เปิดตัววงน้องใหม่อย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมปี 2018 หนุ่มๆ ATEEZ(เอทีซ) ก็ได้คัมแบ็คครั้งแรกหลังจากที่ได้ปล่อยมินิอัลบั้มเดบิวท์ชุดแรกออกไปอย่าง TREASURE EP.1 : All To Zero เป็นการเปิดปฐมบทเรื่องราวของเหล่าโจรสลัดที่มีความใฝ่ฝันเหมือนกันแล้วพร้อมที่จะออกไปตามล่าหาสมบัติอันล้ำค่าพวกนั้นเพื่อนำมาครอบครอง
คัมแบ็คครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นที่จะพร้อมออกไปหาสมบัติกันแล้วในมินิอัลบั้มชุดที่ 2 "TREASURE EP.2 : Zero To One" โดยโปรดิวเซอร์ผู้สนับสนุนหลักในการออกเรือตามหาสมบัติในครั้งนี้ได้รุ่นพี่ร่วมค่ายอย่าง EDEN นักร้อง/โปรดิวเซอร์ประจำค่ายของหนุ่มๆจากทีม 13 ที่เคยฝากผลงานให้กับศิลปินดังมาแล้วอย่าง BTOB, Block B, Taeyeon, Soyou และเพลง Rumor จากรายการ Produce 48, โปรดิวเซอร์ BUDDY และ LEEZ โปรดิวเซอร์คู่บุญของสาวๆ Dreamcatcher แล้วยังได้กัปตันโจรสลัดอย่างฮงจุงร่วมเขียนเนื้อแร็ปและมินกิลูกเรือแร็ปเปอร์ร่วมเขียนเนื้อแร็ปสมทบ
- เปิดแทร็คออกเรือด้วย HALA HALA (Hearts Awakened, Live Alive) สไตล์ Dance-House ที่เคยปล่อย Performance Video สั้นๆออกมาแล้วก่อนหน้านี้ พอได้ฟังเพลงเต็มจริงๆเออมันเหมาะกับแทร็คชูโรงตัวเปิดที่ออกตัวเริ่มต้นได้ดีแฮะ ยิ่งช่วงบริจด์ที่เริ่มใส่จังหวะ bass ให้หนักขึ้นเป็นสเต็ปๆไปจนจบ outro โคตรเร่งอารมณ์กระตุ้นได้จัดจ้านดี
- Say My Name ไตเติ้ลแทร็คโปรโมท Moombahton/Hip-hop ที่ผสมกับจังหวะ EDM ลงไปด้วยในท่อนฮุค ตัวภาคดนตรีมีความเข้มข้นขึ้นต่อเนื่องจากแทร็คแรกแทบจะไม่มีช่วงให้เว้นพักหายใจกันเลยทีเดียว แต่แอบไม่ชอบการที่เอามินกิมาร้องฮุคที่เป็นเสียงทุ่มมันทำฟีลเพลงดูโดดและดร็อปลงไปในการฟังครั้งแรกแต่พอฟังไปสักพักเริ่มเข้าที่เข้าทาง เออมันก็เท่ดีเหมือนกันนะ
- ได้กำลังใจกลับคืนมาแล้ว Promise คำมั่นสัญญาของกัปตันเรือที่ปฏิญาณตนต่อลูกเรือว่าจะอยู่เคียงข้างออกตามล่าสมบัติไม่ทอดทิ้งกันไปไหน ในจังหวะ Tropical/EDM เป็นแทร็คปิด era ที่หนักแน่นสมกับเป็นโจรสลัด
คัมแบ็คครั้งแรกนับตั้งแต่เดบิวท์มินิอัลบั้มที่ห่างกัน 3 เดือนสิ่งที่สัมผัสได้คือความเข้มข้นของการเล่าเรื่องที่มันหนักแน่นมากขึ้น แนวเพลงได้อัพเกรดให้ดูสนุกและดุดันมากขึ้นจาก All To Zero ไม่ดูเป็นวัยรุ่นทั่วไปที่กำลังสนุกอยู่กับการทำในสิ่งต่างๆ เริ่มมีความจริงจังเพื่อเป้าหมายเดียวกัน อัพเกรดความเติบโตอย่างก้าวกระโดดพร้อมที่จะแนะนำตัวเองให้ทั่วโลกได้รู้จักว่ามีวงที่ชื่อเอทีซอยู่บนโลกนี้แล้ว
สิ่งที่ชอบมากสุดในมินิอัลบั้มของเด็กๆเหล่านี้คือการรู้จักแนวทางของตัวเองว่าควรจะมาแบบไหนเพื่อให้คงความเป็นตัวเองมากที่สุด ด้วยการจัดสรรค์เรียงแทร็คทั้งหมด 5 เพลงที่โคตรจะไปในทางเดียวกันแถมยังเล่าเรื่อง theory ของตัวเองออกมาได้ดีมันไม่โดดหรือดร็อปจนเกินไป ทุกอย่างอยู่ในความพอดีเป๊ะๆ ขอชื่นชมโปรดิวเซอร์และค่ายที่วางคอนเซ็ปและแนวเพลงมาอย่างดีทำให้รู้ว่าค่ายเล็กก็กล้าที่จะเสี่ยงและลงทุนกับการทำอะไรใหญ่ๆเหมือนกัน
แต่จะว่าไปทั้งตัวเพลงและคอนเซ็ปที่ดูลงทุนมากๆมันก็ยังเป็นความเสี่ยงอีกหนึ่งอย่างของค่ายเล็กๆเพราะเปอร์เซ็นต์ที่จะประสบความสำเร็จในบ้านมันค่อนข้างน้อยนิดและแนวเพลงมันโคตรเฉพาะทางเจาะขายตลาดอินเตอร์แบบเต็มตัวแถมตัวกระแสที่ได้มาจาก MIXNINE ก็แทบจะไม่ได้ช่วยทำให้วงดูเป็นที่รู้จักมากขึ้นอีก ทุกอย่างคือวัดกันที่หน้างานและความถูกใจของคนฟังเท่านั้น การเริ่ม start ออกเดินทางเพื่อไปสู่จุดเป้าหมายเดียวกันถือว่ายังห่างไกลอยู่มากสำหรับเด็กๆเอทีซ เป็นวงที่ครบเครื่องทุกอย่างไม่ว่าทั้งการร้อง แร็ป performance และ theory ที่จะสื่อออกผ่านทางเพลงทั้งหมดแต่ก็ดูกันต่อไปว่าในอนาคตจะยังคงรักษามาตรฐานผลงานแบบนี้ให้มั่นคงอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ส่วนแทร็คเสริมในซีดีอย่าง From ขอไม่พูดถึงก็แล้วกันนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in