ความรู้สึกหลังจากจบงานข้อดี ข้อเสีย และเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังจะวางแผนงานแต่งงาน
ข้อดี: ราคาไม่แพงเมื่อเทียบโรงแรมอื่นๆ และเหมาะสมเมื่อพิจารณาจากการบรรยากาศและการตกแต่งบริเวณlobby รวมไปถึงห้องที่ใช้จัดงานมีห้องขนาดเหมาะสมกับจำนวนแขก ราคาอาหารต่อหัวไม่แพงและรสชาติดีซุ้มอาหารช่วงเช้าราคาถูก ค่าใช้จ่ายงานหมั้นไม่สูง และห้องพักดีมาก(อันนี้ตอนตัดสินใจไม่เห็น มาเห็นต่อเข้าไปอยู่จริงๆ)
ข้อเสีย: ร้านนี้ไม่เคยจัดงานแต่ง ทำให้ไม่ค่อยมี know how เท่าไหร่หลายๆ อย่างเราต้องเตรียมตัวเพิ่มเองรวมไปถึงปัญหาเรื่องระบบเสียงที่เราต้องไปหาซื้อไมค์มาเองและเสียงที่ไม่ค่อยดีในช่วงสัมภาษณ์และราคาที่ถือว่าเกินงบไปโข (แต่คือชอบไง อวยไง 555)
เพิ่มเติม: ส่วนใหญ่จะคล้ายๆ กับงานเช้า แต่อาจจะมีเพิ่มเติมในส่วนของค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ต้องถามให้ละเอียดเพราะมีโอกาสที่งบจะบานปลายได้ถ้าราคาแพง และอีกเรื่องคือการรันคิวที่ถ้าร้านไม่มีประสบการณ์อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้เราจึงควรซักซ้อมคิวให้ชัดเจนอาจจะพาแม่งานที่จะเป็นคนประสานงานมาพูดคุยแนะนำให้เรียบร้อย วันงานจะได้ไม่ติดขัดและในส่วนของการเลือกร้าน ควรวาง layout ของงานคร่าวๆว่าจะวางของอะไรไว้ตรงไหน ไม่งั้นอาจจะเกิดปัญหาระหว่างการตกแต่งได้
อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นการจัดงาน 2 แยกสถานที่กันนั้นนั้นมีค่าใช้จ่ายมากกว่าจัดที่เดียวเพราะโรงแรมส่วนใหญ่จะพยายามจัดโปรโมชั่นดึงดูดให้จัดงานพร้อมกัน และค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสำหรับการเช่าสถานที่นั้นสูงถ้าต้องกระประหยัดงบ การหาโรงแรมแห่งเดียวที่เหมาะสำหรับการจัดงานทั้งวันจะข่วยให้ประหยัดเงินได้ไม่น้อยและไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทางด้วย
3. Backdrop - Seethrough
★★★☆☆
ข้อดี: มีแบบให้เลือกเยอะมาก ถึงแม้แบบที่เราเลือกน่าจะเป็นแบบที่ร้านไม่ถนัดแต่สุดท้ายร้านก็ทำออกมาได้ดีกว่าที่คิด
ข้อเสีย: ด้วยความที่เป็นร้านดัง เลยดูไม่ค่อยง้อลูกค้าเท่าไหร่ ไม่ใช่บริการไม่ดีแต่ก็ไม่รู้สึกประทับใจในการบริการอะไรมาก อย่างวันที่นัดเจอกันที่ร้านก็ไปสายแถมตอนจะเลือกแบบ backdrop ต้องไปดูที่ร้านเท่านั้น(ยังดีอยู่ไม่ไกลมาก) ส่วนนึงอาจจะเพราะว่า backdrop ที่เราเช่าไม่แพงพอก็เป็นได้:P
