เทศกาลดนตรี Lollapalooza จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 ถึง 6 สิงหาคมปีนี้ที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ และชื่อที่อยู่ในรายชื่อเฮดไลเนอร์พร้อมกับ TOMORROW X TOGETHER ก็มี Billie Eilish, Karol G, Kendrick Lamar, the 1975, Lana Del Rey, และ the Red Hot Chili Peppers หนุ่มๆ TOMORROW X TOGETHER เป็นศิลปินเกาหลีคนที่สอง หลังจากที่เจโฮปได้ทำการแสดงที่นั่นเมื่อปีที่แล้ว และเป็นศิลปินเกาหลีกลุ่มแรกที่ได้เป็นเฮดไลน์เนอร์ของเทศกาลที่ดึงดูดผู้คนราว 400,000 คนมาที่บริเวณ Grant Park ในทุก ๆ ปี เรามาดูคำสามคำและวลีที่รวบรวมความตื่นเต้นทั้งหมดที่ TXT นำมาสู่ Bud Light Stage ในวันที่ 5 สิงหาคมกันเถอะ
1. HEADLINER
ปีนี้ที่ Lollapalooza ไม่ได้มีเพียงแค่ TOMORROW X TOGETHER ที่ขึ้นแสดงเท่านั้น แต่ยังมี NewJeans ที่ได้ขึ้นแสดงที่ T-Mobile Stage ของงานในวันที่ 3 สิงหาคมเช่นกัน นอกจากนี้ยังมี BLACKPINK ที่เป็นศิลปินหลักทั้ง Coachella ในเดือนเมษายนและ BST Hyde Park ในเดือนกรกฎาคม มันไม่เพียงแค่กลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น ที่จะเห็นศิลปินเคป๊อปแสดงในเทศกาลสำคัญ ๆ ที่จัดขึ้นมายาวนาน ทั้งในและนอกสหรัฐอเมริกา แต่ในกรณีของ TOMORROW X TOGETHER พวกเขายังได้รับช่วงเวลาและเวทีที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย ความต้องการเคป๊อปที่เพิ่มขึ้นในงานเทศกาลต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงพลังของแฟน ๆ เคป๊อปและการบุกตลาดเพลงของเคป็อป
TOMORROW X TOGETHER ปรากฏตัวครั้งแรกที่ Lollapalooza ในฤดูร้อนปี 2022 ด้วยชุดการแสดงที่มีความยาว 45 นาที ในสารคดี TOMORROW X TOGETHER: OUR LOST SUMMER ที่พูดถึงการทัวร์ในอเมริกาและหยุดลงที่เทศกาลดนตรี Lollapalooza แสดงให้เห็นว่าสมาชิกในวงกังวลเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่พวกเขาอาจได้รับในงานเทศกาลอย่างไร แต่ความกลัวของพวกเขาก็บรรเทาลงเมื่อการแสดงของพวกเขาได้รับเสียงเชียร์จนหูแทบแตก และมวลมหาคนดูก็ร้องเพลงตามเพลงฮิตของวงได้ โชว์ในครั้งนี้ทำให้ผู้คนในสหรัฐอเมริกาค้นพบพวกเขามากขึ้น และเปลี่ยนผู้ฟังให้กลายเป็นแฟน ๆ มากขึ้น จากนั้น หนึ่งปีต่อมา หนุ่ม ๆ ก็กลับมาร่วมงานเทศกาลอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับมาในฐานะเฮดไลน์เนอร์ หรือศิลปินหลัก โดยมีคอนเสิร์ตที่ยาวนานขึ้นบนเวทีที่ใหญ่กว่าเดิม และมีผู้ชมที่ให้ความสนใจมากขึ้นกว่าเดิม
2. MOAPALOOZA
TOMORROW X TOGETHER เริ่มการแสดงเวลา 20.30 น. แต่เทรนด์ “TXTPALOOZA” กำลังมาแรงในสหรัฐอเมริกาทาง X (ชื่อเดิมคือ Twitter) ในเช้าวันนั้น ซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเมื่อสองวันก่อนการแสดงที่กำลังจะมาถึงของพวกเขาได้รับความสนใจมากแค่ไหน มีร้านค้าที่ขายสินค้าของ TOMORROW X TOGETHER ตั้งอยู่ใกล้กับ Grant Park ซึ่งขายสินค้าสำหรับคอนเสิร์ต Lollapalooza ที่เปิดให้บริการตลอดช่วงเทศกาล และ BIGHIT MUSIC รายงานว่ามีผู้คนมากกว่า 200 คนเข้าคิวรอในวันที่ 3 สิงหาคม มีการต่อแถวเข้าร้านตลอดสี่วันที่เปิดขาย โดยที่มีแฟน ๆ แชร์และแลกสิ่งของกัน อย่างเช่น โฟโต้การ์ด
