ทริปหัวหินนี้เราไปมาได้ซักพักแล้วล่ะ เป็นทริปแรกที่รอมาเนิ่นนาน(?) เพราะไม่ได้ไปเที่ยวทะเลมานานหลายปีมาก "เมื่อร่างกายต้องการทะเล" และช่วงนั้นเป็นช่วงหลังจากที่ไปฝึกงานมาหลังจากจบปี 3 (ใครอยากอ่านช่วงชีวิตก่อนหน้านี้เชิญได้ที่ ENTANEER : เรื่องเล่าของสาววิศวะ) แล้วกำลังจะเปิดเทอมใหม่ เหมือนเราจะมองเห็นอนาคตได้ว่า "ขึ้นปี 4 เวลาเที่ยวจะไม่เหลือเลยนะ! ต้องปั่นเกรด(ถ้าร่างกายและสมองยังไหว) ต้องทำโปรเจค ทำรูปเล่มปริญญานิพนธ์อีก" จึงได้ทำการเรียกร้องความสนใจ อ้อนพี่สาว อ้อนแม่ต่างๆ นานา แต่ก็ไม่เป็นผล ก็คิดไว้อยู่แล้วว่าคงไม่ให้ไป (ที่บ้านไม่ค่อยชอบให้ออกไปเที่ยวไกลๆ ไปแค่บ้านเพื่อนในซอยเดียวกัน 4 ทุ่มยังโทรตามเลย) เค้าให้เหตุผลกันว่าไม่มีตังค์พาไปเที่ยว ก็เลย อ่ะ.. โอเค ไม่ไปก็ได้ ถอดใจแล้วตอนนั้น ทำได้แค่เสิร์ชหาทริปเที่ยว วิวดีๆ นั่งดูไป จนแฟนมาเห็นแล้วถามว่า "อยากไปเที่ยวหรอ" (เจอเหยื่อแล้วค่ะคุณ) ก็เลยเสียงสองว่าอยากไปมาก จะเปิดเทอมแล้วนู่นนี่นั่น เหมือนจะเริ่มหลงกล ในตอนนั้นก็เลยบอกเค้าไปว่า "งั้นไปกันนะ เดี๋ยวหาที่พักเลย" เค้าก็ตอบตกลงว่าจะไปด้วยอาการเบลอๆ มึนๆ เหมือนโดนป้ายยา และแล้วเราก็ได้ไปเที่ยวทะเลสมใจอยากแล้วววว!!~~ ><

ตกลงกับแฟนว่าจะไปเที่ยวกัน 2 วัน 1 คืน แล้วก็เริ่มหาที่พัก เราหาที่พักเอาในเว็บ Agoda นะ ถ้าช่วงนี้ใครกำลังแพลนทริปเที่ยวเอาไว้อยู่ นอกเหนือจากเว็บนี้ก็มีเยอะแยะไปจากที่เห็นในโฆษณาทางทีวี เลือกเอาตามที่ทุกคนสะดวก เราเลือกพักที่ มด เกสต์เฮ้าส์ (Mod Guesthouse) เพราะว่าราคาไม่แพง รวมภาษี เซอร์วิสชาร์จต่างๆ นานา รวมทั้งสิ้น 585 บาท/คืน เลือกเป็นห้องซูพีเรียพัดลม มีให้เลือกแบบจ่าย ณ ที่พักด้วย (เราลืมถ่ายรูปที่พักมา .____.) ใครสนใจในช่วงราคาแบบนี้ก็ลองดูเป็นหนึ่งตัวเลือกในการตัดสินใจนะ

DAY 1

วันที่ 22 กรกฎาคม เริ่มออกเดินทางกันแต่เช้าเพื่อไปขึ้นรถตู้ที่หมอชิต 2 พอถึงก็รีบเดินไปซื้อตั๋ว ได้มาในราคา 180 บาท/คน (เก็บตั๋วไว้เป็นส่วนลดได้ใบละ 20 บาทไว้ใช้ขากลับได้)

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง บอกให้เค้าไปจอดที่ซอยหัวหิน 51 หลังจากนั้นก็พึ่ง GPS หาที่พักเอาเลย พอถึงที่พักปุ๊บ สิ่งแรกที่ทำหลังจากวางกระเป๋าคือวิ่งไปที่ระเบียงที่พักเพื่อสิ่งนี้..

คือมันดีมากกกกกกกกกกกก อากาศดีมาก ไม่ร้อน แต่แดดประเทศไทยก็ไม่ปรานีใครทั้งสิ้น แสบผิวสุด หลังจากเดินออกมากินลมชมวิวซักพักก็เริ่มหิวข้าว เพราะช่วงที่ไปถึงคือประมาณเที่ยง เลยเดินออกมาดูตามซอยว่ามีร้านไหนน่ากินบ้าง ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกว่าร้านไหนเด็ดดวง จะหารีวิวร้านอาหารบางทีก็ไกลเหลือเกิน มากันสองคนไม่มีใครขี่มอเตอร์ไซค์เป็นซักคน เลยใช้ตรรกะง่ายๆ ที่ใช้ที่ไหนก็รอด คือ "ร้านไหนคนเยอะ เข้าเลยค่ะ!" เลยมาลงเอยกันที่ร้านเจ๊กเปี๊ยะ

