เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกความพยายามของอันดับ 2dwny
ตอนที่ 2 ชั่วโมงพัฒนาตนเอง
  •           หลังจากการแข่งขันภายในโรงเรียนจบลงเตยก็ยังคงเล่นเกมกับพี ก้อง และเพื่อน ๆ ต่อไป แต่ก็ยังหาโอกาสฝึกฝนฝีมือตัวเองอยู่เสมอจนกระทั่งวันหนึ่ง ก็มีข้อความจากผู้เล่นในเกมส่งมาหาเตย เมื่อเตยลองตรวจดูก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่เล่นทีมเดียวกันจากตาล่าสุด

    - 19.21 น. Frongnaja– เล่นด้วยกันมั้ยครับ

    เขาส่งข้อความมาชวนเตยให้เล่นตาถัดไปด้วยกันแรก ๆ เธอปฏิเสธ เพราะเกรงใจหากต้องไปเล่นกับคนแปลกหน้า แต่เขาก็ยังคงมาชวนเตยเล่นด้วยทุกวันและในที่สุดเตยก็ตอบตกลงเล่นด้วย ทั้งสองเล่นเข้าขากัน แม้จะเพิ่งเคยมาเล่นดูโอ้ด้วยกันหลังจากได้รับชับชนะในเกมนั้น ทั้งคู่จึงชวนมาเล่นด้วยกันบ่อยขึ้น เพื่อนใหม่ของเตยมีชื่อว่าฟร้องหลังจากเล่นด้วยกันมาสักพักหนึ่งฟร้องก็ชวนให้เตยไปรู้จักกับกลุ่มเพื่อนเล่นเกมของเขาเตยได้เจอกับเพื่อนใหม่ที่เล่นเกมเดียวกันอีกหลายคน และในไม่ช้าเตยก็สนิทกับทุกคนในกลุ่มโดยเฉพาะ ฟร้องและ แฟรงค์” ที่เตยสนิทด้วยเป็นพิเศษ กลุ่มเพื่อนของฟร้องทุกคนเป็นผู้เล่นมากประสบการณ์ทำให้เตยได้เรียนรู้การเล่นและพัฒนาฝีมือไปอีกระดับ เตยเริ่มหัดลงแรงค์หรือโหมดจัดอันดับของเกมซึ่งจะมีความตึงเครียดกว่าเกมทั่วไปที่เตยเคยเล่น และทุกคนที่เล่นในโหมดนี้ก็จะจริงจังกว่าคนทั่วไปเพราะทุกคนมาเพื่อเอาชนะ เตยลงแรงค์โดยมีคำแนะนำและความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ และแน่นอนว่าการลงแรงค์ก็มีทั้งแพ้และชนะเตยเก็บเอาประสบการณ์ที่แพ้มาพัฒนาตัวเองฝึกฝนและเรียนรู้จากฝ่ายตรงข้ามที่เก่งกว่าเรา จนสามารถไต่ขึ้นแรงค์โกลด์ได้เป็นครั้งแรกเตยยิ้มดีใจให้กับความสำเร็จเล็ก ๆ นี้ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวของการพัฒนาตัวเองเพื่อไปให้ถึงจุดมุ่งหมายที่ใหญ่กว่านั้นแม้ว่าแรงค์โกลจะเป็นเพียงแรงค์ที่ไม่ได้สูงอะไร และเพื่อน ๆ ของเตยเองก็มีแรงค์เฉลี่ยที่สูงกว่านั้นแต่การได้แรงค์โกลมาด้วยความสามารถของตนเองก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าฝีมือของตัวเองได้พัฒนาขึ้นแล้วจริงๆ

    ขณะนั้นเตยได้เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 แล้ว ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เกม League of Legends ได้รับความนิยมมากขึ้น และมีการจัดแข่งเยอะขึ้นกว่าเดิมมาก ฟร้องและแฟรงค์ก็มาชวนให้เตยไปลงแข่งด้วยกันในบางรายการแต่ทว่าเตยไม่อยากทิ้งการเรียน และเป็นช่วงเวลาที่เด็กม.6ต้องเริ่มอ่านหนังสืออย่างจริงจังเพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยอีกด้วยทำให้แม้จะมีโอกาสที่เตยใฝ่ฝันมาอยู่ตรงหน้าแต่เตยก็ไม่สามารถปลีกเวลาไปให้การเล่นเกมได้จริง ๆ แต่เตยก็ไม่ได้นึกเสียใจเพราะเตยรู้ดีว่าฝีมือของตนเองนั้นสามารถแข่งขันกับผู้เล่นคนอื่นได้อย่างสูสีแล้วและเตยก็ตั้งใจไว้ว่าหากเข้ามหาวิทยาลัยได้ตามที่หวังแล้วก็จะมีเวลาว่างมาเล่นเกมได้มากกว่าตอนนี้เตยจึงทุ่มเทเวลาให้กับการอ่านหนังสือและเรียนพิเศษอย่างหนัก จนสามารถสอบเข้าคณะอักษรศาสตร์มหาวิทยาศิลปากรได้ 

