เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
QUITE SHORT STORIESgiftmeme
spring that lasts only a second
  • ชาร์ลส์ไม่ใช่คนเก่งกาจเรื่องถ้อยคำ ไม่ต้องหวังด้วยซ้ำว่าจะสื่อสารมันออกมาอย่างไร แต่ชั่วขณะที่ศีรษะของอัลเลนเอียงมาแตะไหล่ของเขาแผ่วเบา เบายิ่งกว่าแรงสั่นสะเทือนของล้อรถประจำทางที่เคลื่อนไปตามการจราจรช่วงหกโมงเย็น เขาไม่อาจนึกถึงสิ่งใดอื่นนอกจากกลีบดอกไม้บอบบางที่ร่วงหล่นลงบนผิวน้ำอย่างแช่มช้า ไม่ทิ้งแม้แต่รอยกระเพื่อมบนผืนคลองที่ไหลเอื่อยเฉื่อยจนดูเหมือนไม่ขยับ เมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เองที่เขากับอัลเลนยืนเคียงกันบนสะพาน มองดูสีสันของฤดูใบไม้ผลิโปรยปรายลงมาจากกิ่งไม้เหนือศีรษะเหมือนกระดาษชิ้นจิ๋วในงานฉลอง สีหน้าและสายตาของอีกฝ่ายจริงจังราวกำลังหาความหมายเบื้องหลังการโรยราของดอกไม้ ขณะเดียวกันแก้มและริมฝีปากก็ขยับขึ้น ๆ ลง ๆ เพราะเจ้าตัวเคี้ยวไอศกรีมแท่งไปด้วย ภาพเช่นนั้นไม่แตกต่างจากตอนนี้ เป็นภาพที่ชาร์ลส์เห็นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันอย่างการไปโรงเรียนและกลับบ้านด้วยกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง การกระทำแสนน้อยนิดที่สุดกลับมีความหมายอื่นขึ้นมาอย่างเงียบงัน — จนกระทั่งเขาระลึกขึ้นมาได้ราวกับสายตาเพิ่งปรับให้เข้ากับแสงสว่างหลังตื่นนอน หรือว่าความรักจะเป็นเช่นนี้เอง มันอยู่ที่นั่นตลอดมา ที่เรียกกันว่าหลุมรักก็ไม่ใช่อะไรนอกจากเส้นทางยาวไกลที่ลาดลงไปเรื่อย ๆ ทีละน้อย กว่าจะรู้ตัวว่าลงมาลึกแค่ไหนก็ต้องหันหลังกลับไปมองไม่ก็แหงนหน้าดูฟ้า สำหรับคนที่มีตาไว้มองแค่คนข้าง ๆ ถึงต้องใช้เวลานานจึงจะเข้าใจ


    รถประจำทางค่อย ๆ ชะลอก่อนจะจอดอย่างนิ่มนวล ผู้โดยสารชายหญิงที่แต่งกายคล้ายพนักงานบริษัทเดินลงไป เด็กนักเรียนมัธยมอีกสองสามคนขึ้นมาใหม่ หนึ่งในนั้นนั่งลงตรงที่ว่างอีกข้างของชาร์ลส์ เพราะเขาเผลอขยับตัวเล็กน้อยเพื่อเว้นระยะห่างโดยอัตโนมัติ ศีรษะของอัลเลนถึงได้เลื่อนจากไหล่ที่เอนพิงอยู่นาน พอตื่นแล้วเจ้าตัวก็ทำหน้าสีหน้างัวเงียพร้อมขมวดคิ้วใส่ราวกับว่านั่นเป็นความผิดของชาร์ลส์ เขาชินแล้ว เพราะอย่างนั้นถึงอดคิดไม่ได้ว่าเรื่องราวที่ครุ่นคิดเสียยาวยืดเมื่อครู่นี้เป็นเรื่องเพ้อเจ้อโดยแท้ จะความรักหรืออาการตกหลุมรักล้วนชวนให้ขนลุกทั้งนั้น ไม่แน่ว่าอาจมีวิญญาณจอมโรแมนติกที่เห็นว่าวันนี้อากาศเหมาะแก่การรักใครสักคนมาเข้าสิงเขาก็เป็นได้ อัลเลนชูแขนบิดขี้เกียจ ท่าทางตอนจัดทรงผมให้เรียบร้อยทำให้ชาร์ลส์นึกถึงตอนแมวที่บ้านเลียขนตัวเองอย่างตั้งอกตั้งใจ


    “ทำหน้าอะไรของนาย” อัลเลนโพล่งขึ้นมา นัยน์ตาใสแจ๋วฉายแววงุนงง “หรือว่าผมฉันยังชี้อยู่เหรอ”


