เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ทะเล...กับความเหงาsawasjit
อินเดีย...ในสายลมหนาว
  • คืนแรก...ในแดนภารตะ




    • ถ้าจะพูดถึง ประเทศอินเดียสำหรับนักเดินทางแล้ว ก็คงเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่จะไปเยือนสักครั้งในชีวิตประเทศที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้ ดินแดนอันทรงเสน่ห์ และมีมนตราที่น่าค้นหาเป็นอย่างยิ่งหากเมื่อได้นำความรู้สึกนี้ไปบอกกับใครต่อใครว่าอยากไปอินเดียก็มักมีคำถามกลับมาเกือบจะคล้ายกันว่า

    • “ไปทำไมอินเดีย?
    •  “สกปรกไม่มีระเบียบ ”
    • สำหรับฉันแล้วถ้อยคำเหล่านั้นเสมือนสายลมในฤดูร้อน แค่วูบวาบผ่านผิวกาย หากไม่ได้บาดลึกเข้ามาสู่ความรู้สึกมากนักมันคงไม่แปลกอะไรนักใช่ไหม ถ้าฉันจะฝันถึงการไปเที่ยวดินแดนชมพูทวีปแม้ในความเป็นจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะชวนใครไปสัมผัสประเทศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตนอย่างอินเดีย จนกระทั่งฉันได้พบกับตะวันเพื่อนรุ่นน้องเมื่อครั้งร่วมรั้วสถาบันเดียวกันเราคุยกันถูกคอหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องเที่ยว และฉันก็ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยฉันเอ่ยปากชวนตะวันด้วยประโยคง่ายๆ และเธอก็ตอบกลับมาว่า
    •  “ไปซิพี่จันทร์ หนูอยากไปถ่ายรูปสวยๆ”

    1. ทริปเดินทางไกลครั้งแรกในชีวิตของเราสองคนเสมือนนกน้อยที่หัดสยายปีก เราเลือกรัฐราชสถาน (Rajasthan) ดินแดนแห่งมหาราชาและอัครา (Agra) นครประวัติศาสตร์อนุสรณ์สถานเรื่องราวความรักอันลือชื่อ ทัชมาฮาล แผนการเดินทางถูกวางล่วงหน้าร่วมปี ทั้งอ่านหนังสือทั้งดูรีวิวสารพัดวิธีที่จะเติมความไม่รู้ จากนั้นจึงเริ่มจองตั๋วเครื่องบิน รถพร้อมคนขับ และโรงแรม

    • ต้นเดือนกุมภาพันธ์ในค่ำคืนของการเดินทางเรานัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ฉันมาถึงก่อนเวลานัดยืนรอไม่นานนัก ตะวันก็มาถึงพร้อมกระเป๋าล้อลากใบใหญ่สูงครึ่งเอว
    • “นี่ขนอะไรไปเยอะแยะ”ความแปลกใจทำให้ฉันอดถามไม่ได้
    • “ก็เสื้อผ้ากับของกินกลัวกินอาหารแขกไม่ได้”
    • อาหารก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งของฉันเช่นกันด้วยความที่เป็นคนกินยากจะว่าไปแล้วฉันเองก็ตุนเสบียงไปไม่น้อยกว่าตะวันเท่าไรนักหรอกเมื่อเคาน์เตอร์เปิดให้เช็คอิน เราสองคนก็ตรงดิ่งไปทันทีของตะวันเอกสารผ่านไปอย่างเรียบร้อย หากเมื่อมาถึงคิวของฉันบ้าง
    • “ทำไมวีซ่าไม่แสดงวันหมดอายุครับ”
    • “อยู่ด้านหลังหรือเปล่าคะ”
    • เจ้าหน้าที่ของสายการบินไทยสมายล์พลิกดูหลายครั้งแต่ก็ยังไม่พบสิ่งที่ฉันบอก จึงขอดูวีซ่าของตะวันอีกทีปรากฏว่าต่างจากเอกสารของฉันอย่างสิ้นเชิง
    • ฉันพิมพ์ใบสมัครมา!
    • แต่ไม่ได้พิมพ์วีซ่าเข้าประเทศตามที่รัฐบาลอินเดียระบุ!
    • ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ค้นหาอีเมล์ที่ทางการอินเดียส่งมาว่าได้อนุมัติวีซ่าให้แก่ฉันแล้วด้วยมือที่สั่นระริก สมาธิแตกกระเจิง แถวข้างหลังเริ่มยาวขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปหลายนาทีร้อนถึงเจ้าหน้าที่คนเดิมที่ต้องเข้ามาช่วยค้นอีเมล์ฉบับนั้น
    • “เจอแล้วครับ เดี๋ยวคุณพี่เอาไฟล์นี้ไปพิมพ์ที่ชั้นล่างนะครับจะมีจุดรับพิมพ์เอกสารอยู่”
    • ฉันกล่าวขอบคุณด้วยหัวใจที่พองโตยังไม่ได้ทันได้บินก็มีเรื่องให้ลุ้นระทึกเสียแล้ว เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปเรื่องบีบคั้นหัวใจเหล่านี้ดูเหมือนจะน้อยนิดเสียเหลือเกิน เมื่อเทียบกับเรื่องราวใหญ่โตในชีวิตที่เคยประสบมา

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in