ระหว่างที่แมรี่ไปเตรียมนี่นั่นนู่นโน่น เราก็มาดูนาล่าและทีมลูกเรือเตรียมกรงกันจ้ะ หน้าตาก็แบบนี้...
แค่เพียงกรงเหล็กบางๆที่กั้นตรงกลางเท่านั้น
มันก็ไม่บางหรอก พูดไปงั้นแหละ แฮ่
จากนั้นก็จะแบ่งผู้ร่วมทริปออกเป็น 3 ทีม เราเป็นกลุ่มแรกที่ได้ลงไปก็จัดการใส่เวทสูทและใส่ฮู้ด เตรียมหน้ากากให้พร้อม
เหยื่อล่อคือซากปลาจริงๆ ไม่มีเนื้อแดง ไม่มีเลือดโชกแต่อย่างใด
แถมโยนๆไปนกนางนวลก็ชะแว้บเอาไปกินหม๊ด
พอปล่อยทุ่นซากปลา และโยนชิ้นปลาลงน้ำไปซักพักเราก็เห็นเงาดำๆเคลื่อนผ่านแถวๆนั้น นาล่าเรียกให้กลุ่มพวกเราเตรียมตัวและค่อยๆหย่อนตัวเองตุ๋มลงไปในกรง
ความรู้สึกที่แรกที่เอาตัวหย่อนลงไปคือ....
เชี่ยยยยยยยย น้ำเย็นสาสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
โอ้โห อุณหภูมิน้ำ 13 องศาเซลเซียสมันเป็นอย่างนี้นี่เองงงง เวทสูทกับฮู้ดไม่ได้ช่วยอะไรเลย มือสั่นมาก สั่นแบบถือกล้องสั่นถ่ายอะไรไม่ได้เล้ย ยังไม่ทันได้จัดระเบียบร่างกาย ไอ้ราวที่จับมันอยู่ตรงไหนก็ยังไม่รู้ นาล่าก็ตะโกนมาว่า GET DOWN TO THE BASE!!!! ไอ้เราก็เฮ้ย เดี๋ยวววว ยังไม่พร้อมโว้ย แต่ก็ฮุบอากาศแล้วก็มุดหัวลงไป
ตอนนั้นความหนาวคืออะไรไม่รู้ เพราะภาพที่เห็นตรงหน้าคือออออ
แอ๊ะะะะ แก๊ ฉลามมมมม ฉลามอะไรไม่รู้ แต่คือตื่นเต้นมากกกกกกกกกกก ที่เคยเห็นฉลามครีบขาวคือมันนอนอยู่เฉยๆ ส่วนฉลามหางยาวคือไกลกว่านี้มาก แต่นี่คือต่อหน้าต่อตา โว้ยยยย กรี๊ดดดดดดดดดดดด
เราก็ผลุบขึ้นๆลงๆ กลั้นหายใจดำดูด้วยใจระทึกมาก อยากให้มาใกล้ๆ อยากเห็นอีกกกกกก และจริงๆถ่ายคลิปมาเยอะมาก ถ่ายหน้าตัวเองมาด้วยนะ แต่... SD Card Error พอผลุบหัวขึ้นมาก็จัดแจงถอดเคสถอดแบตมันตรงนั้นอะ เจ๊งเป็นเจ๊ง แต่เราต้องได้รูปว้อยยยย เดชะบุญที่ไม่ทำหลุดมือและกล้องกลับมาใช้ได้ตามปกติ
อะ ลงไปใหม่!
