ผมรู้นะครับว่าทำไมทุกคนเป็นห่วง
ทุกคนเห็นผมลำบาก ทุกคนเห็นผมพยายามโดยไม่มีอะไรกลับมา ทุกคนอยากให้ผมหันไปหาทางอื่นที่ง่ายและเข้ากับผมมากกว่า
ทุกคนอยากให้ผมตามหาท้องฟ้าที่สดใส เหมือนที่ทุกคนตามหากัน
แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเดินทางเข้าสู่ลมพายุและสายฝนที่โหมกระหน่ำ
เพราะผมเคยได้ยินว่าที่ปลายสายรุ้งนั้นมีความสุขรอเราอยู่
ผมจึงออกมาตามหามัน แม้ว่าชีวิตของผมจะเป็นแค่การวิ่งตามความฝันลมๆแร้งๆ
แม้ว่าชีวิตของผมจะมีแต่ฟ้าที่มืดมิดและลมที่โหมกระหน่ำ
ผมก็ยังตั้งมั่นจะมองเมฆบนฟ้าที่ลอยผ่านผมไปด้วยความหวังว่าสายรุ้งจะปรากฏ ดวงตาผมจดจ่อที่ปลายขอบฟ้า เฝ้ารอตามหาปรายสายรุ้ง
ทุกคนอาจจะพอในกับแสงอาทิตย์ที่เกิดขึ้นของฟ้าหลังฝน แต่ผมอยากไปให้ถึงปลายรุ้ง
จึงต้องวิ่งเข้าสู่สายฝนเพื่อตามหามัน
เหมือนฝนกำลังตั้งเค้ามา
อวยพรให้ผมโชคดีด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ ผมต้องไปแล้วครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขาอ่อนๆก้าวออกหากกลุ่มคนที่อยู่รอบตัว ร่างกายอันเหนื่อยล้าแทบจะล้มลงเมื่อกระทบกับสายลมที่เริ่มจะหนักตัวขึ้น บรรยากาศเปี่ยมล้นไปด้วยความชื้น ประกายไฟวูบวาบขึ้นจากก้อนเมฆสีดำทมิฬ ในวินาทีเดียวกันน้ำสามหยดตกลงกระทบแผ่นดิน
1หยดจากหน้าผากของชายผู้ตามหาสายรุ้ง
1หยดจากท้องฟ้าที่เกรี้ยวกราด
1หยดจากดวงตาของผู้ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
ฝนโหมกระหน่ำลงมา เสียงสายลมแหวกอากาศราวกับอสรพิษยักษ์ขู่คำราม ผืนแผ่นดินอ่อนยุบไปด้วยน้ำหนักของน้ำจากสวรรค์ ขาของชายผู้ฝ่าฝนจมลงสู่ดิน แต่ละเก้าที่เดินก็คือแต่ละเก้าที่ลำบาก แต่ดวงตาของชายหนุ่มไม่เคยเหรียวมองตัวเองคอยแต่เฝ้ามองไปที่เส้นขอบฟ้า
ใบหน้าของช่ายหนุ่มกระจ่างขึ้น ดวงตาเบิกโตเปี่ยมไปด้วยชีวิต ริมฝีปากเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มเมื่อแสงสีรุ้งปรากฏขึ้นบนฟ้า กำลังในร่างกายที่เคยหดหายกลับมาอีกครั้ง ด้วยขาสองขาและมือสองมือชายหนุ่มฉุดดึงตัวเองขึ้นจากดินและก้าวเดินไปหาสายรุ้งบนขอบฟ้า
ด้วยหัวใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยสายรุ้ง...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in