เพิ่มเติม: ก่อนจะเลือกแบบ backdrop นั้น ควรได้สถานที่และ themeของงานก่อน และแนะนำว่าควรหา reference จาก internetเยอะๆ หาแนวที่ชอบ หรือถ้ามีโอกาสไปเดินดูตามงาน weddingfair ก็จะช่วยได้เยอะ (งานมีปีละ 3-4 ครั้ง) เพราะของจริงกับรูปจะไม่เหมือนกันซะทีเดียวแล้วก็นอกจาก backdrop แล้วจะมี option พวก gallery หรือฉากประดับงานให้เลือกอีกด้วยถ้าจะให้ดี ควรเลือกร้านที่มีแบบผลงานเป็นแบบที่เราชอบ เพราะแต่ละร้านจะมีแนวที่ถนัดและไม่ถนัดแตกต่างกัน
4. ชุดเจ้าบ่าว – METRO(Platinum), Central Rama IX
★★★★★
ข้อดี:สูทราคาสมเหตุสมผล มีการปรับปรุงดีไซน์ให้ทันสมัยอยู่เสมองานตัดประณีตและทำเสร็จเร็ว
ข้อเสีย:เป็นร้านขายสูท เสื้อเชิ้ตกับเครื่องประดับสำหรับเจ้าบ่าวจึงไม่ค่อยครบถ้วนต้องไปหาซื้อเพิ่มเติมด้วยตัวเองที่เซ็นทรัลพระราม 9 (เสื้อเชิ้ตแพงมาก T T)
เพิ่มเติม:ชุดเจ้าบ่าวค่อนข้างง่ายเมื่อเทียบกับชุดเจ้าสาว เพราะมีแบบให้เลือกไม่มาก หลักๆคือเลือกสีให้ตรงกับ theme/เจ้าสาว เลือกระหว่างสูทและทักซิโด้และคิดให้จบว่าจะใส่กับรองเท้าแบบไหน เข็มขัดอะไร (บางคนไม่ใส่เข็มขัด) โดยสามารถ searchหาไอเดียได้จาก Pinterest แล้วเก็บไว้เป็นแนวทางจากนั้นก็ไปร้านสูทแล้วขอลองหลายๆ แบบจนเจอแบบที่ถูกใจ ถ้าจะให้ดีพกเสื้อเชิ้ตและรองเท้าที่จะใช้จริงไปลองด้วยข้อควรระวังคือหลายๆ ร้านจะไม่สามารถตัดสูทได้ทุกแนวอาจจะต้องเลือกจากแบบที่เค้ามี และวันที่ไปตัดสูทควรไปตัดก่อนกินอาหารและพยายามควบคุมน้ำหนักให้ใกล้เคียงกับวันแต่งมากทึ่สุด เพราะน้ำหนักตัว 1กิโลกรัมที่เปลี่ยนไปทำให้สูทฟิตหรือหลวมได้อย่างไม่น่าเชื่อ
5. ชุดเจ้าสาว –Vivaris
★★★★☆
ข้อดี: บริการดีมากถึงดีที่สุด และมีชุดให้เลือกเยอะมากๆ ทำงานแบบมืออาชีพลองชุดได้เรื่อยๆ จนกว่าจะเบื่อ
ข้อเสีย: ราคาแพงไปหน่อย แต่ต้องออกตัวก่อนว่าที่แพงเพราะไม่ได้ใช้ promotionใดๆ เลยทั้งสิ้น ชุดที่เจ้าสาวอยากได้ดันไม่ค่อยจะเหมือนชุดแต่งงานเท่าไหร่และเวลาเข้าไปลอง ชุดที่มีแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับจังหวะว่า ณตอนนี้มีคนเช่าชุดนั้นๆ อยู่หรือไม่
เพิ่มเติม: ชุดเจ้าสาวเป็นหนึ่งในสิ่งที่เลือกยากที่สุด(อาจจะขึ้นอยู่กับตัวเจ้าสาวเองก็เป็นได้ 5555)จึงอยากแนะนำว่าเจ้าสาวควรทำการบ้านเยอะๆ แล้วตัดสินใจว่าอยากได้แนวไหนเพราะถ้าไปเลือกเอาที่หน้าร้านเลยจะไม่แน่ใจตัวเองเท่าไหร่ (แบบมันเยอะเกินไป)และเป็นค่าใช้จ่ายที่ห้ามมองข้าม เพราะชุดที่ดูดี มาพร้อมกับราคาที่สมน้ำสมเนื้อ (กรณีของเราราคาที่จ่ายจริงสูงกว่าระคาประเมินราวๆ2 เท่าตัว) บางครั้งอาจจะลงเอยที่การตัดชุดใหม่ก็เป็นได้
