[#ฉันจะมารีวิว?]007. BIG Naughty ‒ Bucket List (EP)Release: 2021/02/25Genre: lo-fi hiphop, hiphop r&b
> ซอดงฮยอน หรือที่รู้จักกันในชื่อ stage name BIG Naughty ไอ้เจ้าเด็กหนุ่มน้อยหนึ่งในสมาชิก ㅋㅋㅋㅋ crew (ชื่อกวนตีนมาก) ที่ชื่นชอบโลกแห่งแร็ปผ่านรายการ Show Me The Money สู่การเป็นผู้เข้าประกวดอย่างจริงจังในซีซั่นที่ 8 ที่ใช่เวลาฝึกฝนด้วยตนเองแค่หนึ่งปีเท่านั้นสู่การลงแข่งขันที่มาพร้อมกับการแต่งกายคล้ายจิงโจ้ มองจากผิวเผินภายนอกเด็กคนนี้ประสบการณ์น้อยกว่าคนอื่นก็จริงแต่ด้วยสไตล์แร็ปสำเนียงแบบวีนทีนซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก Beenzino ผู้เป็นหนึ่งในแร็ปเปอร์ดวงใจของตัวเองมาประยุกต์ปรับใช้ผสมผสานกับความกวนโอ้ยกึ่งโวคอลที่ทำเอาทุกคนทึ่งในความสามารถเกินวัยของเด็กคนนี้แถมยังถูกใจ ครัช(CRUSH) จนอ้าปากค้างในรอบแบทเทิล 1:1 วัยอายุเพียงแค่ 17 ปี(เกาหลี)ณ ตอนนั้นก็ผลักดันตัวเองจนสามารถก้าวไปสู่รอบ Semi-Final ได้สำเร็จจากที่เกือบตกรอบไปแล้วแท้ๆ แต่ในระหว่างการแข่งขันก็ใช่ว่าครอบครัวจะปลื้มสักเท่าไหร่ในการตัดสินใจความชื่นชอบของลูกชายตัวเองเพราะกลัวจะเสียการเรียน(เห็นแบบนี้ไอ้เด็กจิงโจ้เคยเป็นประธานนักเรียนสมัยประถมกับมัธยมเด้อ ดูแล้วหัวกะทิใช้ได้) ในเมื่อคนเรามันมีความพยายามแล้ว ยังไงซะความสำเร็จย่อมตามมาด้วยเสมอ BIG Naughty พิสูทธิ์ให้ครอบครัวได้เห็นว่าสิ่งที่เขาใฝ่ฝันอยากทำนั้นไปถึงจุดที่เด็กอายุเท่านี้จะทำได้ ท้ายที่สุดได้ไปสะดุดตากับท่านประธานผู้มากไปด้วยชื่อเสียงและความสำเร็จในวงการฮิปฮอปในประเทศเกาหลี Jay Park จับเซ็นสัญญาเข้าสังกัด H1GHR MUSIC ทันทีในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตา
> 시발점 Remix ซิงเกิ้ลแรกกับคัลท์เล็กๆ ภายใต้ค่ายสังกัดดังที่ต้นฉบับเป็นเพลงของ Verbal Jint หนึ่งในกรรมการรายการ SMTM8 ที่ดงฮยอนได้นำบีทเพลงนี้มาใช้แร็ปในรอบ 1:1 จนสามารถเอาชนะ Yooja ไปได้มาปัดฝุ่นใหม่แถมยังเซอร์ไพร์สได้ Beenzino มาร่วมแจมเสริมทัพความสนุกซึ่งในเวอร์ชั่นเดิมบีนซีโน่มีเครดิตร่วมแจมอยู่แล้วเป็นทุนเดิม.. ถัดมาในปี 2020 โปรเจ็ตยิ่งใหญ่ของค่ายก็ไม่พลาดที่เด็กใหม่คนนี้ร่วมแจมกับรุ่นพี่ในค่ายด้วยเช่นกันทั้ง The Purge, Teléfono Remix, 뚝딱 Freestyle, How We Rock, RSVP Remix, End Of The Night, Oscar และ 잠깐만 ซิงเกิ้ลเดี่ยวในอัลบั้มโปรเจ็ค H1GHR : BLUE TAPE เรียกได้ว่าปล่อยศักยภาพของตัวเองแบบเต็มพิกัดไม่น้อยหน้ารุ่นพี่ในค่าย แต่การจะมีผลงานอัลบั้มเป็นของตัวเองอย่างเป็นทางการใช่ว่าจะรวดเร็วทันใจเหมือนการเซ็นสัญญาเข้าค่าย
