เราถามเพื่อนว่า ถ้าอยากเขียนเรื่องไบโพล่าที่เป็น เราจะเริ่มจากอะไรดี เพื่อนบอกว่า ให้เริ่มจากแนะนำตัวแนะนำโรคมั๊ย เออ จริงๆก็ควร คนคงงว่า อินี่ใคร ไบโพล่าอะไร งั้นอันดับแรก เริ่มจากแนะนำตัวเราก่อน

เราเป็นผู้หญิง ชื่อมุก อายุตอนนี้ 27 ปีแล้ว ถูกคุณหมอวินิจฉัยว่าเป็น Bipolar มาได้ประมาณปีครึ่งแล้ว แต่จริงๆ ตอนคุยกับหมอคนแรก เราน่าจะเริ่มป่วยตั้งแต่สองปีก่อนที่จะมาหาหมออีก แต่เราแค่ไม่รู้ตัว

ส่วนตัวโรค Bipolar นั้น ถ้าทางการแพทย์ หรือที่หมอบอกกับเรา เค้าจะเรียกว่า โรคอารมณ์สองขั้ว ถ้าเอาตามความเข้าใจของเรานะ ลักษณะของโรคก็ตามชื่อเลย คือเราจะมีอารมณ์ที่แตกต่างกันอย่างมาก 2 แบบ  ซึ่งการจากความผิดปกติของสารเคมีในสมองเราที่เป็นตัวควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก หรือการแสดงออกทางอารมณ์ มันไม่ยอมสมดุลกันแบบปกตินั่นเอง แบบแรกคืออารมณ์ซึมเศร้า หรือ depress นั่นแหละ อาการก็จะคล้ายกับซึมเศร้าเลย คือรู้สึกไม่อยากทำอะไร ไม่อยากไปไหน ไม่อยากเจอผู้คน เศร้าตลอดเวลา หมดความหวังในชีวิต อาจจะถึงขั้นอยากตาย พยายามฆ่าตัวตาย จริงๆลักษณะของอาการเศร้าในแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป และแบบที่ 2 คืออาการ mania จะอยู่คนละขั้วกับซึมเศร้า ตัวเราจะรู้สึกมั่นใจตัวเองสูง คิดว่าอะไรก็เป็นไปได้ เราทำได้ทุกอย่าง ใช้เงินเยอะผิดปกติ พูดเยอะ ทำงานเยอะ แอคทีฟมากกว่าปกติ บางคนอาจจะมีอารมณ์ทางเพศสูงมากกว่าปกติ และเช่นกัน อาการของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป ไม่ได้เหมือนกันหมดซะทีเดียว แต่จากที่เราคุยกับหมอมา อาการพวกนี้มันจะไม่ได้เป็นไปมาไวๆ แบบที่คนอื่นชอบพูดกันว่าเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่อาการแต่ละขั้วต้องเป็นติดต่อกันนาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป และต้องค่อนข้างรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว หรืออาการมากจนคนรอบข้างสังเกตได้ชัดเจน เช่น depress เป็นเดือน แล้วก็ mania เป็นเดือน แต่ในช่วยที่เรามีอาการระยะนั้น ก็อาจจะมีอาหารของขั้วตรงข้ามสลับบ้าง แต่จะไม่มาก แต่สุดท้าย การที่จะบอกว่าเป็น Bipolar รึเปล่า ก็ต้องได้รับการวินิจฉัยจากหมอโดยตรงเพื่อความถูกต้อง อย่าคิดไปเองว่าเป็นแล้วปล่อยไว้ ถ้ารู้สึกผิดปกติเราจะแนะนำให้ไปหาหมอทุกคน เพราะบางครั้งเราอาจจะยังไม่ได้ป่วย และคุณหมอจะสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องให้กับเราได้

ตั้งแต่ก่อนไปหาหมอ ตัวเราเองก็รู้สึกว่าเราอยู่กับโลกแบบสองขั้วมานานมากตั้งแต่เด็กแล้ว ด้วยปัญหาอะไรต่างๆ ในชีวิตที่เข้ามาตั้งแต่เด็ก ทำให้ตัวเราเป็นคนเครียด และเคยชินกับความเครียด และเครียดง่ายกว่าปกติอยู่แล้ว บวกกับความคาดหวังจากตัวเอง คนรอบข้าง เราก็ยิ่งกดดัน ไหนจะความผิดหวังต่างๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ในชีวิตที่เข้ามา เลยทำให้เรามีโลกที่เหมือนคนละขั้ว โลกที่เราต้องทำตัวแบบที่ควรทำ และโลกที่เราทำตัวแบบที่อยากทำ เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เพราะแบบนี้รึเปล่านะ เราเป็นแบบนี้มานาน บวกกับลักษณะการใช้ชีวิตที่ไม่ถนอมร่างกายเลย เลยทำให้สารในสมองเราผิดปกติจนป่วย

ถึงตอนนี้จะไม่รู้สาเหตุแน่ชัด แต่ป่วยแล้ว ก็ต้องรักษาไปแหละ ส่วนตัว เรามองว่าไบโพลาร์ก็เหมือนการป่วยทางร่างกายอื่นๆ เหมือนเป็นหวัด เหมือนเป็นมะเร็ง หรือโรคอื่นๆทางร่างกายทั่วไป เราป่วย เราสามารถทำให้อาการมันดีขึ้นได้ ถ้าเรามีวินัย ทานยา มีทัศนคติที่เข้าใจโรค เข้าใจตัวเอง เราว่ามันก็จะดีขึ้นได้เหมือนกับโรคทางร่างกายอื่นๆแหละ เพียงแค่อาการมันถูกแสดงออกมาทางด้านภาวะอารมณ์เท่านั้นเอง ซึ่งมันอากาจจะนานหน่อยกว่าจะหายหรือดีขึ้น แต่แค่ก้าวเล็กๆที่เรายอมรับว่าเราป่วย และเริ่มต้นรักษา นั่นก็คือก้าวสำคัญที่ทำให้เราคืบหน้าและดีขึ้นได้