*บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาของซีรี่ย์*
.
.
.
ไม่ว่าใครคงเคยมีความรู้สึกอิจฉา โดยเฉพาะอิจฉาคนที่ตุมีพรสวรรค์ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น
"อิจฉาคนที่วาดรูปสวยจังเลย"
"อิจฉาคนนั้นจัง เขาแทบไม่เข้าเรียนเลยแต่ได้คะแนนสูงที่สุดตลอด"
และถ้าคนนั้นมีพรสวรรค์ในระดับที่โดดเด่นมาก ๆ จนเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะแล้ว คงหนีไม่พ้นการโดนคนอิจฉาอย่างแน่นอน แต่คนส่วนใหญ่คงไม่สังเกตว่าที่จริงแล้ว ความอัจฉริยะมาพร้อมกับสิ่งที่เรียกว่า "ต้นทุน"
หากลองยกตัวอย่างคนที่อัจฉริยะในแวดวงใดมาลองพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่อัจฉริยะ หรือว่าปาโบล ปิกาโซ ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นจิตรกรที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ เส้นทางชีวิตของเขาก็ไม่ได้ราบรื่นดังเช่นความอัจฉริยะที่เขามีเสมอไป
เช่นเดียวกับ "เอลิซาเบธ ฮาร์มอน" หรือ "เบธ" ตัวละครหลักในมินิซีรี่ย์เรื่อง The Queen's Gambit (2020) ที่มีพรสวรรค์ในการเล่นหมากรุก จนเรียกได้ว่าความสามารถในการเล่นหมากรุกของเบธเข้าขั้นอัจฉริยะ
ในเรื่องจะเห็นว่าเบธมีพรสวรรค์และความหลงใหลในหมากรุกตั้งแต่เธอยังเด็ก เบธได้รู้จักหมากรุกครั้งแรกผ่านลุงไชเบล ภารโรงของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธออาศัยอยู่ โดยเบธรู้สึกหลงใหลในตารางหมากรุกตั้งแต่ครั้งแรก พร้อมรบเร้าให้ลุงไชเบลสอนเธอเล่นหมากรุก ในช่วงแรกเธอยังคงเล่นไม่ชนะลุงไชเบล แต่เมื่อเวลาผ่านไป เบธเล่นได้ดีขึ้นจนสามารถเอาชนะลุงไชเบลได้ในที่สุด หลังจากนั้นเธอไปเล่นหมากรุกกับคนที่โตกว่าอีกมากมาย และสามารถเอาชนะคนเหล่านั้นได้โดยการเดินหมากเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม พรสวรรค์ในการเล่นหมากรุกของเบธมาพร้อมกับ "ต้นทุน" เช่นเดียวกับอัจฉริยะคนอื่น ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น
ความสูญเสีย..
เป็นต้นทุนประการแรกที่เบธต้องจ่าย ตั้งแต่เบธอายุ 9 ขวบ พ่อและแม่ของเธอเลิกกัน โดยพ่อของเธอมีครอบครัวใหม่และมีลูกคนใหม่ ส่วนแม่ของเธอทำใจไม่ได้จึงเลือกฆ่าตัวตาย เบธจึงต้องใช้ชีวิตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านับแต่นั้นมา อย่างไรก็ดี ณ ที่นั่นเธอได้พบกับเพื่อนสนิทอย่างโจลีน เด็กผู้หญิงที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาก่อนเบธ ซึ่งโจลีนได้ช่วยเหลือเบธหลายอย่างขณะที่เบธอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า อีกทั้งโจลีนยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเบธในตอนท้ายเรื่องอีกด้วย
แม้ว่าภายหลังเบธจะมีครอบครัวรับอุปการะเธอ แต่เบธต้องประสบกับการสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้ง นั่นคือตอนที่เธอไปแข่งหมากรุกที่เม็กซิโกกับแม่เลี้ยงของเธอ เพราะเมื่อเบธกลับมายังห้องพักของเธอหลังการแข่งขันหมากรุกจบลง เธอพบว่าแม่ของเธอเสียชีวิตอยู่บนเตียงแล้ว และหลังจากนั้นเธอได้ทราบความจริงว่าพ่อเลี้ยงของเธอไม่ต้องการอุปการะเธอ และต้องการขายบ้านที่เธออาศัยอยู่หลังจากแม่เลี้ยงเสียชีวิต เบธจึงซื้อบ้านหลังนั้นต่อจากพ่อเลี้ยงของเธอ และตัดความสัมพันธ์กับพ่อเลี้ยงในที่สุด ทำให้ ณ ช่วงเวลานั้นเบธไม่เหลือครอบครัวอีกต่อไป
การติดสารเสพติด..
