เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
พูดถึงเพลงFayathi Sorap
มุมมืดของเพลงรัก

  •      สวัสดีค่ะ

         คุณผู้อ่านชอบฟังเพลงกันไหมคะ 

         ถ้าใครชอบฟังเพลง หรือแม้แต่ ชอบร้องเพลง น่าจะเคยผ่า่นหูกับเพลงรักกันมาบ้างไม่มากก็น้อย เพราะส่วนใหญ่ เพลงที่ฮิตติดชาร์ตในตลาดดนตรีน่ะ ไม่แอบรักก็สมหวัง ไม่สมหวังก็อกหัก วนอยู่แค่นี้แหละเนื้อหาการทำเพลง
         นานๆทีจะมีเพลงแนว "บ้านเกิดเมืองนอน", "ยิ้มเข้าไว้" หรือ "ก็เลยเล่าสู่กันฟัง" ผ่านมาสักที แล้วก็ไม่น่าจะติดหูติดใจเท่าเพลงรัก


         คำถามต่อไป...

         คุณผู้อ่านคิดว่า บรรดาเพลงรักทั้งหลาย มีมุมมืด บ้างไหมคะ

         คงมีคนส่ายหัวบอกว่ายายคนเขียนมันเพ้อเจ้อ และอาจมีบางคนที่เถียงแทนเพลงโปรดตัวเองว่า เพลงรักมันจะมีมุมมืดได้ยังไง เธอน่ะอยู่กับกฎหมายมากเกินไปจนมองโลกในแง่ร้าย บลาๆๆ

         โอเค ไม่มีก็ไม่มี แต่ว่า อ่านตัวอย่างข้างล่างนี้ให้จบก่อน

         แล้วลองตอบคำถามนี้อีกครั้ง ก็ยังไม่สาย




         เริ่มกันที่ตัวอย่างแรก "เหตุผลของคนไม่ดี" 


         เพลงนี้ฟังเพลินๆก็ซึ้งดีเนอะ เรื่องนี้มิ้นท์สวยเชียว (จริงๆไม่ได้ดูละครหรอก ฟังแต่เพลง) แต่เอาล่ะ มาพิจารณาเนื้อเพลงที่จะหยิบยกมา ทีละท่อน..

         - "อาจเหมือนฉันเป็นคนวู่วามไม่ฟังเสียงเธอ ยิ่งห้ามยิ่งทำเสมอไม่มีเหตุผลและเอาแต่ใจ.." 
         คำถามมีอยู่ว่า ถ้าในชีวิตจริง คุณเจอคนที่เห็นตั้งแต่ต้นแล้วว่า ใจร้อน พูดอะไรไม่ฟัง และเอาแต่ใจตัวเอง คุณจะรับเขาเป็นแฟนไหม? 
         ...ถ้าคุณคิดคล้ายเรา คุณคงบอกว่า ไม่เอา(โว้ย) นิสัยเสียแบบนี้ไปข้างหน้าเถอะ อยู่ด้วยกันปวดหัวตายชัก 
         ...เพลงเริ่มไม่ค่อยหวานละ

         - "..ก็คนมันรัก มากเกินตัดใจ จนไม่อาจจะเสียเธอไปได้เลย.." 
         ท่อนนี้ฟังดูก็ดีแหละ ดูเป็นพวกทุ่มเทในความรัก ฟังเคลิ้มๆอาจนึกไปว่าถ้าฉันได้คนแบบนี้เป็นแฟน ชีวิตคงจะดี เพราะเขาคงจะเอาอกเอาใจฉันมากเป็นแน่ 
         แต่ช้าก่อน ลองนึกถึงภาพต่อไป หลังจากที่คุณเป็นแฟนกับคนแบบนี้แล้ว เวลาต่อมาคุณเกิดหมดรักในตัวเขา และจะเลิก ถ้าคนๆนั้นยึดมั่นตามเพลงนี้จริงๆ คุณว่าเขาจะทำอย่างไร
         เราตอบให้ เขาจะทำทุกอย่างไม่ให้คุณไปจากเขา แม้ว่าสิ่งนั้นจะหมายถึง การฆ่าคุณ(และฆ่าตัวเอง)ให้ตายก็ตาม 
         ...เพลงยังซึ้งอยู่มั้ยคะ? 

