• สำหรับแอดแล้ว ทไวซ์(
• ในช่วงเดบิวท์เริ่มแรกดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไหร่สำหรับสาวๆซึ่งค่อนข้างผิดมาตรฐานของเกิร์ลกรุ๊ปค่าย JYP เอามากๆแต่เพราะการโปรโมทของที่ขยันขันแข็งอย่างสม่ำเสมอ Like OOH-AHH จึงเป็นซิงเกิ้ลเดบิวท์อีพีชุดแรกที่ทำให้สาวๆสามารถปลดหนี้ค่ายได้ภายในเวลา 4 เดือนและยังเป็นหนึ่งในเพลงเดบิวท์ที่ประสบความสำเร็จจนสามารถต่อยอดอัลบั้มถัดไปจนมีเพลงฮิตตลอดไม่ขาดสายอีกทั้งยังครองสถิติร่วมกับรุ่นพี่ในตำนานอย่าง 2NE1 และ SISTAR
• การกลับมาอีกครั้งในปี 2020ที่ห่างหายจากการปล่อยสตูดิโออัลบั้มไปถึงสามปีในช่วงขยันแบบสุดพลัง(คัมแบ็ค 4 อัลบั้มในปีเดียว)อย่าง twicetagram ที่เราได้เห็นความสดใสผ่านการเล่าเรื่องราวในรูปแบบของทไวซ์เหมือนอยู่บนแอพพลิเคชั่นดัง instagram แน่นอนว่าทุกคนต่างเคยชินกับทไวซ์ในรูปแบบของสาวsweet pop มากจนคิดไม่ถึงว่าทไวซ์จะสามารถก้าวข้ามความน่ารักสดใสไปได้..อย่าลืมว่าพวกเธอคือสาว color pop ที่จะนำเสนอสีสันอันหลากหลายเพื่อตอบโจทย์กับสไตล์และคอนเซ็ปแต่ละคัมแบ็คตามความจริงจากรีวิวตัวแอดที่ได้บอกไปว่าทไวซ์เริ่มโตเป็นนางสาว(ในการคอนเซ็ป)มากขึ้น Eyes Wide Open จึงทำให้แอดกลับคิดได้ว่าสิ่งที่ขาดหายไปในที่ผ่านมาคือสีสันดั้งเดิมที่เป็นทไวซ์แบบแน่แท้ความผิดพลาดของแอด ณ ตอนนั้นที่เอาแต่โฟกัสถึงความเติบโตของวงในทิศทางจัดจ้านขึ้นเน้นความสนุกแบบผู้ใหญ่แต่ดันขาดธีมหลักใจกลางของคอนเซ็ปวงไป(ซึ่งจะไม่ขอนับ Feel Special มันเหมือนเป็นอีพีอัลบั้มที่ปล่อยออกมาเพื่อมอบให้แฟนคลับโดยเฉพาะ)การกลับมาคราวนี้ยิ่งเป็นอัลบั้มเต็มรูปแบบจริงจังเราเลยได้เห็นความนุ่มลึกและสุขุมมากกว่าเดิมพร้อมที่จะให้คนฟังได้เบิกเนตรชมทไวซ์ในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน
• I CAN’T STOP ME ซิงเกิ้ลโปรโมทเปิดอัลบั้มถึงความไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดีจนไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้ซาวนด์เรโทรผสมผสานกับ eurodance 80s ชนิดที่ว่า uptempoแบบจัดเต็มกว่าเก่า ได้โปรดิวเซอร์อย่างคู่สามี-ภรรยา MelanieJoy Fontana และ Michel ‘Lindgren’ Schulz ลงมือนั่งทำเพลงหลักด้วยตัวเองก็คงหายห่วงไปได้, HELL IN HEAVEN ใครว่าสวรคค์มันจะสุขสบายเพราะความจริงแล้วมันก็ไม่ได้ต่างจากนรกดีๆนั่นแหละซาวนด์ละตินกีต้าร์นุ่มราวกับว่าต้องการให้ใครสักคนพาไปสถานที่ที่เรียกสวรรค์ของจริงที่ไม่ใช่เหมือนอยู่ในนรก, UP NO MORE พยายามข่มตาให้ตัวเองนอนหลับด้วยการรังสรรค์จังหวะดิสโก้เพื่อให้ซาวนด์แดนซ์ดูเบาสบายราวกับว่าเป็นการกล่อมนอน เนื้อเพลงทั้งหมดจีฮโยเป็นคนเขียนเองคนเดียวด้วยดูเหมือนว่าเธอจะมีประสบการณ์การนอนไม่หลับแน่นอน
• DO WHAT WE LIKE เพลงนี้น่าจะตอบโจทย์สำหรับชื่ออัลบั้ม Eyes Wide Open มากที่สุดได้เบิกเนตรของคุณแล้วเปิดประสบการณ์ในรูปแบบที่เราได้ทำตามใจอยาก ซานะเขียนเนื้อเพลงด้วยนะเออ
