahonke ตัวฮิรางานะเท่าที่จำได้ไปอ่านได้แค่อิกะ...555555 เห็นประโยชน์ของมันแล้วใช่มะ55555555555555



    ตอนขาเดินออกมาจะนั่งรถบัสกลับสถานี เจอกับป้าคนเดิมที่ย่างหอยอยู่ตรงหัวมุม ร้านป้าขายน้ำแข็งไสด้วย! แล้วก็จะมีป้าจูงหลานมาซื้อน้ำแข็งไสกิน ไอ้เราก็อยากลองบ้าง(ไม่เคยกินของญี่ปุ่นอ่ะ55555) เห็นเด็กสั่งแบบอิจิโกะเลยขอลอกเด็กบ้าง(บ้านเราสีแดงจะเป็นรสสละ แต่ที่นี่เป็นน้ำหวานรสสตรอเบอรี่!)



    ได้มาแล้ว:) ป้าคิดแค่200เยนเอง เหมือนว่าป้าจะจำได้ว่าเคยมาซื้อหอยย่างรอบหนึ่งแล้ว5555 รสชาติไม่เหมือนน้ำแดงของไทยนะ มีกลิ่นสตรอเบอรี่หอมๆ บวกกับนมข้นหวานที่หวานอร่อยกว่าที่เคยกิน ลงตัวมากกกกก เลิฟเลย! สตาร์บงสตาร์บัคอะไรไม่ต้องแล้วววววว


    หลังจากนั้นก็ขึ้นบัสจากสถานีกลับ ตอนนี้ICOCAของเราไม่มีเงินแล้ว เลยต้องหยิบตั๋วที่มีหมายเลขมา


    ตอนที่จะกลับก็แวะมาเดินรอบๆสถานีคารัทสึเล็กน้อย เจอของที่ระลึกของยูริออนไอซ์เต็มๆ ดาเมจแรงมาก!! ><





    แต่ความจริง จุดมุ่งหมายวันนี้เรายังไม่จบ….

    วันนี้คือวันที่เราเฝ้ารอมาตลอด วันที่เราจะได้ดูดอกไม้ไฟของญี่ปุ่นแท้ๆ…. :)





เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in