6. ช่างแต่งหน้า –Vivarius
★★★★☆
ข้อดี: ฝีมือดี ทำทั้งหน้าทั้งผม แต่งออกมาถูกใจ และอยู่ได้ยันงานจบ
ข้อเสีย: แพงมากๆๆๆ
เพิ่มเติม:เนื่องจากทั้งคู่เป็นคนไม่ค่อยแต่งหน้า เลยไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้เท่าไหร่แถมอ่านรีวิวแล้วเจอเคสช่างกากๆ เยอะมาก เลยตัดสินใจใช้ช่างที่ร้าน Vivariusแนะนำมาเพื่อความสบายใจ แลกกับราคาแพงหูฉี่คำแนะนำก็คือถ้ามีช่างแต่งหน้าฝีมือดีที่รู้จักหรือมีเพื่อนที่เคยใช้บริการแล้วงานดี พยายามจีบไว้แต่เนิ่นๆ จะช่วยได้มาก
7. ช่างกล้อง – NineFoto
★★★★★
ข้อดี: มืออาชีพประสบการณ์สูง ช่วยรันคิวงานเช้า มีกล้อง candid หามุมดี แต่งรูปสวย
ข้อเสีย: ไม่ขอเรียกว่าเป็นข้อเสียแต่ราคาสมน้ำสมเนื้อกับคุณภาพของงานที่สูงลิบลิ่ว กับใช้เวลาแต่งภาพนานแต่ก็อยู่ในช่วงเวลาที่สัญญาไว้ตั้งแต่แรก
เพิ่มเติม: อันนี้ไม่ค่อยทราบรายละเอียดเท่าไหร่ เพราะเจ้าสาวเป็นคนเลือกซะเยอะแต่วิธีที่ได้ผลคือพยายามไล่หาดูอัลบั้มที่เป็นผลงานที่ผ่านๆมาของช่างแล้วเลือกอันที่ถูกใจที่สุด ไม่ว่าจะเป็นมุมกล้อง โทนสี compose และ feedback ของลูกค้าพยายามหลีกเลี่ยงเจ้าที่มีปัญหาส่งงานช้าเพราะปกติก็จะได้งานช้าอยู่แล้วและในความเห็นส่วนตัว รู้สึกว่าควรจ้างช่างมืออาชีพประสบการณ์สูง เพราะถ้ารูปมีปัญหาจะน่าเสียดายมากๆ
8. ของรับไหว้ – แก้วสองชั้น
★★★★☆
ข้อดี: ของดูมีมูลค่า และไม่ซ้ำกับใคร ใช้งานได้จริง
ข้อเสีย: เพราะเป็นของที่สั่งมาจากจีน ทำให้มีของที่มีตำหนิปนอยู่ และต้องทำ packaging เอง งบจึงบานปลายและเสียเวลา
เพิ่มเติม: ปกติของรับไหว้ที่ได้รับความนิยมจะเป็นผ้าขนหนู หรือของที่ทำจากผ้าถ้าอยากหาซื้อของรับไหว้สำเร็จรูป สามารถไปหาได้ที่ JJ Mall จะมีโซนที่ขายของรับไหว้อยู่พอสมควร แต่ก็จะมีแต่ของดาษๆ เท่านั้นแหละนะ(ขำเลว)
9. ของชำร่วย – กล่องอาหาร ร้าน Moshi Moshi
★★★★☆
ข้อดี: เอาไปใช้งานได้จริง ไม่แตกหักง่าย เข้า concept เกี่ยวกับอาหาร
ข้อเสีย: ตอนซื้อต้องขนของเอง ต้องแกะ tag ที่ไม่ใช้ออกและต้องทำsticker มาติดเอง เสียเงินเพิ่มและเสียเวลาพอสมควร
เพิ่มเติม: ของชำร่วยมีตัวเลือกให้เยอะมาก สามารถไปเดินที่ JJ Mall เพื่อหาไอเดียก่อน แล้วหาจากร้าน online เพิ่มเติมได้พยายามดูหลายๆ ร้าน บางครั้งของชิ้นเดียวกันแต่ขายราคาต่างกันชิ้นละ 5-10 บาทก็มีพยายามเสาะหาร้านที่เป็นโรงงานผลิตโดยตรงและร้านออนไลน์จะได้ราคาถูกกว่าเพราะไม่มีหน้าร้าน แต่ต้องระวังเรื่องของไม่ตรงกับ”รูปเพื่อการโฆษณา”เอาไว้ด้วย
