สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน กลับเข้าสู่ป่ากันอีกครั้ง 55555 ในครั้งนี้เป็นการมาค่ายของเราครั้งที่ 2 สำหรับค่าย Plantoys Family Trip ที่สวนผึ้ง ราชบุรี ครั้งนี้เราไปที่เดิมเลยค่ะ แต่ความรู้สึกต่างออกไปจากเดิมมาก ในค่ายครั้งแรกเรามีความรู้สึกกดดันมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่เราต้องรู้จักกับคนใหม่ ๆ ต้องทำหน้าที่ที่ไม่เคยทำ จนทำให้เราค่อนข้างเกร็งและเครียดนิดหน่อยค่ะ แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไปตั้งแต่วันที่เริ่มจัดกระเป๋า ตอนแรกเราลังเลว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี แต่ในที่สุดเราก็ตัดสอนใจค่ะ ว่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ไปดีกว่า ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้รู้ตัวเองจริง ๆ ว่าชอบมันหรือไม่ ซึ่งเราก็คิดไม่ผิดเลยค่ะที่เลือกไป ค่ายนี้ทำให้เราได้อะไรหลายอย่างมากกว่าเดิมมาก
อย่างการเริ่มไปวันแรกครั้งนี้เราเอากระเป๋าไปแค่เป้ใบเดียวเท่านั้นค่ะ หลังจากที่ตอนนั้นเล่นเอากระเป๋าลากไป 555555 เอาไปเพื่ออะไรก่อน เอาของเยอะไปก็ไม่ได้ใช้ครบทุกอย่าง ครั้งนี้จึงเอาไปแค่นิดหน่อยพออยู่ได้ค่ะ หลังจากออกเดินทางพี่ ๆ ก็พาเราทัวร์กินตลอดทาง เรียกได้ว่ากลับมาก็คือน้ำหนักขึ้นเลยค่ะ 555555 เมื่อไปถึงพี่ ๆ ก็นั่งคุยกัน เราก็นั่งฟัง โดยมีความรู้สึกลึก ๆ คือ รู้สึกว่าเราไม่เกร็งกับพี่ ๆ อีกแล้ว เริ่มรู้สึกสนิทคุ้นชินมากขึ้น จากนั้นก็ไปดูพี่ ๆ ให้อาหารปลา อาหารสัตว์ และก็กลับบ้านพักค่ะ โดยครั้งนี้เราก็ได้พักในที่พักที่ใกล้ ๆ กับสถานที่จัดกิจกรรม เรารู้สึกดีมากเพราะเหมือนเราไม่ต้องแตกแยกกับคนอื่น ๆ เหมือนครั้งก่อน
พอวันที่สองมาถึง วันนี้เราตั้งใจว่าจะซ้อมเล่านิทาน ทำนิทานใบไม้ เราก็ทำตามที่คิดไว้ค่ะ และวันนี้ก็เป็นวันที่เราได้มาชื่นชมธรรมชาติ ได้ถ่ายภาพสวย ๆ ด้วยค่ะ และเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายคือ เพื่อนเราที่เคยทำค่ายด้วยกันครั้งที่แล้วไม่ได้มาครั้งนี้เพราะติดภารกิจ ได้ทักมาหาเราในช่วงเช้า เราก็เลยคุยกัน เพื่อนบอกว่าตอนนี้ว่างแล้ว อยากมาค่ายอีกถ้าเป็นไปได้ เราก็เลยบอกพี่ ๆ ว่าเพื่อนอยากมา ไม่นานพี่ ๆ ก็ตกลงกันว่าจะไปขับรถไปรับค่ะ! เราเซอร์ไพรส์มาก อยากให้เพื่อนได้มา เพื่อนก็ได้มาเลย 55555 ไม่นานเราก็ได้ไปรับเพื่อนถึงมหิดล กาญ เพื่อพาเพื่อนกลับมาค่ายในที่สุด เมื่อเพื่อนมาแล้ว เราจึงขอให้เพื่อนช่วยเป็นคนเล่นหุ่นเงาสำหรับนิทานใบไม้ เพื่อนก็ดีใจมากและเราก็ได้ซ้อมกันให้น้องมะเฟืองได้ดูด้วยค่ะ
และแล้ววันค่ายวันแรกก็มาถึง เรารู้สึกว่าตัวเองทำหน้าที่ได้ดีกว่าเดิมมาก ๆ เราแทบจะไม่ต้องถามอะไรพี่เค้าเลย เราเริ่มรู้ว่าต้องเตรียมอะไรยังไงอย่างไร เรารู้สึกดีมากที่ได้ทำตัวเป็นประโยชน์สักที และค่ำคืนนี้ีที่มีเล่านิทานเราก็ทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมมากจนพี่ ๆ ถึงกับชมและบอกให้เรารู้จริง ๆ ว่า เราเล่านิทานออกมาเป็นยังไง ซึ่งผลก็ออกมาในทางบวกค่ะ พี่ ๆ บอกว่าเราเล่าดีขึ้นกว่าเดิมมาก เราภูมิใจมาก ๆ เลยค่ะ
วันต่อมาเป็นค่ายวันที่สอง เป็นวันขึ้นเขากระโจมค่ะ วันนี้เป็นวันที่เราได้เห็นธรรมชาติแบบสวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเพราะ เป็นวันที่ฝนตกและมีเมฆเยอะ ทำให้เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขากระโจมเราเห็นเมฆปกคลุมยอดเขาเหมือนทะเลหมอกเลยค่ะ สวยงามมาก ๆ ดีใจที่ครั้งนึงในชีวิตได้เห็นอะไรแบบนี้ ตกเย็นก็เป็นการดูแมลงหรือการเดิน Night Walk ค่ะ ได้เห็นจักจั่นงวงตัวเป็น ๆ ด้วยค่ะ สวยมาก ๆ
พอวันต่อมาก็เป็นวันสุดท้ายของค่าย และเป็นวันสุดท้ายของการทำงานค่ะ วันนี้ก็ได้เดินทางไปที่ วนาไพรงาม ที่เดิมค่ะ เด็ก ๆ ก็ได้ทำกิจกรรมอย่างการเรียนรู้เรื่องทิศทางลม และการสำรวจตัวอ่อนในลำธาร เด็ก ๆ สนุกมาก ๆ ค่ะ เราก็สนุกมาก ๆ เช่นกัน
การมาค่ายครั้งนี้ ทำให้เรารู้สึกสนุกมาก และรู้สึกโชคดีที่ได้รู้จักพี่ ๆ ได้ทำงานที่นี่ ได้รู้จักเพื่อนมากขึ้น เราเริ่มรู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ และเราไม่ร้องไห้เหมือนครั้งก่อนด้วยค่ะ 55555 เราได้เห็นธรรมชาติแบบที่ไม่เคยเห็น เราคิดถูกมากที่มาค่ายครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณพี่รถเมล์ พี่ต้น ที่ให้โอกาสเราอีกครั้ง และช่วยเหลือในการพาไปซื้อของต่าง ๆ และทำให้เรารู้ว่าเราอยากจะทำอะไรต่อไป เราดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของค่าย เป็นประสบการณ์ที่เราจะไม่ลืมมันตลอดชีวิตเลยค่ะ
เราดีใจที่ได้ฝึกงานที่นี่ เราได้อะไรมากมายหลายอย่างเกินกว่าสิ่งที่เราคิดเอาไว้ตอนแรกก่อนมาฝึกงาน เหนือความคาดหมายมาก ๆ ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนมาก ๆ จากใจจริงค่ะ :)
7.8.2022 วันสุดท้ายของการฝึกงานที่มีความสุขที่สุด :)))
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in