เบธเสพติดสารเสพติดอย่างยากล่อมประสาท เพราะเธอเชื่อว่ายากล่อมประสาททำให้เธอจินตนาการเกมหมากรุกรูปแบบต่าง ๆ ได้เสมือนจริง เบธจึงเลือกทานยากล่อมประสาทครั้งละหลาย ๆ เม็ดเพื่อให้จินตนาการเกมหมากรุกรูปแบบต่าง ๆ ได้ ซึ่งการเสพติดยากล่อมประสาทส่งผลเสียต่อเบธในอนาคต กล่าวคือ เบธเชื่อว่าตนจะเล่นหมากรุกได้ไม่ดี หากไม่ได้ทานยากล่อมประสาทนี้ และยากล่อมประสาทนี้จะส่งผลเสียต่อร่างกายของเบธในที่สุด
นอกจากยากล่อมประสาทแล้ว เบธยังเสพติดแอลกอฮอล์ และอาการนี้รุนแรงขึ้นหลังจากเธอพบความผิดหวังครั้งใหญ่ในชีวิต คือการที่เบธแพ้บอร์กอล์ฟในการแข่งขันครั้งที่ 2 ระหว่างเบธและบอร์กอล์ฟ เพราะการแข่งขันครั้งแรกเบธยังไม่สามารถเอาชนะบอร์กอล์ฟได้ การแข่งขันครั้งนี้จึงเป็นเกมที่เบธมุ่งมั่นว่าเธอจะเอาชนะบอร์กอล์ฟให้ได้ แต่สุดท้ายเธอก็พ่ายแพ้ไปเพราะมีอาการเมาค้างจากการดื่มอย่างหนักกับคลีโอในคืนก่อนวันแข่งขัน
หลังจากเหตุการณ์นี้ อาการของเบธเรียกได้ว่าเละเทะมากถึงมากที่สุด เธอปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับความเศร้า เสียใจ แอลกอฮอล์ และบุหรี่ รวมทั้งเบธยังคิดจะเลิกเล่นหมากรุกหลังจากเหตุการณ์นี้อีกด้วย แต่เหตุการณ์ที่ทำให้เบธคิดได้ ตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตและเล่นหมากรุกอีกครั้ง คือการที่เบธได้พบกับคู่แข่งในการแข่งขันหมากรุกเกมแรกของเบธ เธอบอกกับเบธว่าเธอภูมิใจมากที่เคยแข่งกับผู้เล่นหมากรุกที่โด่งดังอย่างเบธ ฮาร์มอน ซึ่งคำพูดนี้ทำให้เบธคิดได้ และคิดกลับมาสู้ในเกมการแข่งขันหมากรุกอีกครั้ง
ภายใต้สิ่งที่เบธต้องเผชิญทุกอย่างเพื่อความเป็นอัจฉริยะของเธอ "เพื่อน" เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ทำให้เบธผ่านช่วงเวลายากลำบากเหล่านั้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่อยู่ในฐานะเพื่อนตั้งแต่แรกอย่างโจลีน ที่ให้เบธยืมเงินไปซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันที่จัดขึ้นในรัสเซีย หรือเพื่อนที่เคยเป็นคู่แข่งมาก่อนอย่างเบนนี่และแฮรี่ ซึ่งมีส่วนสำคัญมากในชัยชนะของเบธต่อบอร์กอล์ฟ เพราะทั้งคู่ช่วยฝึกซ้อมและเสนอไอเดียในการเดินเกมหมากรุกแบบต่าง ๆ รวมทั้งชี้จุดอ่อนในการเล่นของเบธเพื่อให้เธอปรับแก้ไข ทำให้เบธเอาชนะบอร์กอล์ฟได้ในที่สุด
โดยสรุปแล้ว มินิซีรี่ย์เรื่อง The Queen's Gambit พยายามชี้ให้เห็นว่าสุดท้ายแล้ว "อัจฉริยะ" ก็ยังเป็น "มนุษย์" อยู่ดี ไม่ว่าจะมีพรสวรรค์หรือความสามารถที่เก่งกาจขนาดไหน ทุกคนย่อมต้องเผชิญอุปสรรค ความท้าทาย ความเสียใจ และความผิดหวัง ไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จได้โดยไม่พยายาม หรือไม่เคยพบเจอความผิดหวัง ซึ่งในซีรี่ย์แสดงให้เห็นว่าความอัจฉริยะมาพร้อมกับต้นทุน ความสำเร็จก็มาพร้อมกับต้นทุนเช่นเดียวกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in