เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
life chapternamnuam
พากินอาหารอินเดียฉบับนักศึกษา
  • สวัสดีค่า ทุกคน คิดถึง minimore มากๆๆๆ นานมาแล้วที่เราไม่ได้มาเขียน blog เพราะว่าค่อนข้างยุ่งในการเรียนและจัดการชีวิตของตัวเอง เนื่องจากพอเป็นนักศึกษาก็ไม่ค่อยว่างเหมือนตอนมัธยม อีกทั้งไฟนอลอิสคัมมิ่งด้วย ต้องรีบสะสางงานด่วนๆ แต่ไหนๆช่วงก่อนไฟนอลได้หยุดยาวทั้งทีก็เลยจะมาเขียนรีวิวอาหารอินเดียที่เราไปลองกินมาเมืื่อ 2 วันที่แล้วสักหน่อย

    บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าใน ม.ธรรมศาสตร์ รังสิตอะ เค้ามีอาหารอินเดียขายด้วยนะ สำหรับคนที่ชอบกินอาหารหลากหลายแบบเรา พอรู้ว่ามีอาหารอินเดียในมธ.ก็ต้องรีบไปเลย ซึ่งที่ที่เราไปมาก็คือ Asian Institute of Technology  หรือที่เด็กมธ. เรียกกันว่าว่า AIT หลายคนก็อาจจะไม่รู้ว่าที่นี่เค้ามีอะไร นอกจากมหาวิทยาลัยที่มีคนแขกเยอะๆ 
    เราก็เลยจะมาพาทัวร์และพาชิมแบบสั้นๆกัน ตามไปดูเลยจ้า :-)

    ป.ล. เนื่องจากเราถ่ายรูปมาน้อย เดี๋ยวไว้ครั้งหน้าจะมาต่อพาร์ท 2 นะ เพราะคิดว่าจะไปแก้มืออีกรอบ


    เราไปถึงตอนประมาณ 10 โมง ภายใน institute ค่อนข้างเงียบ ไม่เห็นคนเลย นอกจากคนที่อยู่หอ เหมือนมันเช้าเกินไปมั้ง ที่นี่ตอนเข้ามา คนนอกก็ต้องแลกบัตรก่อนนะ แต่เราเป็นนักศึกษามธ.เลยเข้ามาได้เลย ตึกๆ ตรงนี้ก็คือหอพัก มีต้นไม้เต็มไปหมด รู้สึกร่มรื่นดี เหมือนเข้ามาอีกโลกที่ไม่ใช่ในมธ.เลย เพราะปกติข้างนอกมันร้อนมากอะ  



    เลี้ยวขวาจากหอพัก เดินตรงเข้ามาเรื่อยๆ ก็จะเจอโรงอาหาร ที่นี่เค้ามีอยู่ 2 โรง ต้องแลก cash card ก่อนไปซื้ออาหาร เหมือนศูนย์อาหารในห้างงี้ แนะนำว่าให้แลก 200 บาท เพราะว่ามีค่ามัดจำบัตร 30 บาท โรงแรกที่เจอก่อน เปิดตั้งแต่ 9 โมงเช้า เราไปตอน 10 โมงก็ยังไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ ในโรงนี้มีอาหารอินเดียที่เปิดหนึ่งร้าน ชื่อร้าน Punjabi ส่วนร้านอื่นที่เปิดก็เป็นร้านตามสั่ง และร้านแฮมเบอร์เกอร์ เราเลยไปต่อที่โรงที่สอง (Su Snack Bar) ซึ่งเปิดตั้งแต่ 8 โมง คนก็น้อยเช่นกัน เราได้กลิ่นหอมเครื่องเทศตั้งแต่เปิดประตู ก็เลยเดินไปสั่งอาหารที่ร้านแรกที่เราเห็น (ซ้ายมือ) 


