เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
FictionTiggerbear
นาฬิกา
  • #เตช




    เรือนที่ 1

    เรือนที่ 2

    เรื่อนที่ 3

    ....


    นาฬิกาข้อมือนับสิบเรือนเรียงรายอยู่ตรงหน้า น่าชั่งใจนักที่จะเลือกหยิบมาสวมใส่ หากแต่แววตาที่ทอดมองไล่ดูพวกมันกลับไร้อารมณ์และความสนใจ


    ก็แค่ของจากมือ...คนเหล่านั้นนินะ


    สกปรกดี...


    เรียวตาหลุบลงเล็กน้อยนึกถึงความทรงจำอันเบลอเลือนที่เขาเลือกจะไม่ใส่ใจ... ภาพใบหน้าที่ถูกขีดฆ่า... เสียงที่ถูกลดหรี่ไป… และการกระทำต่างๆที่เขาไม่ได้ให้ความสำคัญนัก

    มือเรียวค่อยๆเลื่อนปิดลิ้นชักพร้อมหยุดความนึกคิดถึงสิ่งเหล่านั้น แต่แล้วปลายตาก็เหลือบไปเห็นกล่องเหลี่ยมบุหนังที่วางอยู่ไม่ห่างไกลนัก เขาละมือออกจากลิ้นชักและหยิบมันมาเปิด พบว่าเป็นนาฬิกาข้อมือเรือนล่าสุดที่ได้รับมา... มันไม่ได้ต่างจากเรือนอื่นๆที่อยู่ในลิ้นชัก หากแต่เมื่อนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่ได้รับมันมาเขาก็จำต้องคลี่ยิ้มบางโดยไม่รู้ตัว


    มือของคุณ…


    อย่างน้อยมันน่าจะสะอาดกว่าคนอื่นๆ...


    "ก็รักษาความสะอาดขนาดนั้นนินะ หึๆ"


    มันไม่ง่ายนักสำหรับเขาผู้ที่ไม่เคยตัดสินใจเลือกสิ่งหนึ่งสิ่งใด จะว่าเป็นคนโลภมากหรือไม่ยึดติดต่อกิเลสใดๆก็คงไม่มีข้อไหนผิดหรือถูก แต่สุดท้ายเขากลับหยิบมันออกมา เลือกมันซึ่งผู้ที่มอบให้คือบุคคลที่มีภาพใบหน้าแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำ ไม่ได้ถูกเบลอเลือนหรือถูกขีดฆ่า… เขาสวมใส่มันอย่างถนัดมือเหมือนเป็นของคุ้นชินพลางนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อไม่ถึงสัปดาห์ที่ผ่านมา


    'อ่ะ....'


    'หืม? อะไรครับ'


    'เอาไปสิ'


    'ให้เตชเหรอครับ'


    'แล้วตรงนี้มีใครล่ะนอกจากน้อง'


    'อ่า....'


    'เห็นมองอยู่'


    '.....'


    สุดท้ายก็ต้องรับเจ้าถุงที่มีกล่องบุหนังอยู่ ซึ่งเพียงเห็นชื่อแบรนด์เขาก็พอจะรู้ว่ามันเป็นนาฬิกาข้อมือที่เขาชายตามองขณะที่เดินเล่นกับอีกคน


    เห็นมองอยู่สินะ…


    ‘ขอบคุณครับ คืนนี้...จะตอบแทนให้นะครับ’


    ‘อืม…’


    สิ่งที่เกิดขึ้นมันช่างเรียบง่าย การได้รับมาซึ่งของมีค่านี่ก็เช่นกัน แม้มันจะไม่ใช่ด้วยความต้องการของเขา เป็นเพียงวัตถุนอกกายที่เหมือนจะถูกยัดเยียดมา เขาก็ได้รับมันมาอย่างง่ายดายเหมือนทุกที เหมือน...จากทุกคน หากแต่เขารู้ดีว่าคนผู้นี้ไม่ได้มีเจตนาเหมือนกับคนเหล่านั้น เพราะปกติเขาไม่เคยได้รับสิ่งของใดๆจากคนคนนี้ ชายผู้ไม่มีเวลาให้กับเรื่องไร้สาระและไม่มีความตั้งใจจะมอบสิ่งของให้แก่เขาด้วยความพิศวาส


    “มันสบายใจดีใช่ไหมครับ...พี่จิน”


    ชายหนุ่มพูดลอยๆออกมาพลางยิ้มบาง แม้แววตาจะไม่ได้แปรเปลี่ยนไปนัก เขาจ้องมองนาฬิกาข้อมือเรียบหรูสีดำที่อยู่ที่ข้อมือด้านขวาของเขาสักพักหนึ่ง จนกระทั้งมือถือของเขาดังขึ้นทำให้เขาจำต้องหลุดออกจากภวังค์ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยผิดกับเมื่อครู่เมื่อตาเรียวเห็นชื่อของบุคคลที่ค่อนข้างคุ้นตา และในวินาทีถัดมาเขาก็กดรับพร้อมกรอกเสียงนุ่มลงไป


