ระยะเวลา เดือนมกราคม 2566
สวัสดีทุกคนที่บังเอิญหลงเข้ามาค่ะ และสวัสดีคุณครูทุกท่านที่กำลังอ่านบล็อกนะคะ
นางสาวมลฤดี หรือออม576 จากวรรณกรรมสำหรับเด็ก ปีที่ 4 ค่ะ ที่ทุกคนกำลังอ่านอยู่ตอนนี้เป็นบล็อกบันทึกผลการทำธีสิสหรือสารนิพนธ์ของเราเองค่ะ ถือเป็นงานชิ้นสุดท้ายก่อนจะเรียนจบ
เป็นที่รู้กันว่าพวกเราชาววรรณฯเด็กจะต้องทำธีสิสเพื่อแสดงผลงานที่ได้จากการร่ำเรียนมาตลอด 4 ปี จากที่เคยเป็นผู้ชมงานเหล่านั้น วันนี้ถึงเวลาที่เราจะได้เป็นผู้แสดงผลงานบ้างแล้วค่ะ หวังว่างานของเราและของเพื่อนๆในเอก จะมอบแรงบันดาลใจเล็กๆน้อยๆให้กับผู้ชมที่มาชมงานได้ไม่มากก็น้อย เช่นเดียวกับครั้งหนึ่งที่เราเคยได้รับแรงบันดาลใจจากการดูนิทรรศการแสดงผลงานของเหล่าพี่ๆ CL(Children’s Literature)รุ่นก่อนๆ จนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราตัดสินใจมาเรียนที่นี่ เป็นชาววรรณฯเด็กรุ่นที่ 26 ค่ะ
ต่อไปจะพูดถึงในส่วนของชิ้นงานที่นำมาแสดงนะคะ เอกของเราไม่มีข้อบังคับตายตัวว่าจะทำผลงานออกมาในรูปแบบไหน หรือสื่อแบบบไหน ทำให้ธีสิสที่จัดแสดงมีหลากหลายประเภทมากๆ ไม่ว่าจะเป็น สื่อผ้าการเรียนรู้สำหรับเด็ก เรื่องสั้น นิทานภาพประกอบ สื่อแอนิเมชัน หรืออย่างรุ่นก่อนๆก็จะมีบอร์ดเกม หนังสือรวมบทกวี podcast เพลงสำหรับเด็กและยังมีสื่อที่เกี่ยวกับเด็กที่น่าสนใจอีกหลายอย่างเลยค่ะ สำหรับใครที่สนใจอยากเข้าไปดูผลงานของรุ่นพี่ปีก่อนๆ ก็สามารถเข้าไปได้ที่เว็บไซต์ของเอกวรรณกรรมสำหรับเด็กได้เลยค่ะ ที่ลิ้งนี้ https://www.childrenlitswu.com/thesis-exhibition/
เราเริ่มรู้ตัวว่าจะต้องทำธีสิสและเตรียมตัวตั้งแต่เดือนธันวาคม ก่อนจะปิดเทอมของปี 4 เทอม 1 พอเปิดเทอม 2 ของปี 4 เป็นการเข้าสู่ช่วงการทำธีสิสอย่างเต็มตัว
คุณครูมีการนัดให้พวกเราเข้าไปที่มหาลัยฯ เพื่ออธิบายและให้ดูตัวอย่างธีสิสของรุ่นพี่ปีก่อน ๆ และให้ทุกคนไปเตรียมตัวและคิดธีสิสที่อยากจะทำมา 2 หัวข้อ (โดยมีรายละเอียดตามภาพเลยค่ะ) อธิบายว่าธีสิสที่จะทำนั้นมีลักษณะอย่างไร รายงานประกอบนั่นมีลักษณะอย่างไร ทุกคนจะต้องมานำเสนอหน้าชั้นเรียน พร้อมกับมีคุณครูอีก 5 ท่านที่จะร่วมฟังและให้คำแนะนำด้วย โดยจะนัดมาคุยกันที่ห้องเอก เพื่อนำเสนอความคืบหน้าของงาน แบ่งเป็น 30 70 และ90 เปอร์เซน โดยจะนำเสนอในรูปแบบ Presentation
หลังจากที่นำเสนอไป ก็เข้าสู่ช่วงถามคำถาม ในครั้งนั้นเราได้รับคำถามมาว่า หนังสือรวมบทกวีของเรามีความแตกต่างจากงานที่มีในท้องตลาดอย่างไร บอกตรงๆ ณ ตอนนั้นเราไม่สามารถตอบได้ ความสนใจของคุณครูจึงไปอยู่ที่หัวข้อที่สองอย่างเพลงกล่อมเด็ก คุณครูได้แนะนำเพิ่มเติมว่า การทำเพลงกล่อมเด็กหรือเพลงสำหรับเด็กเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เราลองนำเพลงกล่อมเด็กเก่าๆ มาทำดูดีไหม ซึ่งเราเองก็มองว่าน่าสนใจถ้าจะหยิบเพลงกล่อมเด็กเก่าๆ มาทำให้ดูร่วมสมัยขึ้น เราดีใจที่ตอนนั้นหัวข้อที่เราอยากทำ ไม่โดนปัดทิ้งไปทั้งหมด
สิ้นเดือนมกราได้ทำการประกาศครูที่ปรึกษา โดยครูที่ปรึกษาหนึ่งคนจะต้องดูแลเด็กๆประมาณ 4-5 คน
หลังจากจากทราบว่าครูที่ปรึกษาของเราเป็นใครแล้ว เพื่อนๆ ก็มีการสร้างกลุ่มไลน์ เพื่อความง่ายในการติดต่อสื่อสารกับครูที่ปรึกษา
ในส่วนของการเกริ่นนำก็จะมีประมาณนี้ค่ะ ต่อไปก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการทำงานแล้ว ไว้เจอกันค่ะ ^^
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in