เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
มูฟวี่ 101StarLord4K
สกู๊ปพิเศษ: วายร้ายที่แท้จริงของหนังซุปเปอร์ฮีโร่คือ?
  • หนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ เป็น sub-genre หรือแขนงย่อยของหนังแนวแอ็คชั่น-ไซไฟ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมและประสบความสำเร็จอย่างมากในวงการภาพยนตร์ยุคปัจจุบัน ด้วยความสนุกของตัวหนังเอง ความเท่ของซุปเปอร์ฮีโร่ ความเก่งและพละกำลังมหาศาล ที่จะมาเปิดโลกแห่งจินตนาการของเราไปให้กว้างกว่าที่เราได้เคยจินตนาการไว้ถึง ด้วยเหตุนี้เองทุกคนในโลกจึงชอบและอยากไปดูหนังแนวนี้ให้ได้

    หนังซุปเปอร์ฮีโร่ ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ตัวร้าย ซึ่งในแต่ละเรื่องตัวร้ายก็มีลักษณะที่แตกต่างกันไป แต่หากมองจากภาพรวมก็จะพบว่า มูลเหตุหรือแรงจูงใจของตัวร้ายก็มักจะเป็นเรื่อง การครอบครองโลก หรือประเทศ หรืออำนาจ ซึ่งจะนำมาสู่ชื่อเสียง เงินทอง และการได้ควมคุมอำนาจของผู้คนให้อยู่ในความพึงพอใจของตัวเอง ซุปเปอร์ฮีโร่เหล่านี้จึงต้องออกมาเพื่อหยุดยั้งตัวร้ายไม่ให้แผนการของเขาสำเร็จ

    หากว่าแท้จริงแล้ว ตัวร้ายของหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่น่ากลัวกว่าตัวร้ายจากหนังทุกเรื่อง น่ากลัวยิ่งกว่า เล็กซ์ ลูเธอร์ น่าสะพรึงยิ่งกว่า ธานอส ยิ่งกว่าผู้ใด กลับเป็น โรงภาพยนตร์ ที่ฉายหนังซุปเปอร์ฮีโร่ เหล่านี้นี่เอง ทำไมโรงภาพยนตร์ที่อยู่คู่กับสังคมเรามาอย่างยาวนานถึงกลายเป็นตัวร้ายได้ เราจะอธิบายให้ฟังทีละข้อ

    1. แอบขึ้นราคาค่าตั๋ว

    ทางโรงหนังได้แอบขึ้นราคาค่าตั๋วหนังโดยอ้างเหตุผลว่าความยาวของหนังที่นาน ทำให้ต้นทุนของการฉายเพิ่มสูงขึ้น จึงขอขึ้นราคาค่าตั๋วหนัง โดยเท่าที่สังเกตพบว่าค่าตั๋วจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 20 บาทไปจนถึง 100 บาท (ในบางโรงภาพยนตร์) เลยทีเดียว ในส่วนนี้เข้าใจได้ไม่ยาก แต่ก็คิดว่าค่อนข้างร้ายกาจนิดหน่อยนะ

    2. ไม่สามารถใช้โปรโมชั่นได้

    ใรช่วงสัปดาห์แรกของการฉายหนัง ทางโรงหนังแทบจะไม่สามารถให้ใช้โปรโมชั่นใดๆ เพื่อลดราคาค่าตั๋วหนังได้เลย โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นหนังเข้าใหม่ และเป็นหนังที่ใช้ต้นทุนการฉายสูง ทำให้ผู้ชมที่อยากลดภาระค่าใช้จ่ายจำเป็นต้องจ่ายค่าตั๋วในราคาเต็ม ส่วนนี้แม้จะรู้สึกว่าค่อนข้างเอาเปรียบ แต่ก็พอเข้าใจได้แบบไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่มากนัก

    3. โฆษณาก่อนฉายที่นานขึ้นไปอีก

    โดยทั่วไปแล้วโฆษณาก่อนหนังฉายรวมเพลงสรรเสริญฯ ตามโรงภาพยนตร์ค่ายใหญ่ จะมีความประมาณ 23-27 นาที ซึ่งค่อนข้างนานอยู่แล้ว จากเท่าที่สังเกตเมื่อหนังซุปเปอร์ฮีโร่เข้าฉาย โฆษณาจะยาวไปถึง 35 นาทีเลยทีเดียว ซึ่งยาวนานกว่าโดยทั่วไปถึง 10 นาที ทั้งๆ ที่ทางโรงภาพยนตร์ได้ขึ้นราคาค่าตั๋วหนังไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังฉายโฆษณาเพิ่มขึ้นไปอีก จุดนี้ถึงสามารถเรียกได้เต็มปากเลยว่าเอาเปรียบผู้ชมมากๆ

    4. เบียดบังรอบฉายภาพยนตร์เรื่องอื่น

    หลายคนเคยด่าหนังของพชร์ อานนท์ ว่าแย่งรอบฉายของหนังเรื่องอื่น แต่ในขณะเดียวกันเมื่อหนังซุปเปอร์ฮีโร่ค่ายใหญ่เข้าฉาย โรงหนังแทบจะร้อยละ 90 ต้องจัดฉายหนังซุปเปอร์ฮีโร่ จึงเหลือโรงน้อยมากๆ ที่จะเข้าฉายหนังเรื่องอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงหนังต่างจังหวัดจะไม่มีหนังเรื่องอื่นฉายเลยนอกจากหนังซุปเปอร์ฮีโร่ เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะอุปสงค์เยอะมากๆ ทางโรงก็ต้องปรับตามอุปสงค์ของผู้ชม

    แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ชมที่ไม่ได้สนใจหนังซุปเปอร์ฮีโร่ หรือผู้ชมที่รับชมไปแล้ว แต่อยากชมหนังเรื่องอื่นเป็นทางเลือก ก็จะไม่ได้รับชมหนังเรื่องใดเลยในอาทิตย์นั้น นอกจากนี้ค่ายหนังที่เป็นผู้จัดจำหน่ายหนังก็จะทราบกันดีถึงกำหนดการฉายและจะเลื่อนหนังของตัวเองออกไปจากสัปดาห์ที่หนังซุปเปอร์ฮีโร่เข้าฉาย ทำให้ตัวเลือกการชมภาพยนตร์เรื่องอืื่นๆ แทบจะไม่มีเลยในช่วงสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ที่หนังซุปเปอร์ฮีโร่เข้าฉายอยู่ ซึ่งมันดูไร้สีสันชะมัด

    5. หนังซุปเปอร์ฮีโร่ชอบเข้าวันพุธ

    โดยทั่วไปแล้วในประเทศไทย โปรแกรมหนังใหม่จะเปลี่ยนแปลงทุกวันพฤหัสบดี พูดง่ายๆ ก็คือ หนังใหม่จะเข้าโรงทุกวันพฤหัสบดี เพื่อที่ว่าในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ทางโรงหนังและค่ายหนังจะประเมินรายได้เพื่อปรับปรุงรอบการฉายให้สอดคล้องกับรายได้และความเหมาะสมในวันเสาร์เป็นต้นไป และเป็นเรื่องปกติที่วันจันทร์ อังคาร พุธ คนจะดูหนังกันน้อย ทางโรงหนังหลายๆ สาขาจึงจัดให้วันพุธเป็น Movie Day และลดราคาค่าตั๋วหนังเพื่อจูงใจให้คนเข้ามาดูหนังก่อนจะเปลี่ยนโปรแกรมการฉายในสัปดาห์ต่อไป

    ปัญหาก็คือหนังซุปเปอร์ฮีโร่ชอบเข้าวันพุธ เพื่อทำเงินให้ได้มากๆ โดยเฉพาะวันพุธที่โรงหนังจะมีรายได้ค่อนข้างน้อย ซึ่งในข้อนี้เองจะส่งผลไปยังข้อ 2 และข้อ 4 ด้วย นั่นก็คือ วันพุธที่หนังซุปเปอร์ฮีโร่เข้าฉาย จะไม่สามารถใช้โปรโมชั่น Movie Day และโปรโมชั่นอื่นๆ ได้ ทำให้ผู้ชมต้องจ่ายค่าตั๋วในราคาเต็ม

    อีกส่วนก็คือ ผู้ชมหลายคนที่มีความประสงค์จะเข้าไปดูหนังเก่าในวันพุธโดยใช้โปรโมชั่น Movie Day ก็จะไม่สามารถดูได้ในวันนั้น ซึ่งกลายเป็นว่าวันสุดท้ายของโปรแกรมหนังจะถูกร่นไปเป็นวันอังคาร ซึ่งทางโรงหนังไม่ได้จัดโปรโมชั่น Movie Day ในวันอังคาร เป็นความยุ่งเหยิงที่ทำลายความตั้งใจของผู้ชมหนังเรื่องอื่นและค่ายหนังที่จัดจำหน่ายหนังเรื่องอื่นที่ควรจะทำเงินได้อีก แต่กลับถูกหนังซุปเปอร์ฮีโร่เบีบดบัง

    ด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่านี้จึงเป็นที่น่าแปลกใจว่า เหตุใดหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่มีภาพลักษณ์ส่งเสริมการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ กลับกลายเป็นการเบียดเบียนผู้ชมและหนังเรื่องอื่นๆ ได้ขนาดนี้ แม้ว่าตัวหนังเองจะไม่ได้มีความผิดอะไรเลย แต่ความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้า เพราะตัวโรงหนังเองกลับใช้หนังซุปเปอร์ฮีโร่มาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวเองอย่างบ้าคลั่ง

    เข้าใจว่าเป็นเรื่องของธุรกิจและกลไกการตลาด แต่ในความรู้สึกที่เรามองลอดเข้าไปแล้วพบว่าโรงหนังไม่ได้ต่างอะไรกับการเป็นตัวร้ายในหนังซุปเปอร์ฮีโร่เลย แถมยังเป็นตัวร้ายที่น่ากลัวกว่าตัวร้ายในหนังด้วยซ้ำ ที่แย่ไปกว่าก็คือ ยังไม่มีฮีโร่คนไหนที่จะมาช่วยจัดการเรื่องนี้ได้เลย เราผู้ชมคนดูก็ไร้ตัวเลือก จำเป็นต้องยอมให้โรงหนังเหล่านี้เอาเปรียบต่อไป

    ที่เขียนมายืดยาวนี้ก็ไม่ได้หวังจะให้โรงหนังต้องเปลี่ยนมาฉายหนังการกุศลไม่เก็บเงิน แค่อยากให้แฟร์ๆ กับผู้ชมที่เป็นลูกค้าชั้นดีของโรงหนังบ้าง และอยากให้ผู้ชมคนดูอย่างเราๆ ได้ตระหนักบ้างว่า ในขณะที่เรากำลังเข้าไปเชียร์ทีมซุปเปอร์ฮีโร่สุดโปรดกำลังไล่เตะตูดไอ้วายร้ายที่เป่าคนครึ่งโลกสลายกลายเป็นฝุ่นอยู่ เราเองก็กำลังตกเป็นเหยื่อวายร้ายอีกตัวนึงอยู่ด้วยเช่นกัน :)

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in