ราคาฝัน
B.L.Sniper
นิยายวายนุ่มละมุนแนว slow burn และ slice of life หน่อยๆ ของสถาปนิกหนุ่มน้อยไฟแรง น้องจินดา กับ ผู้บริหารอภิชาติผัว คุณธีรชาติ เจ้าของโครงการที่น้องจินดาต้องไปออกแบบออฟฟิศให้!
เนื้อเรื่องเหมือนจะออกแนว Enemy to Lover เล็กน้อย เมื่อคนช่างฝันกับนายทุนที่โฟกัสความเป็นจริงต้องมาทำงานร่วมกัน แบบอาคารของจินดานั้นถูกคิดมาอย่างดี แต่ต้องใช้งบประมาณก่อสร้างที่มากโข คอนเซ็ปอลังการจึงไม่มีความหมายเท่ากับความคุ้มค่าของการลงทุน งบที่บานปลายทำให้บอร์ดบริหารและธีรชาติปัดแบบของจินดาตกอย่างไม่ใยดี
แต่กระนั้นพระเอกของเราก็แสดงความอภิมหาชาติผัวออกมาอย่างรวดเร็วตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งเรื่อง หลังจากล้มแบบน้องย่อยยับไม่มีชิ้นดี เหตุการณ์ก็พลิกผัน มีแสงธรรมส่องลงมายังดวงตาพี่ชาติให้เบิกเนตรว่า แบบของน้องมันดีนะโว้ย มันถูกคิดมาอย่างดี ลงทุนไปไม่สูญเปล่าแน่ แค่พี่สร้างตึกตามแบบของผม ออฟฟิศพี่จะสุดปัง ขึ้นแท่นแลนด์มาร์กใหม่ตาแตกแห่งถนนสุขุมวิทแน่นอน พี่ชาติเลยผันตัวมารับจ๊อบเสริมเป็นผู้ช่วยสถาปนิกน้องจินดา CEO คืองานหลัก ใช้แรงงานคืองานรอง รับบทลูกมือช่วยน้องตัดโมเดล ทำเพลท ทำโฟโต้ชอปใดๆ
บอกเลยว่า โอโห... มันทัชใจมาก แม้ดิฉันจะเรียนสถาปัตย์ไปแค่ปีเดียวแล้วก็ลาออก แต่ยังจำไม่ลืมเลือนถึงช่วงเวลาที่เราวิกฤติเอามากๆ แบบมองคัทเตอร์แล้วอยากร้องไห้ออกมา ไอ้เชี่ยเอ๊ย งานส่ง 9 โมงเช้าแต่เที่ยงคืนแล้วโมเดลกูยังเป็นเส้นร่างบนชานอ้อยอยู่เลย การมีคนมาช่วย (โดยเฉพาะผู้ชายที่หล่อและเป็น CEO) เป็นความรู้สึกเหมือนถูกฉุดขึ้นมาจากน้ำ ถูกลากขึ้นมาจากความตาย He saved my life ต่อลมหายใจรวยระรินไปได้อีก 1 งาน
เนื้อเรื่องในความหนาเกือบ 500 หน้า เล่าถึงความสัมพันธ์ของพี่ชาติและน้องจินดาแบบค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ พัฒนากันไปเรื่อยๆ จนในที่สุดต่างคนต่างก็รู้ว่าใจตรงกัน ปมปัญหาดราม่าต่างๆ ไม่ได้มีมากมายเท่าใดนัก เน้นเรื่องความสัมพันธ์ของคนสองคนเป็นหลัก อุปนิสัยใจคอที่ต้องปรับจูนเข้าหากัน สถานะและหน้าที่การงานในสังคม โดยเฉพาะคนใหญ่โตในแวดวงสังคมไฮโซอย่างพี่ชาติ ก็ทำให้เรื่องราวความรักมีอุปสรรคนิดหน่อยแบบพอกรุบ
ตัวนิยายไม่หวือหวา ไม่โรลเลอร์โคสเตอร์ไส้บิดมวนท้องแบบตอนต่อตอนแต่อย่างใด ดำเนินเรื่องด้วยความเรื่อยๆ นักเขียนใส่ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ เช่นเรื่องงาน เรื่องคนรอบข้างของตัวละครหลัก ปัญหายิบย่อยรายวันได้ค่อนข้างบาลานซ์ ไม่น่าเบื่อ ชวนติดตาม แต่ที่สุดนัมเบอร์วันคือความผัวทิพย์ผัวใจของพี่ชาติที่ทำให้เราวางไม่ได้เลย อ่านไปก็จิกเล็บไป ต้องทำบุญวัดไหนถึงจะมีผัวเป็น CEO แบบพี่ชาติคะ ฮือออออออออ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนพูดถึงเยอะมาก ถูกยกขึ้นหิ้งให้เป็นนิยายวายน้ำดีในใจชาวเน็ต สำหรับตัวดิชั้นเองแค่ชื่อเรื่อง “ราคาฝัน” ก็ซื้อเราได้แล้ว ยิ่งเป็นแนวอาชีพ วัยทำงาน ออฟฟิศ แถมตัวละครเป็นสถาปนิกอีก ก็คือกดซื้อโดยยังไม่ได้อ่านเรื่องย่อด้วยซ้ำ ก็พบว่าดีงามตามเนื้อผ้าที่ชาวเน็ตอวยจริงๆ ค่ะ
เอาจริงแล้วพล็อตเรื่องค่อนข้างคลิเช่เลยนะ ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เลย แต่การดำเนินเรื่องและดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เราเพลิดเพลินกับการอ่านมากๆ แล้วช่วงนี้อ่านหนังสือหนาๆ ช้าแบบโคตรจะช้า แต่นี่หนาเกือบ 500 หน้า ดิฉันอ่านจบภายในสองวัน เร็วติดสปีด 5555555555คือมันอ่านง่ายๆ สบายๆ Feel good ด้วยแหละ เลยไม่ต้องคิดอะไรมาก หวีดความผัวและความน่ารักของยัยน้องจินดาก็อิ่มเอมใจ
----------------------
แต่ก็มีข้อติเตียนเล็กน้อยนะ เราไม่ค่อยติดเรื่องภาษาที่ใช้เท่าไหร่ ก็รู้สึกว่าอ่านลื่นไหล สบายดี แต่ก็มีบางจุดที่นักเขียนเขาย้ำหลายรอบในหนังสือมาก ใช้คำบ่งบอกเพื่อเน้นคาแรคเตอร์ของตัวละครซ้ำๆ อย่างเช่น สถาปนิกหนุ่มไฟแรง ดิชั้นเจอวลีนี้บ่อยมากจนบางทีก็... โอเค รับทราบแล้วว่าน้องจินเป็นสถาปนิกไฟแรงจริงๆ คือรู้สึกว่าด้วยตัวเรื่องราวของเขามันก็ทำให้เราเชื่อแล้วว่าจินดาเป็นคนหนุ่มไฟแรง โดยที่ไม่ต้องอธิบายคาแรคเตอร์ด้วยคำบ่อยๆ
อีกอย่างคือ... ไม่ค่อยชอบแฟนอาร์ตในเรื่องเท่าไหร่ แต่อันนี้เราว่าก็แล้วแต่คน ส่วนตัวเรารู้สึกลายเส้นไม่ค่อยเข้ากับเรื่อง คือเนื้อเรื่องมีความ Mature และตัวละครก็โตแบบวัยทำงาน ถ้าแฟนอาร์ตใช้ลายเส้นแนวๆ Semi-Realistic เราว่ามันจะเข้ากับเรื่องมากกว่า
จบการรีวิวค่ะ.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in