เมื่อมานั่งนึกย้อนกลับไปตอนเด็กๆ ก็พบว่ามีหลายเรื่องที่ผมหาคำตอบไม่ได้ว่า
"ทำไมกูต้องทำวะ?" หรือ "กูทำทำไมวะ?"
ในกรณีที่สิ่งๆ นั้นเราเป็นคนตัดสินใจจะทำเอง แม้เมื่อมองกลับไปแล้วจะรู้สึกว่ามันงี่เง่าเสียเต็มประดา ไม่มีแก่นสาร เป็นการใช้เวลาชีวิตที่มีอยู่จำกัดอย่างสิ้นเปลือง แต่ก็มักจะจบลงด้วยการเต็มใจยอมรับ
คิดเสียว่า ณ ขณะนั้นเราตัดสินใจเลือกทำสิ่งที่ดีที่สุดหรือสิ่งที่เราต้องการ
แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่ไม่ได้ตัดสินใจทำเอง บางทีก็ไม่เชิงโดนบังคับ เพราะคิดไปคิดมาก็ตอนนั้นกูเองก็เสือกเคลิ้มไปกับชนหมู่มาก ไม่ก็หลงไปกับคำคนเขาเอง
เช่น
—เอาน้ำมนต์รดหัวในคืนก่อนสอบ
ไม่รู้ว่าแม่ไม่เชื่อมั่นในมันสมองของลูกชาย หรือเห็นสภาพลูกชายนอนน้ำลายยืดใส่หนังสือเรียนสังคมหรือเปล่า เพราะทุกครั้งในคืนก่อนสอบ ก่อนที่จะผมจะไปอาบน้ำ แม่จะยื่นขวดเล็กๆ ที่บรรจุน้ำมนต์ให้
"อาบน้ำเสร็จแล้วมึงเอาน้ำมนต์รดหัวนะ จะได้สมองปลอดโปร่ง"
ใจหนึ่งก็งงๆ ว่าน้ำมนต์นี่มันจะช่วยให้ระลึกบทเรียนที่ครูพร่ำสอนตลอดทั้งเทอมได้จริงเหรอวะ อีกใจก็งงว่า สมองปลอดโปร่งนี่มันจะดีเหรอวะ อุตส่าห์อ่านตั้งหลายชม.
แต่ผมก็ทำตาม ไม่เคยขัดขืน ซึ่งพอกลับมาคิดดูก็ยิ่งประหลาดเลยนะ
เพราะแม่ผมนับถือศาสนาคริสต์...
แล้วก็ไม่เคยถามแม่ด้วยนะว่านี่น้ำมนต์จากพระหรือบาทหลวง ถ้าได้จากบาทหลวงแล้วลูกดันสวดนะโมตัสสะตอนใช้ มันจะเอฟเฟคมั้ย?
—วุ่นวายกับการตกแต่งชื่อ MSN
ย้อนไปเมื่อ 5 - 6 ปีที่แล้ว MSN เป็นพื้นที่แรกๆ ที่ทำให้เด็กไทยได้แสดงศักยภาพทางด้านศิลปะ ใช้เวลาในการสร้างอัตลักษณ์ผ่านทางอิโมติค่อน สัญลักษณ์ สีตัวอักษร สีพื้นหลัง
ซึ่งแม่งแดกเวลามากกกกกกกกกก แถมต้องหาโหลดโปรแกรมเสริมอีกนะ ยิ่งบางคนที่ไม่สันทัดในเรื่ององค์ประกอบศิลป์ ก็ต้องเสิร์ชกูเกิ้ลหาตัวอย่างการตกแต่งชื่อ หาคู่สีให้เข้ากัน หาโค๊ดสี ไม่ก็หาสัญลักษณ์ที่คนทำไว้แล้วเช่น
`•.¸¸.•´´¯`••._.• (Amazing Thailand) `•.¸¸.•´´¯`••._.•
»-(¯`v´¯)-» (Amazing Thailand) »-(¯`v´¯)-»
ไม่ก็ใช้อักขระประหลาดตาจำพวก ð å Å Â ª Ä Á À ã Ã ß Ç ç © ¢ d ð Ð ë é ê è í € £ Ë É Ê È ƒ µ ïí î ì ¡ ¦ Ï Í Î มาใช้เขียนชื่อตัวเองแทนอักษรภาษาอังกฤษ
แต่ไอการแต่งชื่อให้แตกต่างสวยงาม ก็ควรคำนึงด้วยว่ามันจะทำให้เพื่อนๆ หาชื่อของเราง่ายขึ้น
เพราะถ้าแต่งจนกูอ่านไม่ออก เสือกใช้นามแฝง หรือท่อนฮุคเพลงฮอตแทนชื่อตัวเอง
แล้วใครจะหาชื่อมึงเจออออออออ
...อ๋อ แล้วรูปโปรไฟล์ก็ดันเป็นรูปตัวการ์ตูนอีกนะ บางทีก็งงว่านี่กูคุยกับโงกุนอยู่เหรอวะ?