    เส้นผมที่ทั้งดกดำและหนาของอัลเลนยาวเร็วจนชาร์ลส์คาดว่าต้องฟังอีกฝ่ายบ่นว่าร้อนไม่ก็รำคาญในเร็ววันแน่ เขาส่ายหน้าเป็นคำตอบ ต่อให้หัวยุ่งสักเท่าไร หมอนี่ก็ยังคงหน้าตาดีไม่เปลี่ยน ชาร์ลส์คิดแต่ไม่ได้พูดออกไป


    “นี่”


    “อะไร”


    “นายประหม่าหรือไง”


    อัลเลนคงไม่ทันคิดว่าชาร์ลส์จะจู่โจมกันแบบนี้ ทั้งที่เป็นคำถามที่สมเหตุสมผล แต่อีกฝ่ายย่อมไม่วายคิดว่าเขากล่าวหาไปเรียบร้อย อันที่จริงมันก็มีประโยชน์อยู่เหมือนกัน ในเมื่อความลังเลที่ปรากฏแวบหนึ่งบนสีหน้าของอัลเลนเปลี่ยนเป็นความดื้อรั้น ความรู้สึกอยากเอาชนะแบบเด็ก ๆ ของพวกเขาจึงเป็นวิธีเสริมสร้างความมั่นใจได้อย่างน่าประหลาด ชาร์ลส์รู้สึกได้ว่ารถประจำทางค่อย ๆ ลดความเร็วลงอีกครั้งหลังจากเข้าโค้ง อัลเลนเองก็น่าจะสังเกตได้เหมือนกันและหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาจากพื้น 


    “ซะที่ไหนล่ะ” เป็นคำตอบที่อัลเลนเอ่ยออกมาพร้อมริมฝีปากยื่น ๆ เหมือนเด็กขี้เถียง น้ำเสียงติดตลกนั่นเหมือนจะแฝงรอยยิ้มเอาไว้ หรือไม่ก็ทำให้คนฟังอยากยิ้มโดยไม่รู้ตัว ชาร์ลส์มองดูเพื่อนสนิทสะพายเป้กับไหล่ข้างหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นอย่างว่องไวเมื่อรถจอดสนิท ขายาว ๆ พาตัวอัลเลนไปถึงประตูได้แทบจะในพริบตา แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ลืมหันมายกมืออำลาแบบคนเท่ ๆ ให้ชาร์ลส์ เขาทำแค่กอดอกแล้วพยักหน้าให้เสมือนว่าเป็นคนเท่พอ ๆ กันอยู่บนที่นั่งที่เดิม มองดูร่างอีกฝ่ายลับไปจากกรอบประตู นี่ก็คล้ายแมวเวลาออกไปเล่นนอกบ้านเหมือนกัน


    อัลเลนที่ชาร์ลส์เห็นผ่านบานกระจกระหว่างที่รถเริ่มออกตัวอย่างช้า ๆ ไม่ใช่คนเท่อย่างที่เจ้าตัวพยายามแสดงให้ดูเลยสักนิด ตอนแรกหมอนั่นอาจพยายามทำเป็นดูดีตอนลงจากรถเพื่อให้คนที่รออยู่ประทับใจก็เป็นได้ ความรักมักทำให้คนทำอะไรแปลก ๆ อยู่แล้ว แต่ไม่นานนักอัลเลนก็กลายเป็นเด็กหนุ่มเงอะงะและขวยเขินที่ชาร์ลส์ไม่รู้จัก ความพยายามในการชะโงกออกไปมองขณะที่ระยะห่างระหว่างพวกเขาไกลขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ชาร์ลส์รู้สึกสมเพชตัวเองขึ้นมานิด ๆ ภาพสุดท้ายที่เห็นก่อนที่สองคนนั้นจะกลายเป็นเพียงแท่งไม้ขีดเล็ก ๆ และหายไปจากสายตาก็คือทั้งคู่จับมือกัน แขนแกว่งไปตามฝีเท้าที่ก้าวเดินราวกับท่วงทำนองที่มีแต่พวกเขาที่รู้จัก 


     ความรัก ชาร์ลส์เอนหลังพิงเบาะพลางพ่นลมหายใจ บ้านนายสิ


    แสงไฟริมทางเริ่มสว่างขึ้นทีละน้อย เสียงเพลงป๊อปที่ติดอันดับยอดนิยมดังแว่วมาจากเฮดโฟนของนักเรียนที่นั่งข้าง ๆ กัน ชาร์ลส์หลับตา ฮัมโน้ตฮิตติดหูนั้นในใจไปมา


    แล้วใครว่ามันไม่ใช่ความรักกันเล่า

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in