พอมาเห็นชัดๆก็รู้แล้วว่าน้องที่มาเซย์ฮายนั้นไม่ใช่ฉลามขาวนะจ๊ะ เป็นน้อง Copper Shark แทน (สังเกตจากตรงส่วนหน้าที่ยาวกว่าฉลามขาว) ซึ่งก็ตื่นเต้นอยู่ดีละว้าาาา ฮืออออ น่าย้ากกกกกกกกกกก
ง่ำาาาาาาาา
ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังป้อนข้าวเด็กเงี้ย น่าย้ากกกกกกกก
ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่มันคือแสนไกลลลลล
พอสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าประทับใจแล้วเราก็แท็กมือให้กลุ่มสองลงไปบ้างและไปหยิบสมุดบันทึกมานั่งคุยเม้ามอยกับนาล่าต่อในเรื่องฉลาม ไถ่ถามว่าช่วงไหนคือช่วงที่เจอฉลามเยอะๆ เหตุผลอะไรที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอ ก็ได้ความรู้มาว่าฉลามขาวเป็นปลาชนิดเดียวที่เปลี่ยนพลังงานที่ได้รับให้เป็นความร้อนในร่างกาย เป็นสัตว์เลือดอุ่นนะจ๊ะ โดยอุณหภูมิของมันจะอยู่ที่ประมาณ 26 - 27 องศาเซลเซียส ช่วงนี้เป็นช่วงรอยต่อระหว่างฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ประมาณสิบนิดๆ ซึ่งหนาวเกินไปสำหรับฉลาม
ต้องมาช่วงหน้าหนาวคือเดือนมิถุนายน-กันยายนถึงจะมีโอกาสได้เจอ เพราะกระแสน้ำอุ่นจะพัดเข้ามาแทนกระแสน้ำเย็นในช่วงนั้น นัยว่าอากาศบนบกเย็น ในน้ำอุ่น ปลาแฮปปี้ มาประชุมกันโดยไม่ได้นัดหมายจำนวนมาก
ประกอบกับช่วงนี้มีพวกวาฬเพชรฆาตออกมาล่าฉลามขาวแถวนี้ทั้งๆที่มันไม่เคยจะโผล่เล้ยยย และภายในสองเดือนที่ผ่านมาเจอซากฉลามขาวเกยตื้นที่ฝั่งถึงสองตัว นังนี่มันร้ายนัก! ล่าฉลามขาวโดยกินแค่ตับและทิ้งซากไว้ให้ดูต่างหน้า ที่เหลือเลยแตกกระเจิง ตกกะใจ หายไปหม๊ด แมรี่เข้ามาสำทับว่าเจ้าพวกนี้คือ Human of the ocean นั่นแหละ! เกิดมาเพื่อทำลายล้างสายพันธุ์อื่นๆ เกิดมาเพื่อล่า เอ็งเป็นมธุสรเร้อออ (อันนี้แมรี่ไม่ได้บอก อินเนอร์เราเองแหละ)
และสาเหตุที่วาฬเพชรฆาตมาออกล่าในน่านน้ำแถวนี้นั้นอาจเป็นเพราะมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนแปลงผิดแปลกไปในทะเลก็ได้ ทำให้มันหันมาสนใจในแถบนี้ ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือสังเกตและจดบันทึกพฤติกรรมของสัตว์น้ำ มีไปลงพื้นที่เก็บข้อมูลบ้าง และหวังว่ามันจะไม่หวนกลับมาใหม่ เหล่าฉลามจะได้กลับมาดังเดิม เย้เฮ!
แต่ข้อดีก็คือช่วงนี้เราจะได้เห็น Copper Shark ที่ไม่เคยจะโผล่มาในแถบนี้ เหมือนกับว่าผู้ล่าเจ้าถิ่นหายไป ผู้ล่าหน้าใหม่ที่ตัวเล็กกว่าก็เข้ามาแย่งชิงพื้นที่ ก็ดี จะได้มีโอกาสสังเกตและศึกษาฉลามสายพันธุ์นี้ได้มากขึ้นได้มากขึ้น
สำหรับสถานการณ์ของฉลามขาวในแอฟริกาใต้และรอบโลกยังคงน่าเป็นห่วง เพราะจำนวนของพวกมันลดลงอย่างน่าใจหายซึ่งตอนนี้มีอยู่ที่ประมาณ 300 - 500 ตัว และประชากรฉลามขาวทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 2,000 - 3,000 ตัวหรือน้อยกว่านั้น ไม่รวมสายพันธุ์อื่นๆที่เสี่ยงใกล้จะสูญพันธุ์ด้วย ซึ่งการลดจำนวนลงของประชากรฉลามทั่วโลกส่งผลอย่างยิ่งต่อระบบนิเวศทางทะเล
และอีกเรื่องที่น่าเศร้าก็คือการล่าฉลาม เช่น เคสที่โอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่นที่ทำให้เรารู้สึกหดหู่มาก เรื่องของเรื่องคือทางพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนั้นจับฉลามขาวเพศเมีย ความยาวประมาณ 3 เมตรได้และเอามาไว้ในอควาเรี่ยม แล้วมันเกิดอาการเครียด พุ่งชนกระจกตลอดเวลา ไม่กินอาหาร และตายในอีก 3 วันต่อมา