         - อีกซักท่อน "..ที่หวงใครๆต่อใครที่มาใกล้ชิดเธอจนมากไป.."
         ฟังเพลินๆก็คงซึ้งอีกนั่นแหละ(เป็นคนอ่อนไหว//เหรอ?) แหม เขาต้องรักฉันมากแน่ๆ ถึงได้ไม่อยากจะเสียฉันไป และหวงฉันมากขนาดนั้น
         หยุด!!
         จริงๆแล้วเนี่ย การหวงมากไปก็ใช่ว่าจะดี เพราะชีวิตคงไม่ค่อยสนุกถ้าต้องมาคอยตอบคำถามว่า วันนี้ไปไหน ไปกับใคร อีตาคนนั้นที่ไลน์มาหานี่ เพื่อนเรอะ? จะนอกใจใช่มั้ย?? 
         ชีวิตมันต้องเครียดขนาดนั้นมั้ย นี่มีแฟนหรือผู้คุม? 
         การหวงแต่พองามอาจทำให้ความรักมีชีวิตชีวาได้ แต่การตามติดแจ การเจ้ากี้เจ้าการ ก้าวก่าย อันแสดงถึงความไม่ไว้ใจและไม่ให้เกียรติ ทั้งๆที่อีกฝ่ายก็ไม่เคยทำอะไรเสียหาย นานๆไป ความรักน่าจะพัง 

         เห็นถึงมุมดาร์กๆ หรือมืดๆของเพลงนี้ บ้างแล้วหรือยัง 



         อีกสักตัวอย่างหนึ่ง "เสียดายของ"


         ฟังเพลินๆก็เพราะดีอีกเช่นเคย 

         อันที่จริง คนที่ตั้งประเด็นจากเพลงนี้ไม่ใช่เรา แต่คือพ่อเรา อยู่วันหนึ่งที่นั่งรถไปด้วยกัน แล้วเพลงนี้ถูกเปิดผ่านวิทยุคลื่นหนึ่งพอดี ฟังไปพักหนึ่ง พ่อก็พูดขึ้นมาว่า 
         "นี่มันเพลงนักข่มขืนนี่หว่า ปล่อยเธอผ่านไปไม่ได้ ต้องฉุด!"
         เราก็โวยวายแทนเพลงกลับไปว่า พ่อน่ะมองโลกในแง่ร้าย เพลงเขาไม่ได้จะสื่อแบบนั้นเสียหน่อย

         เวลาผ่านไป เริ่มโตขึ้น พอหวนกลับมาฟังเพลงนี้อีกครั้ง ถึงท่อน "..อย่างเธอแค่มองไม่ได้หรอก ให้มองอย่างเดียวไม่ได้หรอก.." ก็เริ่มนึกถึงคำพูดพ่อ แล้วก็แบบ เออว่ะ ความหมายมันถึง ยิ่งพอถึงท่อน "..ฉันเสียดายของ.." 
         เออ ชัดเจน ชัดเจนมากว่าถ้าใครยึดมั่นตามเพลงนี้ เขาต้องกระทำการอะไรสักอย่างขึ้นเป็นแน่ ซึ่ง หากเป็นการกระทำในทางดี เช่น เข้าไปคุย ไปทำความรู้จัก ก็แล้วไป แต่ถ้าจะเข้าไปล่อลวงสาวไปทำมิดีมิร้ายเนี่ย 

         ยุ่งแน่ ยุ่งแน่แน่!!!