มาถึงก็มึนๆ งงๆ ดูเร่งรีบไปหมดเพราะคนเยอะมาก

รสชาติโอเคเลยนะ ไม่แพง ร้านนี้จะแยกกันระหว่างเซ็ตเมนูอาหารกลางวันกับอาหารเย็นนะ ถ้าเป็นอาหารเย็นราคาจะพุ่งขึ้นไปอีก

หลังจากกินอิ่มก็ได้เวลาลงไปเดินเล่นที่ชายหาดแล้ววววว โซนที่เราพักมันจะมีโขดหินค่อนข้างเยอะ ถ้าอยากเล่นน้ำใสๆ ต้องเดินออกไปไกลนิดนึง หาดแถวนั้นจะเป็นโซนที่พักราคาแพง ซึ่งเราไม่มีตังค์ ._. มีแต่ฝรั่งพักกันเยอะมาก

นี่เดินออกมาประมาณหนึ่ง หันกลับไปจะเห็นโรงแรม Hilton

เอาจริงๆ คือแดดแรงมากนะ แต่ไม่ท้อค่ะ อากาศมันดีมากจริงๆ

แล้วก็มาถึงจุดพีค ที่มาของชื่อ "น้ำใส ไหลเย็น เห็นแมงกะพรุน" อ่ะ.. ให้ภาพเล่าเรื่องค่ะ

ที่จริงเจอเยอะกว่านี้นะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา

เดินกันมา เล่นน้ำกันเพลินมาก มองเวลา อ้าว นี่มันบ่ายสองกว่า หันกลับไปมองคือเหมือนเดินมาเป็นกิโล แล้วมองดูฟ้า.. คือตกไปแล้วครึ่งหาด แล้วกำลังไล่มาเรื่อยๆ เลยรีบจ้ำอ้าวกลับที่พักโดนด่วน

พอกลับมาถึงที่พัก อ้าว.. คุณหลอกดาว ไม่ตกซักแหมะ เลยรอเวลาไปกินข้าวเย็นเลยแล้วกัน ก็ไปอาบน้ำล้างตัว เอาของออกจากกระเป๋า ดูทีวี บลาๆๆ ก็ถึงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ก็ออกไปกินข้าว ว่าจะลองเปลี่ยนร้านดู แต่พอเห็นเมนูร้านเจ๊กเปี๊ยะแล้วก็กลับมากินร้านเดิมดีกว่า

มาทะเลก็ต้องกินอาหารทะเล แต่มีงบเท่านี้ ก็กินไปเท่านั้นแล้วกัน ราคารวมทั้งหมดประมาณ 500 บาท คือดี คือหนำใจ

หลังจากนั้นก็ไปเดินเล่นกับต่อที่ตลาดโต้รุ่งหัวหิน มีของกินเยอะมากๆๆๆๆๆ แต่คือไม่ไหวแล้วอิ่มสุดๆ ของเล่น ของฝาก จิปาถะทั้งหลายแต่ก็ไม่ได้ซื้อ ปากบอกว่ากินไม่ไหวแต่ก็มีของหวานตบท้าย

DAY 2

วันที่ 23 กรกฎาคมตื่น 6 โมงเช้ามารับลม

เริ่มหิวหน่อยๆ ละ ก็ฝากท้องไว้ที่ร้านเดิมมื้อสุดท้ายก็แล้วกัน(ก็ขี้เกียจเดินอ่ะ)

กินเสร็จ ตอนเดินกลับเจอเพื่อนด้วย

วันนี้วันสุดท้ายแล้วก็ขอไปชายหาดอีกซักรอบแล้วกัน แต่วันนี้ไม่เดินไปไกลแล้ว อยู่แค่แถวๆ โขดหินพอ ตอนเช้าที่หาดนี่ชอบสุดๆ เย็นสบายยยยยย

น้ำลงมากเยอะมากกกก ตามโขดหินก็จะเจอปูวิ่งไปมาเต็มไปหมด

แล้วก็จะเจอเจ้าพวกตัวเล็กๆ นี่เต็มไปหมด 

สุดท้ายก็ต้องโบกมือลาให้กับทะเลที่รัก กลับมาที่พักเก็บกระเป๋า แต่ก่อนจะกลับยังไม่วายขอเที่ยวต่ออีกหน่อย เลยเลือกไปเพลินวาน

ที่จริงมันมีอะไรเยอะแยะอยู่แต่เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาเพราะหนักกระเป๋าตัวเองมาก ปวดไหล่ ก็เลยโยนให้เหยื่อของเราหิ้วให้ (ใช่ นั่นคือกระเป๋าเราทั้งสองใบ ส่วนของเหยื่อนั้นเราสะพายอยู่เพราะเป็นเป้และเบากว่าของเรามาก)

และแล้วก็ได้เวลากลับกรุงเทพฯ นั่งรถสองแถวมาลงที่ซอยหัวหิน 51 มาซื้อตั๋วกลับ ก็ยื่นตั๋วขามาหัวหินใบสีเหลืองๆ ให้เค้าไป ได้ส่วนลดมา 40 บาท

จบแล้ววว สำหรับทริปอยากมาเที่ยวทะเลในรอบหลายปี ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของทริปนี้อยู่ประมาณ 2,600 บาทรวม 2 คนนะ งานนี้เหยื่อของเราก็เจ็บตัวไปมาก ไม่ว่าจะเป็นไม้เซลฟี่หาย ค่ากุ้งทอดกระเทียมที่ช่วยออกแม้ตัวเองจะแพ้กุ้งก็ตาม รวมๆ แล้วมีความสุขมาก