> ระยะเวลาหนึ่งปีเศษกับการอยู่ภายใต้ค่ายสังกัดดัง ความที่ตัวเองยังเป็นเด็กน้อยในหมู่คนมากประสบการณ์ ดงฮยอนเลยต้องสะสมประสบการณ์ในการทำงานร่วมกันกับคนอื่นไปพลางๆเพื่อหาแนวทางของตัวเองจนกว่าจะได้สิ่งที่ใช่สำหรับการออกอัลบั้ม แต่ในช่วงระหว่างนั้นก็ยังซุ่มทำเพลงของตัวเองไม่ขาดสายเช่นกัน.. อีพีอัลบั้มชุดแรก represent เหนือความคาดหมายผิดแปลกกับวัย gen z คนอื่นที่มีความทะเยอทะยานสูง แต่กับดงฮยอนเลือกให้อีพีนี้เป็นการทำความรู้จักตัวตนของตัวเองผ่านสิ่งที่เรียกว่า Bucket List ความปราถนาในสิ่งที่ตัวเองอยากทำก่อนจะตายจากโลกใบนี้
> ไตเติ้ลแทร็คปิดท้ายอัลบั้มอย่างเพลง Bucket List ที่ได้ DPR CREAM มาโปรดิวซ์ให้ แค่ท่อน Till we die, Till we fly ก็บ่งบอกธีมหลักของอัลบั้มอย่างชัดเจน ลูกเล่นสไตล์ r&b-trap กึ่งแร็ปกึ่งร้องให้ความเป็นครัชโคลนนิ่งโดยสมบูรณ์ ไม่แปลกใจทำไมผู้ชายคนนี้ถึงหลงใหลเจ้าเด็กจิงโจ้, Bravo ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายที่ตัวเองเป็นคนเลือกเถอะ ไม่ต้องไปฝืนใจทำในสิ่งที่คนอื่นอยากให้ทำ บีทเรียบๆลายเซ็นชัดเจนแน่นอนว่าได้รุ่นพี่ร่วมตึกที่อยู่สังกัดหลักอย่าง GRAY มาลงมือต้อนรับรุ่นน้องพร้อมเชิญ Coogie มาแร็ปเสริททัพใน verse 2 และ G.Soul มาร้องพาร์ทบริจด์อาร์แอนด์บีมีความละมุนขึ้นมาหน่อย, Brand New World รีเมคจากเพลงดังของ Seotaiji The Boys มาปรับสูตรใหม่โดนยังคงเค้าโครงเนื้อหาเดิมที่อยากสร้างโลกใบใหม่โดยไม่ต้องมีการศึกษาเข้ามาขัดขวาง ระเบิดอารมณ์สุดขีดกับซาวนด์ร็อคแบบ old school 90s แถมได้ Rohann มาเป็นเพื่อนอุดมคติร่วมกัน เป็นความบ้าแบบวัยทีนที่สุดโต่งโคตรๆ
> ด้วยอายุเพียงแค่ 17 ปี มันเป็นช่วงวัยอารมณ์ของเหล่าเด็กยุค gen z ที่ทุกคนล้วนต่างก็มีความรักกันทั้งนั้นแน่นอนว่าดงฮยอนก็มีความรักเหมือนกับคนทั่วไปที่มีทั้ง love at first sign จนไปถึงความเจ็บปวดจากการอกหักเช่นกัน Girl At The Coffee Shop ตกหลุมรักสาวในร้านกาแฟละเมอเพ้อฝันว่านี่แหละคือคนที่ใช่ ได้ Wonstein มาแร็ปขยายความช่วยอีกหนึ่ง step, Frank Ocean ตั้งชื่อแทร็คจากแร็ปเปอร์คนโปรดชาวผิวดำ เรื่องราวของรักครั้งแรกที่ไม่สามารถลืมได้ ดงฮยอนคิดไม่ต่างอะไรจากคนอื่นในเรื่องรักครั้งแรกว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ได้สาว SOLE มาฟีทเจอร์ริ่งให้ในสไตล์บีท lo-fi เหงาๆ เป็นหนึ่งเพลงที่ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดีเลย, ซิงเกิ้ลหลักอย่าง Joker ที่ดงฮยอนสลัดคราบแร็ปเปอร์โชว์โวคอลอย่างเต็มเพลงเป็นครั้งแรก เปรียบเหมือนคนรักเป็นตัวละครชื่อดัง เอาตัวเองเป็น Harley Quein ที่คลั่งรักยกให้เป็นทูนหัวให้ตายสุดท้ายเธอกลับไม่สนใจใยดี ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องเลิกรากันไป ดึงสาว JAMIE หรือ พัคจีมินแชมป์จาก K-Pop Star ซีซั่น 1 มาร่วมแจมด้วย ตั้งแต่ออกจากเจวายพีไป เธอคนนี้โดนตามจีบจากเหล่าศิลปินหลากหลายทิศให้ไปร่วมงานเยอะเหลือเกิน