—โชว์เพลงที่กำลังฟังท้ายชื่อ MSN
เช่นเดียวกับการแต่งชื่อครับ เราต้องไปโหลดโปรแกรมเพิ่มเติม (จำไม่ได้แล้วว่าช่วงหลังๆ มันติดมากับ MSN เลยหรือเปล่า) เจ้าโปรแกรมนี้มันจะแสดงชื่อเพลงที่คุณกำลังเปิดฟังผ่านโปรแกรม Winamp หรือ Window media player
สันนิษฐานว่าการโชว์เพลงที่ฟังอยู่ตอนนั้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อโชว์รสนิยมหน่อยๆ แต่อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อให้คนอื่นรู้ว่า "นี่ กูฟังเพลงเศร้าอยู่ ทักมาปลอบกูหน่อย"
สิ่งที่ตลกก็คือ บางทีชื่อเพลงที่โชว์เสือกเป็นภาษาต่างดาว จบเลย ไม่มีใครรู้เลยว่ากูอกหักอยู่
ซึ่งโปรแกรมนี้ก็ฉลาดมากครับ เพราะมันไม่ได้โชว์แต่ชื่อเพลงอย่างเดียว คลิปวีดีโอก็ด้วย
ก็นั่นแหละฮะ ตื่นเช้ามาโรงเรียน แม่งรู้กันหมดทั้งห้องเลยว่าเมื่อคืนกูดูคลิปโป๊อยู่ รู้ด้วยนะว่าดูเรื่องอะไร...
—ใช้บริการเพลงรอสาย
เราเสียเงินเดือนละ 30 บาทเพื่อซื้อเพลงที่เราชอบเราอยากฟังประมาณ 30 วินาที
ให้เพื่อนฟัง
เออบ้าบอสัดๆ
ที่บ้ากว่านั้นคือ ผมเคยเอามือถือแม่โทรเข้าเครื่องตัวเองเพราะอยากฟังเพลงรอสายตัวเองด้วยนะ...
—ทุ่มเทพลังชีวิตให้กับการร้องเพลงสันทนาการ
เมื่อต้องไปแบทเทิ่ลกับคณะอื่น หรือมหาลัยอื่น เสียงร้องต้องดัง จังหวะต้องเป๊ะ ท่าเต้นต้องสุดสะวิง แม้จะไม่รู้เลยว่าที่มาของเพลงคืออะไร มีความหมายมั้ย ร้องผิดหรือเต้นผิดแล้วจะมีใครรู้มั้ย แล้วเพลงพวกนี้จะเอาไปใช้ประกวดเดอะวอยซ์ได้หรือเปล่า เพลงก็มีเยอะเหลือเกิน แต่ก็ยังเสือกจำได้ทุกท่อน
เมื่อมานั่งนึกย้อนกลับไปตอนเด็กๆ ก็พบว่ามีหลายเรื่องที่ผมหาคำตอบไม่ได้ว่า
"ทำไมกูต้องทำวะ?" หรือ "กูทำทำไมวะ"
ซึ่งคงมีอีกหลายเรื่องที่เราก็ทำๆ ไปโดยไม่เคยหาเหตุผล ไม่เคยถามว่าทำไปแล้วได้อะไร เกิดประโยชน์ต่อเราหรือต่อโลกใบนี้มั้ย
แม้กระทั่งการเคารพนับถือสิ่งที่มองไม่เห็น หรือบุคคลผู้ล่วงลับไป
แต่ถ้ามันไม่เดือดร้อนใคร และไม่ได้ฝืนใจเรา
การเลือกกระทำสิ่งที่หาเหตุผลไม่ได้นั้นก็ไม่สมควรถูกใครหัวเราะเยาะด้วยความเหยียดหยาม กลับกัน สำหรับคนที่เลือกจะทำเช่นนั้น ควรถูกตั้งคำถามกลับไปว่า
มึงทำทำไมวะ?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in