    “สวัสดีครับ”


    ‘เตชคะ หลังเลิกเรียนเดี๋ยวพี่ไปรับเลยได้ไหม’


    “แหม...ทำไมรีบจังครับ ไหนว่าให้เตชไปเจอที่นู้นได้”


    ‘พอดีพี่ผ่านแถวนั้น แล้วก็...อยากเห็นเตชใส่ชุดนักศึกษาด้วยค่ะ’


    “.....แต่ว่า” เขามีท่าทีอึดอัดใจเล็กน้อย แต่กระนั้นสาวเจ้าที่ถือสายอยู่คงไม่มีวันรับรู้ได้


    ‘นะๆ ไม่เอาน่ะ ไม่แต่เนอะ พี่ซื้อมือถือเครื่องใหม่มาให้ด้วยนะคะ เห็นบ่นว่าเครื่องที่ใช้อยู่ร้อนง่าย’


    “อ่า...ขอบคุณครับ” สุดท้ายเขาก็ได้แต่ปั้นยิ้มตอบไปด้วยเสียงน่าฟัง


    ‘สรุปเดี๋ยวเจอกันเนอะ แค่นี้ก่อนจ้า บาย’


    สิ้นคำพูดปลายสายก็เงียบไป เขาวางมือถือลงก่อนจะถอนหายใจเบาๆด้วยความเหนื่อยหน่าย


    “น่ารำคาญเหมือนกันนะ…”


    เสียงทุ้มกล่าวออกมาท่ามกลางความสงบภายในห้อง เขาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองที่สวมใส่เมื่อครู่เพื่อดูเวลา แต่เมื่อได้จ้องมองมันอีกครั้ง แววตาที่เกือบจะขุ่นหมองเพราะบทสนทนาเมื่อครู่ก็วูบไหวเล็กน้อย เขาลูบนาฬิกานั่นเบาๆอย่างทะนุถนอม และในนาทีถัดมาก็ตัดสินใจถอดมันออกอย่างไม่ลังเล เพราะคำพูดของเขาเองที่ฝั่งลึกลงไปในความคิดได้เข้ามาเตือนสติเขา…สิ่งที่ทำให้เขาดำรงชีวิตมาได้อย่างปกติสุขยันทุกวันนี้


    ไม่ใส่ใจว่าจะเป็นใครถ้าได้รับผลประโยชน์


    ไม่สร้างปัญหาให้ตนเอง


    และไม่ยึดติดกับอะไรมากไป…


              “คุณมีประโยชน์...แต่คุณกำลังจะทำให้ผมนึกถึงคุณเกินห้านาที และนาฬิกาของคุณจะทำให้ผมมีปัญหาถ้าลูกค้าของผมเห็น”


             เขาพึมพำออกมาในขณะที่ยังจ้องมองนาฬิกาข้อมือราคาแพงในมือ เมื่อรู้สึกว่าถึงจะมองต่อไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเขาจึงเก็บมันกลับไปในกล่อง จากนั้นก็คว้าเอานาฬิกาข้อมืออีกเรือนที่อยู่ไม่ห่างกันนักขึ้นมาและใส่มัน


             “น่าจะเรือนนี้ล่ะมั้ง”

             

             สายตาลอบมองพินิจดูว่าเจ้านาฬิกาข้อมือที่ตัวเองกำลังใส่ใช่อันเดียวกันกับที่ได้รับมาจากคู่สนทนาเมื่อครู่หรือไม่ เมื่อมั่นใจได้เขาก็ยกยิ้มพอใจก่อนจะเดินไปเช็คเสื้อผ้าหน้าผมให้พร้อมก่อนที่เวลางานของเขาจะเริ่ม และไม่นานก็มีแจ้งเตือนปรากฎขึ้นบนหน้าจอมือถือของเขา ซึ่งทำให้เขารู้ดีว่าได้เวลาที่เขาจะต้องออกไปข้างนอกแล้ว


             “ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดี”


             ชายหนุ่มคลี่ยิ้มให้ตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ของตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบของใช้จำเป็นและเดินออกจากห้องไป ปล่อยทิ้งให้นาฬิกานับสิบเรือนเดินเข็มต่อไปอย่างไร้จุดหมาย หวังได้เพียงว่าเจ้าของของมันจะได้นำมันออกมาใช้ในสักวันเมื่อเห็นควร หรือทิ้งมันไปเมื่อมันไร้ประโยชน์นั่นเอง...



    ----------------------


    ***See you later***






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in