> 10 Years Later รับบทนั่งไทม์แมชชีนเป็นตัวเองในอีกสิบปีข้างหน้าเพื่อบอกกับตัวเองในยุคปัจจุบันตอนนี้ที่เติบโตมาได้เพราะคนรอบข้างต่างสนับสนุนและยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น อยากทำอะไรทำมันซะตอนนี้ก่อนที่จะไม่ได้ทำมันอีกในภายภาคหน้า มาเป็นบีท edm-trap ตามยุคตามสมัยที่ไม่ได้อยู่ในขั้นแสบจี๊ดไปถึงข้างในสมอง คู่ฟีทเจอร์ริ่งยังได้ Paloalto แชร์เรื่องราวชีวิตที่ผ่านของตัวเองก่อนจะอายุ 40 ปี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์แทร็คที่ผิดคาดกับคู่ฟีทเจอร์ริ่งแต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับออกมาสมบูรณ์ ลุงพะโล้กลับกลายเป็นจิ๊กซอว์ที่มาเติมเต็มให้แทร็คนี้มีความหมายลึกซึ้งมากขึ้น ผ่านประสบการณ์ของตัวเองในการชีวิตทุกรูปแบบ เป็นอารมณ์พี่สอนน้องก็คงใช่แต่เป็นการสอนน้องที่ให้รู้จักคุณค่าชีวิตของตัวเอง
> คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าเด็กคนนี้จะยกความคิดของตัวเองเกินอายุไปไกลโข.. ด้วยความที่เป็นเด็กหัวกะทิของคนในครอบครัวด้วยละมั้ง การวาดฝันตัวเองอนาคตตัวเองมันกลายเป็นเลยเถิดกว่าจินตนาการฝันหวานมีชีวิตที่แฮปปี้ทุ่งลาเวนเดอร์ เด็กคนนี้กลับเลือกที่จะออกจากจินตนาการพวกนั้นแล้วมาโฟกัสกับโลกความเป็นจริงที่ใช่ว่าแม่งจะร่าเริงได้ตลอด การเชิญรุ่นพี่หลากหลายโปรดิวเซอร์จากสายงานเดียวกันทั้ง DPR CREAM, GRAY, PEEJAY, Minit หรือ Cosmic Boy ทำให้ดงฮยอนหรือ BIG Naughty ดึงศักยภาพที่มากกว่าความเป็นฮิปฮอปในยุคปัจจุบันที่เอาแต่เน้นบีทแทร็ปโหลๆสนุกสนาน เด็กคนนี้สร้างโหมดจริงจังให้ตัวเองในชีวิตก่อนจะบรรลุนิติภาวะแต่ก็ไม่ละทิ้งสไตล์ความเป็น gen z ที่ยังสามารถเข้าถึงได้เช่นกัน
> อีพีเปิดตัวจึงไม่ใช่สิ่งที่ดงฮยอนอยากทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการก่อนจะตายจากโลกไปแล้ว เด็กคนนี้กลับสร้างกรอบความคิดของตัวเองเพื่อที่จะทำให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาไม่ใช่เด็กน้อยที่ใครๆจะคอยดูถูกหรือสบประมาทเพียงเพราะแค่คำว่า วัยรุ่น gen z ถ้าเป็นผู้ใหญ่คนอื่นคงคิดว่าเด็กคนนี้มันดูแก่แดดจังวะ? เป็นเด็กก็ควรจะมีความคิดเหมือนเด็กสิทำไมถึงอยากรีบโต? เพราะดงฮยอนไม่ได้มองโลกใบนี้แค่สนุกไปวันๆเหมือนเด็กคนอื่นยังไงล่ะ จึงกลายเป็นที่อีกหนึ่งข้อพิสูทธิ์ให้คนในครอบครัวที่หวงลูกชายดั่งไข่ในหินยอมรับที่ให้เด็กคนนี้ได้ทำตามความฝันจนสำเร็จไปแล้วอีกหนึ่งขั้น ในอนาคตข้างหน้าเด็กคนนี้คงกลายเป็นหนึ่งใน hiphop arist ที่ความสามารถพลั่งพรูเจ๋งแจ่วอย่างแน่นอนเพราะแค่นี้ก็กลายเป็นหน้าใหม่ที่ถูกจับตามองไม่แพ้กับเหล่าไอดอลที่กำลังมาแรง ณ เวลานี้
.
.
.
“แล้วคุณหล่ะมีอะไรอยากทำกันก่อนตายมั้ย?”
(8/10)
Top Tracks: Joker, Frank Ocean, Brand New World, 10 Years Later, Bucket List
thank u for reading ?
ถ้ามีคำหรือประโยคไหนที่ใส่มาเพื่อความอรรถรสแล้วไม่ถูกใจผู้อ่านทุกท่าน
ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
ฝากติดตามเพจได้ที่ link นี้ >> https://facebook.com/chanjamareview
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in