เมื่อเช้าวันทำการแสดงของ TOMORROW X TOGETHER มาถึง ฝนก็เริ่มตกทั่วชิคาโก แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดโมอาจากการแออัดยัดเยียดตรงบริเวณทางเข้าสถานที่จัดงานเทศกาลตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้กับเวทีได้ และในช่วงบ่าย บริเวณโซนยืนของ Bud Light Stage ก็เต็มไปด้วยโมอาและแท่งไฟสีฟ้าซะแล้ว ในขณะที่ศิลปินคนอื่น ๆ ทำการแสดงตลอดทั้งวัน ไม่ว่ากล้องจะหันไปทางไหนของผู้ชม บนจอยักษ์ก็จะโชว์ให้เห็นทะเลแท่งไฟ และป้ายโฮมเมดที่มีชื่อของสมาชิก TOMORROW X TOGETHER โมอาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอยู่รอบ ๆ ร้านป็อปอัพสโตร์ และบริเวณเวทีที่เต็มไปด้วยความสงสัยอันร้อนแรงของผู้เข้าร่วมงานคนอื่น ๆ ทำให้โมอาถูกถามถึงไอดอลและแฟน ๆ ของพวกเขา ในขณะที่พระอาทิตย์ค่อย ๆ ลับขอบฟ้า ผู้คนต่างสวมเสื้อ TOMORROW X TOGETHER ถือแท่งไฟ และสวมใส่สิ่งที่บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นโมอาหลั่งไหลกันเข้ามาที่เวทีอย่างไม่สิ้นสุด
เมื่อถึงเวลาแปดโมงเช้า ที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนและแท่งไฟไม่ได้มีเพียงแค่บริเวณโซนยืนหน้าเวทีเท่านั้น แต่ยังมีบริเวณด้านข้างที่ยื่นออกไปไกลจากเวทีอีกด้วย ในเวลาเดียวกัน ผู้คนที่สัญจรไปมาก็รวมตัวกันเป็นฝูงชนอยู่ด้านนอก เมื่อคอนเสิร์ตใกล้เข้ามามากขึ้น หน้าจอขนาดยักษ์ก็เล่นคลิปสารคดีสั้น และมิวสิควิดีโอ แม้ว่าสมาชิกจะยังไม่ได้ขึ้นเวที แต่ก็มีเสียงเชียร์ดังขึ้นทุกครั้งที่มีสิ่งใหม่ ๆ ปรากฏบนหน้าจอ และบรรดาฝูงชนต่างก็ตะโกนชื่อของพวกเขา แท่งไฟของ TOMORROW X TOGETHER ส่องสว่างเป็นสีฟ้าสดใสไปทั่วท้องฟ้าที่มืดมิด และเมื่อการนับถอยหลังเริ่มต้นขึ้น เสียงคำรามแห่งความตื่นเต้นก็พลุ่งพล่านออกมาจากสีฟ้าของแท่งไฟที่เปล่งประกาย มันเป็นเสียงที่ดังที่สุดตลอดทั้งวัน
ผู้ชมต่างพากันร้องเพลงตามเนื้อร้องของแต่ละเพลงตั้งแต่จังหวะที่หนุ่ม ๆ ออกมาเปิดการแสดงด้วยเพลง “0X1=LOVESONG (I Know I Love You)” และร่วมร้องเพลงไปด้วยกันอีก 90 นาทีเต็ม มันไม่ใช่แค่เพลงภาษาอังกฤษและคอรัสที่มีเนื้อเพลงภาษาอังกฤษ แต่ยังรวมถึงเนื้อเพลงภาษาเกาหลี และแม้แต่เพลงที่ยังไม่ได้เผยแพร่อีกด้วย “ฉันตื่นเต้นกับเพลงที่พวกเขาจะเริ่มร้อง และตื่นเต้นกับดอกไม้ไฟชุดใหญ่ด้วย" - Eliza โมอาจากนิวเจอร์ซีย์กล่าวพร้อมหัวเราะ “และฉันหวังว่าจะได้ดูเพลง 'Cat & Dog' เพราะ ฉันอยากได้ยินเสียงเห่าในชิคาโก” มันคือแฟนชานท์ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าฝูงชนมักจะพากันตะโกนขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงเมื่อพวกเขาแสดงเพลงนี้ โมอาจากฟลอริดาชื่อ Hollie กล่าวว่า “ตื่นเต้นมาก ๆ ที่ได้รู้ว่า TOMORROW X TOGETHER จะแสดงอะไรในครั้งนี้ เพราะฉันจำได้ว่าปีที่แล้วพวกเขามีท่าเต้นเยอะมาก” และปีนี้เขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน ผู้ชมชื่นชอบการเต้นที่เผ็ดร้อนและแดนซ์เบรคเหล่านั้นมาก และเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้เห็นฝูงชนเต้นไปพร้อมกับเพลงที่อยู่ในชาเลนจ์ TikTok อย่าง "Good Boy Gone Bad" และ "Happy Fools" featuring Coi Leray นอกเหนือจากจำนวนเพลงที่เปี่ยมไปด้วยพลังเหล่านี้ ยังมีเพลงที่ทำให้ซาบซึ่งด้วยเช่น เช่น “Anti-Romantic” และเพลงที่ยังไม่ได้เผยแพร่ อย่าง “Blue Spring” ที่ทำให้ผู้ชมถึงกับหลั่งน้ำตาในขณะที่ร้องตาม เซ็ตลิสต์ปิดท้ายด้วย "Sugar Rush Ride" และตามมาด้วยดอกไม้ไฟ แต่โมอาก็ยังคงตะโกนเรียก “TXT” ต่อไปแม้ว่าคอนเสิร์ตจะจบลงแล้วก็ตาม พูดได้เลยว่าการมีส่วนร่วมของโมอาเป็นซอสสูตรลับที่เปลี่ยนการแสดงที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้วให้กลายเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน หากถามใครก็ตามที่อยู่ในชิคาโกในวันนั้น พวกเขาจะบอกให้คุณได้รู้ว่านี่คือ MOAPALOOZA
3. TXT MADE HISTORY
"คุณคงจะได้ยินมันกึกก้องรัฐมิชิแกนก่อนที่คอนเสิร์ตจะเริ่ม" นิตยาสาร
Consequence เขียนถึงเสียงร้องตะโกนของโมอาขณะนับถอยหลังเพื่อเริ่มโชว์ "ในช่วง 10 วินาทีสุดท้ายอาจบันทึกเสียงกรี้ดได้ในระดับริกเตอร์เลยนะ" ความหลงไหลของโมอาในวันนั้นก็ถูกพูดถึงในสื่อใหญ่ ๆ เช่นกัน "แฟน ๆ ที่เข้าคิวกันตั้งแต่เช้าพร้อมแท่งไฟสีน้ำเงินที่อยู่ในมือ และรวมใจกันพิสูจน์ความคลั่งรักของพวกเขาด้วยการร้องเพลงที่ยังไม่ได้เผยแพร่ของ TXT อย่าง 'Blue Spring'" รายงานจาก
Rolling Stone และความตื่นเต้นทั้งหมดนั้นก็ส่งผลไปถึงโมอาทางออนไลน์เช่นกัน โดยในวันเดียวกันนั้น “TXTPALOOZA” เป็นแท็กเทรนด์ยอดนิยมอันดับสามบน X ทั่วโลกทันทีหลังจากการแสดงของ TXT วลีเช่น "TXT LOLLA 2023 HEADLINERS" กำลังได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในเกาหลีเองก็มีการกล่าวถึงเพลงในเซ็ตลิสต์นั้นแบบเรียลไทม์เช่นกัน ผู้คนที่ดูออนไลน์ผ่าน Weverse, YouTube, Hulu และอื่นๆ แสดงความคิดเห็นเช่น "ผู้ชมที่นั่นร้องเพลงท่อนเกาหลีเก่งจัง" และ "ฉันบอกได้เลยว่าพวกเขาดังแค่ไหนในอเมริกา!" เพราะแม้แต่การดูทางออนไลน์ คุณก็จะได้ยินเสียงเชียร์ดังและชัดเจน
Consequence ได้เขียนรีวิวโดยใช้ชื่อเรื่องว่า “TOMORROW X TOGETHER สร้างประวัติศาสตร์” แต่มันเป็นเรื่องที่มากกว่าความจริงที่ว่าวงเป็นเฮดไลน์ และแฟน ๆ ส่งเสียงเชียร์ดังมากขนาดไหน