• BELIVER มันคือแทร็คให้กำลังสำหรับคนที่กำลังท้อแท้กับเรื่องราวต่างๆที่โหนกระหน่ำเพียงแค่เชื่อว่ายังไงเราก็ต้องผ่านมันไปได้ บริบทซาวนด์อิเล็กทรอนิกส์จ๋ามันเลยดูเป็นความสมเหตุสมผลที่ออกมาไปในทิศทางเดียวกัน
• BRING IT BACK ชอบท่อนฮุคที่ snap บีทดร็อปนะ มันดู deep ใช้ได้แต่ท่อนverse ธรรมดาไปหน่อยเลยไม่รู้สึกดีเท่าในส่วนของท่อนบริจด์ก็ดูสมเหตุสมผลเปลี่ยนบีทให้ดู uptempo ขึ้นกว่าเดิมแต่ก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าถูกใจสักเท่าไหร่, QUEEN swing dance ที่รู้สึกเกินคาดกับแทร็คนี้แฮะในความหลอกด่า(?)ยังสามารถรังสรรค์ซาวนด์สไตล์แดนซ์ออกมาได้ถ้าไม่เปิดเนื้อเพลงก็ไม่รู้หรอกว่านี่คือเพลงจิกกัดคนเสแสร้ง โดยสองเพลงนี้ดาฮยอนเป็นคนลงมือเขียนเนื้อเพลงทั้งหมดและเป็นเมมเบอร์ที่ลงมือเขียนเนื้อเพลงคนเดียวถึงสองเพลงในอัลบั้มชุดนี้
• GO HARD เนื้อหาที่ให้ความรู้สึกร่วมกับ ONCE ที่ต้องฝ่าฟันกับเจอแรงกระทบจากแอนตี้แฟนทั่วสารทิศที่คอยพยายามขัดขาอยู่ตลอดเวลายังหาสิ่งที่จดจำอะไรไม่ค่อยได้ท่อนฮุคดร็อปบีทงงดี, SHOT CLOCK
• HANDLE IT การเลิกรากันที่ไม่สามารถทำใจได้กีต้าร์อะคลูสติกที่ตบด้วยท่อนฮุค pop r&b นุ่มและเจ็บชักจะไม่แน่ใจแล้วสิว่าการประกาศข่าวเดทของแชยองมันจะมาจากประสบการณ์จริงหรือเปล่า, DEPEND ON YOU ความรู้สึกที่ว่างเปล่าเมื่อไม่มีคุณคอยอยู่ข้างๆซาวนด์ electro pop ความเหงาโดดเดี่ยวโดยสมบูรณ์แบบ เป็นเนื้อหาที่ต่อจากแทร็คของแชยองได้ไม่ติดขัด นายอนเหมือนหยั่นรู้เชิงน้องสาวเลยนะ
• SAY SOMETHING แนว city pop รับลมหนาวอันแสนหวานในยามราตรี ท่ามกลางแสงสลัวที่เริ่มดับลงไปเรื่อยๆเพียงแค่ได้ยินเสียงคุณพูดอะไรออกมาก็แล้วมันทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกปีนี้ต้องบอกเลยว่าแนวเพลงคนเมืองมันมาแรงจริงๆ
• BEHIND THE MASK แทร็คปิดอัลบั้มที่รวมเหล่าอะเวนเจอร์สองคนดังอย่าง Heize(เฮซ) นักร้องสาวอาร์แอนด์บีเขียนเนื้อเพลงและ Dua Lipa ที่กำลังมาแรงสุดๆร่วมโปรดิวซ์ปิดท้ายเบื้องหลังหน้ากากอันสวยหรูที่พยายามซ่อนความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าก้ำกึ่งระหว่างซาวนด์อิเล็กทรอนิกส์กับบัลลาดป็อบ ถือว่าเป็นการเลือกแทร็คปิดได้ดี
• อาจจะดูสงสัยในระหว่างที่อ่านว่าทำไมถึงพยายามบอกชื่อเมมเบอร์ในแต่ละแทร็คที่พวกเธอได้มีส่วนร่วมในการผลิตอัลบั้มครั้งนี้.. อัลบั้มที่เต็มไปด้วยความสุขุมนุ่มลึกแต่มันกลับสร้างกำแพงความเจ็บช้ำจากสิ่งต่างๆที่ทไวซ์ได้ผ่านมันมาทั้งเรื่องความรักการต่อสู้กับความความเศร้า ในความ emotional
“บนความสนุกที่กลับกลายเป็นฝืนความรู้สึกของตัวเอง”
(6.5/10)
Top Tracks: I CAN’T STOP ME, HELL IN HEAVEN, UP NO MORE, HANDLE IT, SAY SOMETHING
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in