  • เตยต้องย้ายไปอยู่หอในของมหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตสนามจันทร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดนครปฐมและที่หอในเตยก็ไม่สามารถนำคอมไปด้วยได้ มีแค่เพียงโน๊ตบุ๊คซึ่งใช้สำหรับทำงาน ทำให้เตยห่างหายจากการเล่นเกมไปแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เตยก็จะกลับบ้านมาเล่นเกมกับเพื่อนอยู่เสมอและช่วงขึ้นปี 2 เตยก็ออกมาอยู่หอนอก และสามารถนำคอมมาเล่นด้วยได้ทำให้เตยได้เล่นเกมกับเพื่อนบ่อยขึ้น แต่การเรียนที่ศิลปากรนั้นไม่ง่ายเสียเลยอย่างที่ทราบกันดีว่าคณะอักษรศาสตร์ของมหาวิทยาลัยศิลปากรนั้นใช้วิธีเก็บเกรดให้ถึงเกณฑ์เพื่อเลือกเข้าเอกที่ต้องการในปี2 เทอม 2 และการเรียนเอกภาษาญี่ปุ่นของที่นี่ก็เรียกได้ว่าโหดมหาโหดถึงขั้นล้มเซียนกันเลยทีเดียว แค่เพียงวิชาภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานของปี 1 เทอม 1ก็มีคนติดเอฟกันแล้ว ยังไม่นับคนที่ถอนรายวิชานี้เพื่อหนีเอฟอีก คนที่เหลือรอดมาจนถึงปี 2 ได้ก็เริ่มเหลือน้อยลง

    เตยก็เป็นหนึ่งในคนที่ยังเหลือรอดอยู่แต่ถึงแม้เตยจะไม่ติดเอฟ เกรดของเตยก็ไม่ถึงขั้นที่จะใช้ยื่นเข้าเอกได้ในเทอม 2แม้ว่าเตยจะทุ่มความพยายามทั้งหมดที่จะสามารถทำได้ให้กับการเรียนก็ตาม เตยสละเวลาเล่นเกมทั้งหมดเพื่ออ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนเตยเข้าห้องสมุดบ่อยกว่าเปิดคอมเล่นเกมทุกวันหลังเลิกเรียนเตยและเพื่อนจะไปนั่งอ่านหนังสือกันจนมืดค่ำ แต่ถึงแม้จะพยายามอย่างหนักแล้วก็ยังไม่เพียงพอ ยิ่งพยายามหนักเท่าไหร่เตยก็ยิ่งรู้ตัวว่าไม่ใช่ทางที่ใช่สำหรับตัวเอง เตยเสียสละเวลาและความสุขของตัวเองไปแต่กลับไม่ได้อะไรกลับมา ยิ่งเป็นเหตุผลให้เตยท้อและอยากพอและยิ่งคะแนนสอบกลางภาคออกมายิ่งทำให้เตยรู้ตัวว่าเตยไม่เหมาะกับการเรียนด้านนี้สุดท้ายแล้วเตยจึงตัดสินใจซิ่วมายังคณะมนุษยศาสตร์ เอกวรรณกรรมสำหรับเด็กมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งพ่อแม่ก็เคารพการตัดสินใจและให้การสนับสนุนเตย

    การซิ่วมาเรียนปี1 ใหม่ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร เตยคิดเช่นนั้น พ่อแม่ที่เห็นว่าเตยไม่เครียดกับการเรียนเท่าเมื่อก่อนก็สบายใจเตยมีเวลามาพักผ่อนมากขึ้น และกลับมาเล่นเกมได้บ่อยกว่าแต่ก่อน เตยยังคงเล่นเกมกับกลุ่มเพื่อนสนิทของเธอฟร้องและแฟรงค์ และเมื่อเข้ามหาลัยใหม่ เตยก็ได้เจอกับผู้คนหลากหลายขึ้น เตยมีแฟนหนึ่งคนและนั่นทำให้เตยเริ่มห่างหายจากการเล่นเกมกับเพื่อนอีกครั้ง แต่ความรักครั้งนั้นก็ไม่ยืดเท่าที่คิดไว้หลังจากเลิกกันก็เป็นช่วงเดียวกับตอนเปิดเทอมขึ้นปี 2 พอดิบพอดี

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in