สิ่งสำคัญที่สุดคือพวกเขาแสดงบนเวทีได้ดีเพียงใด “ในขณะที่โชว์ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ มันก็ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า TXT เติบโตขึ้นมากแค่ไหน” บทความในนิตยสารกล่าวต่อว่า “การหยอกล้อกันบนเวทีนั้นดูผ่อนคลายมากกว่าปีที่แล้ว พวกเขาดูสบายใจขึ้น และตัวตนของพวกเขาก็ถูกปลดปล่อยออกมามากขึ้น” และกล่าวต่อด้วยว่าความแข็งแรงที่อยู่เบื้องหลังท่าเต้นของพวกเขาทำให้พวกเขาดูเหมือน “ยอดมนุษย์” TOMORROW X TOGETHER แสดงตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่มีการหยุดพักเลยแม้แต่ครั้งเดียว และพวกเขายังคงมีพลังเหลือเฟือที่จะทำให้ฝูงชนได้ร้องเพลงและเชียร์กันอย่างตื่นเต้น การแสดงของพวกเขายังนำไปสู่การแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ เช่น “คุณสามารถบอกได้เลยว่าพวกเขายอดเยี่ยมขึ้นแค่ไหนหลังจากการทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก” และ “พวกเขาดูเป็นธรรมชาติมาก ราวกับร็อคสตาร์”
NME ให้คะแนนเต็มกับคอนเสิร์ต Lollapalooza ของ TOMORROW X TOGETHER โดยกล่าวว่า "การแสดงของพวกเขากระชับและทรงพลัง เสียงร้องของพวกเขายอดเยี่ยมมาก และการแสดงบนเวทีของพวกเขาก็ไม่ต่างไปจากร็อคสตาร์เลย" เว็บไซต์บันเทิงของสหรัฐฯ อย่าง
Vulture กล่าวไปไกลถึงขนาดที่กล่าวว่า “วงนี้ได้ทำการแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในช่วงสุดสัปดาห์เลย”
วินเทอร์ซึ่งเป็นโมอาอีกคนที่ Grant Park ได้สรุปการแสดงของ TOMORROW X TOGETHER ที่ Lollapalooza ไว้ โดยเธอกล่าวว่า "ฉันคิดว่าการเป็นเฮดไลน์ไม่เพียงแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่เขายังเติบโตและเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกด้วย" TOMORROW X TOGETHER พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นที่นิยมของพวกเขาในสหรัฐอเมริกาเมื่อต้นปีนี้ ด้วยยอดขายอันดับหนึ่งของ Billboard 200 และมียอดขายอัลบั้มมากกว่า 500,000 อัลบั้ม การแสดงของพวกเขาที่ Lollapalooza ทำให้ความนิยมนั้นเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้คนนับหมื่น การเป็นเฮดไลน์ของเทศกาลยังเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงให้ทุกคนในเทศกาลได้เห็นว่าตนเองเป็นใครอีกด้วย TOMORROW X TOGETHER เดินทางไปชิคาโกครั้งแรกเมื่อสี่ปีที่แล้วหลังจากเดบิวต์เพื่อจัดแสดงโชว์เคส และหลังจากการแพร่ระบาดที่ยืดเยื้อ วงได้เริ่มต้นทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกในอเมริกาเหนือด้วยการแสดงในเมืองต่าง ๆ และกลับมาอีกครั้งในปลายปีกับการแสดงที่ Lollapalooza ครั้งแรกที่น่าตื่นตาตื่นใจ ปีต่อมา (ในปีนี้) หลังจากแสดงคอนเสิร์ตในสเตเดียมทั่วสหรัฐอเมริกา วงก็กลับมาที่เวที Lollapalooza อีกครั้ง และคราวนี้พวกเขากลับมาในฐานะเฮดไลน์เนอร์ และจะขึ้นแสดงในงาน MTV Video Music Awards (VMAs) ประจำปี 2023 เร็ว ๆ นี้อีกด้วย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in