         เลือกมาชัดๆให้อ่านสองตัวอย่าง จริงๆยังมีเพลงที่ฟังแล้วเอ๊ะอีกนะ เช่นเพลง รักไม่ต้องการเวลา ที่ตัวเนื้อเพลงจริงๆ ไม่มีอะไร แต่เสี่ยงที่พวกเจ้าชู้กะลาวนจะเอาไปล่อหลอกให้คนซื่อๆเชื่อ แล้วล่อลวงไปเพื่อประโยชน์ส่วนตน อะไรแบบนั้น 

         พูดกันตามตรง เราไม่คิดว่าคนทำเพลงเขาหวังจะให้เพลงตัวเองมีความหมายออกมาในแง่ลบหรอก แต่คงเพราะภาษามันดิ้นได้ มันจึงสามารถตีความไปได้สุดแต่ใจจะคิด และสุดแต่ความหมายจากถ้อยคำจะแสดงให้เป็นไป 
         ซึ่ง ถ้าคนฟังเพลงไม่ได้คิดอะไร หรือ มีวุฒิภาวะมากพอที่จะแยกแยะผิดถูกได้แล้วเนี่ย ฟังเพลงอะไรก็คงจะไม่เกิดอะไร เราคงจะแค่ฟังพอผ่านๆ ไม่ได้เก็บมาคิดหรือเอาอย่างในทางแย่ให้เกิดเรื่อง 
         สิ่งที่ต้องระวังจริงๆคือ เมื่อเด็ก เยาวชน หรือผู้เบาปัญญา ได้ฟังเพลงเหล่านี้ แล้วเก็บไปคิดเป็นสรณะ ยึดเป็นหลักเป็นการอะไรตามเพลง 

         เมื่อนั้นแหละที่ต้องระวังให้จงหนักว่า เพลงที่เขายึดถือน่ะ จะพาไปดี หรือพาลงเหว 

         สุดท้ายและท้ายที่สุด เราไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้มาเพราะมีเจตนาจะต่อต้านวงการเพลงแต่อย่างใด เราเพียงชี้ให้เห็นเท่านั้นว่า เพลงบางเพลงนั้นมีมุมมืด ที่ไม่ได้อยู่ชัดแจ้ง แต่หากหลงเข้าไป ยึดถือ และเผลอทำตามเนื้อความในเพลงขึ้นมาจริงจัง อาจทำให้เกิดปัญหากับชีวิตหรือความสัมพันธ์ได้จริงๆ
         เพราะฉะนั้น แม้การฟังดนตรีจะถือเป็นวิธีในการคลายเครียดที่ดีอย่างหนึ่ง แต่เราก็ต้องฟังอย่างมีสติและใช้วิจารณญาณในการไตร่ตรองเนื้อหาของเพลงด้วย อย่าปล่อยให้อารมณ์พาไปแต่อย่างเดียว แล้วก็อย่าเพ้อตามโดยไม่ได้คิดอย่างถ้วนถี่เป็นอันขาด 
         ไม่อย่างนั้นอาจเกิดกรณีที่เคยเป็นข่าว ที่ว่ามีเพลงอะไรสักเพลง ฟังแล้วทำให้คนอยากฆ่าตัวตาย อะไรแบบนั้น ไม่สร้างสรรค์เลย  

         แต่ถึงจะพูดไปอย่างนั้น เราก็ยังชอบฟังเพลงอยู่ดี และเพลงที่กล่าวถึงทุกเพลงในบทความนี้น่ะ 

         ...ตอนที่เขียนถึง ก็เอาเนื้อร้องและทำนองมาจากในหัวเราเอง ทั้งนั้นแหละ 


         และหากคุณผู้อ่านลองฟังเพลงอื่นๆแล้วเห็นว่า มีมุมมืดเทือกๆนี้อยู่ อยากจะแชร์ความเห็น ก็สามารถคอมเม้นท์มาได้นะคะ จะรออ่านค่ะ


         สวัสดีค่ะ 


          ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่
         https://alwaysfay.blogspot.com/2023/02/blog-post.html
         ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
         จนกว่าจะพบกันใหม่
         สวัสดีค่ะ


      


         
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in