ในวันที่เมฆครึ้มและฝนตกปรอย ๆ
ถ้าไม่หันไปดูนาฬิกาคงแทบไม่รู้เวลา
คลุมเครือ และหยุดนิ่ง ราวกับท้องฟ้าจะบอกว่าไม่จำเป็นต้องรีบร้อน
บทกวีถูกขีดเขียนบนด้านหลังเศษกระดาษ
พยายามอย่างยิ่งกับการไม่ใช้คำสรรพนามใด
ไม่จำเป็นต้องมี ข้าพเจ้า ดิฉัน เรา ผม
มีเพียงเรื่องเล่าที่ไม่สนใจว่าจะมีใครอ่านหรือไม่
หนังสือเป็นร้อยเล่มบนชั้นวางต้องถูกเก็บใส่กล่อง
ไรฝุ่นมีมากเกินไปสำหรับร่างกายที่เป็นภูมิแพ้
มากเกินไปพอ ๆ กับความทรงจำแต่ละช่วงที่ฝังอยู่ในนิตยสารแต่ละเล่ม
นั่งถามตัวเองเล่น ๆ ว่า อ่านเยอะขนาดนี้
เหตุใดถึงยังโง่เขลา
ย้อนไปตอนนั้น แค่อ่าน advertorial ก็ยังสนุก
เห็นความพยายามจะขายแล้วมันก็ขำดี
หยิบนิตยสารตัวจบสมัยเรียนยัดใส่กล่อง
ตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจทำเลยด้วยซ้ำ
แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเคยชอบอ่านชอบเขียน
ตอนนี้ไม่แน่ใจเท่าไรว่าชอบอะไร
แต่ความคลุมเครือไม่เลวร้ายเสมอไปหรอก
เคยรักมากแค่ไหนก็ต้องมีวันที่ปล่อยให้มันผ่านไป
หนังสือทั้งหมดถูกเก็บลงกล่อง
ชั้นหนังสือมีแค่ความว่างเปล่า
เพื่อปกป้องมนุษย์จากอาการภูมิแพ้
ด้านหลังเศษกระดาษมีแต่รอยดินสอ
ด้านหน้าดูเหมือนจะเป็นใบปริญญา
บุรุษสรรพนามที่ 1 ยังคงซ่อนตัวได้ดี
ราวกับว่าใครที่เขียนยังหวาดหวั่นในที่ ๆ มีผู้คน
ไม่จำเป็นต้องมี ดิฉัน ข้าพเจ้า ผม เรา
คลุมเครือให้เหมือนกับท้องฟ้าในฤดูฝน
ใครอยากได้ชั้นวางหนังสือ สภาพดี ไม้ดี
ติดต่อสอบถามราคาได้นะ
[พื้นที่โฆษณา]
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in