  • อาหารที่เราสั่งมาก็จะประมาณนี้ จริงๆไม่ค่อยรู้ว่าคนอินเดียเค้ากินยังไงก็เลยสั่งตามที่ตัวเองอยากกิน ซึ่งก็พึ่งมารู้ทีหลังว่าคนอินเดียเค้ากินกันเป็นสำรับ แต่ไม่เป็นไรเนาะ เดี๋ยวไว้มาแก้ตัวใหม่ เราว่ารวมๆอาหารอินเดียของที่นี่ เครื่องเทศไม่ได้แรงจนกินไม่ได้นะ แม่ค้าเป็นคนไทยด้วยร้านนี้ เลยคุยเข้าใจ


    สิ่งที่สะดุดตาเราอย่างแรกก็คือ Biryani หรือข้าวหมกไก่อินเดีย เค้าจะใช้ข้าว Basmati ทำ เป็นข้าวเม็ดยาวๆ ร่วนกว่าข้าวขาวที่เราเคยกิน ส่วนก้อนๆนั่นเค้าบอกว่ามันคือ Chicken Kebab (ไม่ใช่เคบับแบบบ้านเราอะ) พอกินละแบบ แอร่ก ตาย ไตพังแล้ว เค็มมาก แต่บางคนอาจจะชอบนะ แต่เราขอไม่ให้ผ่าน ทั่งร่วนทั้งเค็มจริงๆ ส่วนแกงสีส้มๆนั่นก็คือ Chicken Masala ถ้าเราเข้าใจไม่ผิดน่าจะเป็นแกงกะหรี่นะ ที่ร้านเค้าบอกว่าควรกินคู่กับแป้ง แต่พ่อค้าเค้าอินดี้เหมือนไม่อยากขาย เลยบอกว่าแป้งยังไม่ทำตอนเช้า เราเลยต้องไปซื้อแป้งจากร้าน Punjabi ที่โรงแรก เราลองสั่งแป้ง Chapati กับ Garlic Naan พ่อค้าร้านนี้ขายเก่งต่างกับร้านแรก ตอนแรกเค้าบอกไม่มี Naan แต่พอเราดูอยากกิน เค้าเลยไปทำให้ นอกจากนี้เค้ายังแนะนำให้เราซื้อแกงเค้าไปกินด้วย เพราะกินคู่กับแป้งมันจะอร่อย แต่เราซื้อแกงไปแล้ว เลยปัดๆว่าไม่เอา ไว้เดี๋ยวครั้งหน้ามาลองนะคะลุง ซึ่งแป้งของลุงก็หอมมากจริงๆ ไอเลิฟ 

     
    นี่คือแกงจากร้าน Punjabi (ออริจินอล) ดูน่ากินเนาะๆๆ เมนูของร้านนี้มีเยอะมาก มีทั้งขายเป็นเซต (recommended set 25 บาทเอง) และขายแยก มีชากับกาแฟด้วยนะ แต่เราแนะนำให้ลองกินพวกแป้งจริงๆ เพราะเค้าทำสดจากหลังร้านเลย หอมฉุย
     

    ขอปิดท้ายด้วยรูปตึกอันนี้ซึ่งไม่รู้ว่าคือตึกอะไร แต่ชอบ เพราะมันดูสะอาด เรียบๆดี รวมๆแล้วก็ชอบบรรยากาศที่นี่นะ ทั้งเงียบและร่มรื่น ต้องมีมาครั้งหน้าแน่นอนจ้าเอไอที!
    ฝากติดตามต่อไปด้วยนะ ว่าเราจะไปที่ไหนต่อ จริงๆคงไม่ได้มาเขียนบ่อยๆหรอก เพราะไม่ค่อยว่าง + ขี้เกียจ แหะๆ 

    แต่ยังไงก็ตาม ขอบคุณทุกๆคนเลยนะที่เข้ามาอ่านจึงถึงตรงนี้ หวังว่าสิ่งที่เราเขียนจะมีประโยชน์เนาะ ขอบคุณจริงๆค่า :D 





     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in