10. การ์ดแต่งงาน – สั่งพิมพ์กับ GOGOprint / ร้านออนไลน์ ★★★★★
ข้อดี: เลือก template ได้อิสระ ใส่ข้อมูลได้ตามใจชอบ ได้การ์สวยถูกใจ
ข้อเสีย: เสียเวลาเลือกแบบ แล้วคิดคำพูด แพงกว่าแบบสำเร็จรูปไม่เห็นตัวอย่างจริงๆ ทำให้กำหนดสีที่จะใช้ได้ยาก
เพิ่มเติม: ถ้าอยากได้การ์ดดีไซน์ทันสมัย แนะนำว่าให้ลองหาซื้อ templete จากเว็บต่างประเทศ เพราะร้านในไทยส่วนใหญ่จะมีแต่แบบคลาสสิค ไทยๆจีนๆ หรือไม่ก็(พยายามจะ)น่ารักๆ แต่ถ้าเป็นการ์ดสำหรับงานเช้าที่เป็นแบบทางการๆมีการ์ดที่ดูดีๆ อยู่หลายแบบ แนะนำว่าถ้าอยากได้แบบสวยๆ และไม่อยากทำเองจะมีร้านออนไลน์รับออกแบบอยู่หลายร้าน แต่ก็คิดเงินแพงกว่าทำอีกแหละนะ
11. ขันหมาก - ร้านดังแถวเยาราช
★★☆☆☆
ข้อดี: โคตรง่าย มีของทุกอย่าง เดินเข้าไป จ่ายตัง เดินออก จบของไปส่งวันงานเรียบร้อย
ข้อเสีย: แพง แพงแบบไม่ลืมหูลืมตา พานสีทองขายใบละ 500 แต่ข้างนอกขาย 120 บาทส้มเช้งชุดละ 1,500 บาท เราจัดเซ็ทแบบตัดออพชั่นทุกอย่างออกยังเฉียดหมื่น อุตส่าห์หาทางประหยัดจากตรงอื่นแทบตายมาโดนฟันตรงนี้ขาดสะพายแล่งเลยจ้า
เพิ่มเติม: งานหมั้นของเราเลือกใช้ขันหมากจีนและมันมีของหลายอย่างที่อ่านชื่อแล้วนึกไม่ออกว่าต้องไปซื้อที่ไหน จริงๆก็พอรู้ว่าที่เยาวราช แต่มันตรงไหนของเยาวราชล่ะ??? สุดท้ายเพื่อไม่ให้เสียเวลาเลยตัดสินใจไปที่ร้านนี้ที่ถ้าเลือกได้ไม่ขอเข้าไปเด็ดขาด แนะนำว่าถ้าจะหาให้ไปหาแถวๆ วัดเล่งไน่ยี่ คิดมีเกือบทุกอย่างที่ตามหาแต่ก็ต้องเตรียมงานเพิ่มระดับนึงเช่น ติดกระดาษจีนเข้ากับส้มเช้งเอง
12. ลูกโป่ง – Teddy Balloon
★★★★★
ข้อดี: มีเพื่อนเป็นเจ้าของร้านก็ดีงี้แหละ 5555ช่วยทำให้สถานที่ดูเป็นงานแต่งมากขึ้นเยอะ ลูกโป่งสีสวย มาจัดร้านให้ตั้งแต่เนิ่นๆ
ข้อเสีย: วันงานไม่มีเลย ถ้าจะต้องเล่ามาซักอย่างจริงๆ ก็คงเป็นเรื่องที่มีตัวอย่างงานให้ใช้อ้างอิงน้อยไปนิดนึงถ้ามีรูปให้ใช้เป็น reference เยอะๆ จะ perfect มาก
เพิ่มเติม: จริงๆการใช้ลูกโป่งตกแต่งงานมันก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ด้วย ถ้าเป็นพวกสวนหรือร้านอาหารแล้วอยากได้อารมณ์ party หรืองานสนุกๆและอยากคุม theme ของงาน ลูกโป่งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก setup ง่ายราคาไม่แพง และอยู่จนจบงานแน่นอน แต่ความหรูหราก็จะด้อยกว่าจัดงานหรูๆตามโรงแรมแหละนะ แบบนั้นต้องใช้พวกฉากไม้ หรือ gallery หรือซุ้มเข้ามาช่วย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in