เชี่ยย สลดใจอะ... ตอนเด็กๆเราชอบไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและสวนสัตว์มากๆเลยนะ แฮปปี้มีความสุขสนุกสนาน แต่พอเราได้มาดำน้ำ ได้มาสัมผัสกับบ้านของปลาจริงๆในทะเลแล้วเรารู้สึกว่าที่นี่คือบ้านของเขา บ้านที่แท้จริงที่เขาจะอยู่อย่างมีความสุข มีอิสระเสรี และรู้สึกว่ามนุษย์อย่างเราๆแม่งโคตรชั่วเลยว่ะ ไปพรากเขาออกมาจากบ้าน (แกนึกถึงเรื่องนีโม่สิ) เอามาจัดแสดง ทำเพื่อเงิน เพื่อธุรกิจ ทิ้งขยะลงทะเล ทำบ้านของพวกเขาเสียหายเป็นพิษ โอ้ยย ร้ายกว่าวาฬเพชรฆาตก็มนุษย์อย่างเราๆนี่แล บางทีอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบหนังสือ Inferno ของ Dan Brown ขึ้นมาจริงๆ
และอีกเรื่องที่น่าเศร้ามากๆไม่แพ้กันคือการล่าฉลามเพื่อการบริโภค โดยในแต่ละปีมีฉลามที่ถูกคนล่ามากถึง 100 ล้านตัว (100 milion ค่ะ ไม่ผิดค่ะ เยอะมากกกก) และในความเป็นจริงแล้วมีฉลามที่ถูกฆ่ามากกว่าในสถิตินี้ราวๆ 3 - 4 เท่าเลยทีเดียว... ก็...กลายเป็นซุปหูฉลามที่ทานๆกันนั่นแหละค่ะ เพราะฉะนั้นวอนว่าหยุดกิน มันไม่ได้มีสารอาหารมากมายอะไรขนาดนั้นอะคุณเอ๊ย กินผักเยอะๆ ล้างให้สะอาด กินหลายๆสี ชีวีก็มีความสุขแล้วเด้อออออ
พอพูดอย่างนี้แมรี่ก็เอ่ยปากชวนให้มาเป็นอาสาสมัครบ้างมั๊ยล่ะ เนี่ย พวกเราทุกคนที่นี่ก็เป็นอาสาสมัครมาก่อนกันทั้งนั่นแหละ อย่างนาล่าก็จากบ้านในแคลิฟอเนียมาอยู่ที่นี่เมื่อ 17 ปีที่แล้ว แมรี่ก็มาจากอังกฤษเหมือนกัน ที่นี่มีโปรแกรม Shark Reserch Volunteer Program ที่ก่อตั้งร่วมกันกับ White Shark Company Reserch และ Volunteer Institute ที่เป็นหน่วยงานท้องถิ่น โปรแกรมนี้มีกิจกรรมให้ทำมากมาย อาทิ...
- เก็บตัวอย่างข้อมูลและตัวอย่าง Fin ID
- ลงน้ำเข้ากรงไปสังเกตพฤติกรรมฉลาม
- ทำเซอเวย์เก็บข้อมูลจากชาวบ้าน ชาวประมงท้องถิ่น
- เรียนรู้การติดป้าย Tag บนครีบฉลาม (โอ้ยย นี่แหละฝันที่เป็นจริงหลังจากดูรายการสำรวจโลก)
- จับฉลามมือเปล่ากับการทำ Snorkeling Survey
- ว่างๆก็ไปเที่ยว ไปปีนเขา ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ พบเพื่อนใหม่มากมาย เย้
เฮ้ยยย น่าสนใจมาก หากใครสนใจก็สามารถอีเมลไปสอบถามกันได้ที่
volunteer@sharkcagediving.co.za
อาจจะไปพบเจอเราอยู่ที่นั่นด้วยก็ได้เพราะสนใจมากเหมือนกัน!
พอดูฉลามกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว (สงสารกลุ่มที่สามที่ลงไปเก้อเพราะฉลามได้จากเราไปแล้ว...) ก็ได้เวลากลับเข้าฝั่งและทานอาหารกลางวัน ระหว่างนั้นก็ฟังแมรี่เล่าเรื่องเกี่ยวกับฉลามให้ฟังอย่างคร่าวๆและก็เดินทางกลับ ก่อนจากกันแมรี่ก็ทิ้งท้ายไว้ว่า อยากให้ทุกคนนำสิ่งที่เธอและทุกคนที่นี่กำลังทำอยู่ไปบอกต่อว่าฉลามนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ Awesome ขนาดไหน (แปลคำนี้เป็นไทยไม่ได้อะ) เราทุกคนต้องช่วยกันรักษาสายพันธุ์ที่งดงามและท้องทะเลนี้ไว้นะจ๊ะ
โคตรเท่ ไอดอลมาก อยากเป็นนักวิจัยทางทะเลแบบเน้!
ก็...นั่นแหละ เราก็ทำตามอย่างที่แมรี่บอกไว้คือมาเขียนบล็อกนี้เพื่อเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับฉลามและประสบการณ์ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน core memory ของเราก็ว่าได้
ครั้งหนึ่งในชีวิตกับการเข้ากรงไปสบตากับฉลาม
ณ
Gansbaai, South Africa!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in