"คุณเป็นไบโพลาร์นะถ้าจากอาการที่เล่ามา"
ในหัวตอนนั้นคิดได้แค่ว่า เอาจริงหรอวะ ตกลงป่วยจริงๆหรอ
"โรคนี้ไม่หายขาด คุณอาจจะต้องกินยาตลอดชีวิตนะ"
ประโยคเด็ดของหมออีกอันที่เราจำได้ หลังจากประโยคนี้ สมองเราโล่งชั่วขณะ ไม่รับสารอะไรจากหมอเท่าไหร่เลย ป่วย ไม่หาย อะไรจะแย่ไปกว่านี้ได้อีก นี่เราป่วยจริงๆใช่มั๊ย...
........
มันเริ่มจากการที่เรารู้สึกมีความหวังในชีวิตมากๆ ว่าเราเจอคนที่เรารัก เค้าดีกับเรา และเราอยากจะทำตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อเค้า เราเลยตัดสินใจไปหาหมอ เพราะอาการที่เป็นมานานเริ่มกลับมาเป็นอีก จริงๆ อาการของเรา ถ้าให้ท้าวความ มันน่าจะเริ่มเห็นได้ชัด น่าจะช่วงที่เราเพิ่งเรียนจบ และทำงานได้ประมาณ 1 ปี เราเริ่มไม่อยากไปทำงาน ซึม ไม่อยากไปไหน แม้กระทั่งอาบน้ำ เรายังไม่ค่อยจะอาบ มันเนือยไปหมด พอนานวันเข้า ความไม่อยากทำงานก็กัดกร่อนจิตใจเรา ทำให้เราเศร้า และรู้สึกตัวเองหมดเป้าหมายในชีวิต มันอาจจะฟังดูไม่มีอะไรใช่ไหม แต่ถ้าลองคิดดู เราที่เป็นคนชอบทำงานมาก ชีวิตหายใจเข้าออกเป็นงาน วันนึง เราก็ไม่อยากทำงานไปเฉยๆ มันเหมือนเราตายไปแล้ว หมดคุณค่า จากจุดนั้น เลยทำให้เราเริ่มทำร้ายตัวเอง เริ่มติดเซ็กซ์ แต่เราก็ยังคงเศร้า และพยายามที่จะฆ่าตัวตาย แต่เรายังไม่ได้ไปหาหมอซะทีเดียว เพราะคิดว่าแค่คงเริ่มเบื่อๆ กับชีวิต ก็เลยย้ายงาน และนั่นแหละ เราไม่รู้เลยว่า แค่ย้ายงานครั้งนี้ ชีวิตเราจะเปลี่ยนไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in