ทั้ง 5คน สอ,หิน,และ กลุ่ม
“ไปทางนี้” สอชี้นิ้วไปยังป่าที่อยู่ทางด้านซ้ายของตัวเอง
“กุก็กำลังจะบอกมึงนี้แหละว่าพวกเราจะไปทางนั้น”1 อธิบาย
“ท่านตาเล่านิสัยมึงมาหมดแล้วมึงคิดละเอียดตลอด ไปทางป่า พวกเราอาจจับทหารได้สักคน
“นั้นก็ตามพวกกุมา สอและก็หินถามมาให้ทันนะ” 3พูดจบทั้งหมดก็เดินทางเข้าไปในป่า ป่าแน่นอน ขึ้นชื่อว่าป่าแล้วไม่มีอะไรที่เราจะรู้ได้เลยว่ามันคือสิ่งที่ปลอดภัยหรือไม่ กลุ่ม
“มึงๆ กุสังเกตมานานแหละกุว่ามีอะไรแปลกๆ” สอกระซิบบอกหิน
“พวกกุขอไปเยี่ยวแปปนะมึง รอพวกกุแปปเดี๋ยวพวกกุมา” หินตะโกนบอกกลุ่ม 123และลับตาออกไปจากเส้นทางเดินไปยังหินก้อนใหญ่ที่ลับตา
“มึงอธิบายมา มึงรู้สึกอะไร” หินจับไหล่สอด้วยท่าทางที่พร้อมรับฟังและดูเป็นกังวล
“ก่อนอื่น มึงหยุดสะที”อาการที่แก้ไม่หายกลับมาหาหินอีกครั้ง
“กุว่าพวกมันรู้ดีเกินไปว่ะ”สอเริ่มอธิบาย
“5-6
“ทั้งเรื่องอาหาร น้ำ เส้นทาง ที่นอน พวกมันรู้เรื่องหมดเลยน้ำอีก20นาทีถึงเดี๋ยวอีก 15นาทีจะมีกลุ่มวัวเดินอยู่ข้างหน้าตรงไปอีกนิดจะเจอถ้ำ กุว่าพวกเราโดนแล้วล่ะ”
“มึงคิดว่าท่านนุเล่นพวกเรา?”หินตั้งคำถาม
“กุไม่แน่ใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ท่านนุอาจกำลังเล่นเกมอยู่” สออธิบาย
“กุก็อยากเล่นมันเหมือนกัน”สอเปิดแผนของตัวเอง
“มึงพูดไรของมึง
“ไม่ใช่
“นั้นเราก็ไม่ควรเล่นเกมนี้สิมึงก็รู้ดีว่าถ้ามันเป็น 2
“กุอยากรู้ว่าไอ้ภาคีมีอะไรกับเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า?”
“ถ้าไอ้ภาคีมีเกี่ยวกับเรื่องนี้ท่านนุก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือ ตาก็เป็นเครื่องมือ กุก็ด้วยทั้งหมดเป็นเครื่องมือของไอ้ภาคีมัน”
“ถ้ามันเป็นจริงถ้าไอ้ภาคีเป็นคนนั้นจริงๆ มึงรู้ใช่มั้ยว่าเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่”
“งั้นกุควรทำไง กุมากับมึงแล้วมึงบอกกุ กุควรทำไง” หินถาม
“มึงแค่ทำสิ่งที่มึงควรทำ ใช้แผน
“และสิ่งที่สำคัญที่สุด”
“หยุดสั่นไอ้สัส”สอยื่นคำขาดกับเรื่องสั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ทั้ง
“ท่อใหญ่นะพวกมึง”
“อีกนานมั้ยว่ะกว่าจะถึงกุว่าเดี๋ยวจะหาข้อมูลกับไอ้ห่านี้ไม่ทัน” สอยกอาวุธขึ้นมา
“ทันดิว่ะเนี่ยอีกนิดเดียวก็ถึงขอบเมืองบูลวาแหละ มึงจะเอาไง จะวิ่งเลยมั้ยจะได้ถึงเร็วขึ้น” 1เสนอ
“มึงวิ่งพวกกุก็วิ่ง ง่ายๆ”สอตอบรับข้อเสนอ
ทั้งหมดเดินทางวิ่งสลับเดินได้สักพักก็ถึงขอบชายแดนของเมืองบูลวาที่ค่อนข้างละล่วมในการทหารในช่วงเวลานี้
“พวกเจ้ามาทำอะไรที่เมืองนี้”ทหารเฝ้าถาม
“พวกเรามา...”
“มากินอาหารที่นี้นะเพื่อนเราบอกว่าอาหารที่เมืองนี้อร่อยไม่มีที่ติ พวกเราก็เข้าไปได้หรือไม่?”สอพุดตัดหน้า 3 ที่กำลังจะอธิบายถึงเหตุผลของการเข้าเมือง
“ได้สิพวกท่านแต่พวกเราคงตรวจสัมภาระก่อนนะครับ”
“อะไรนะนุ นุพูดใหม่สิ”ดุสิตาแทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ลานุพูด
“ใช่ ทุกคนถูกเรียกกลับมาที่เมือง”ลานุอธิบาย
“จริงๆแล้วมันคือทางเลือกของผู้สมัครเอง เลือกว่าจะกลับมาพร้อมกับที่ชีวิตที่จะอยู่กับตัวเองกับทำภารกิจต่อไป ได้ตำแหน่งในวัง ได้เป็นทหารในวังแต่ก็แลกกับชีวิตที่จะอยู่ได้นานอีกแค่ไหน มันก็เป็นทางเลือกของผู้สมัครเองท่านตาและท่านนุโปรดได้วางใจได้” ภาคีตอบ
หลังจากที่ทั้ง
“ไอ้สอ”
“ว่าไง เรามีเวลาไม่มากแหละนะ”
“พวกมึงทั้ง
“พวกมึงว่าไงนะ?” สอถาม
“ก็ถ้าพวกมึงไว้ใจพวกกุพวกกุจะพามึงไปเส้นทางอีกเส้นที่จะพาไปหาข้อมูลมึงจะได้ข้อมูลทุกอย่างที่มึงต้องการที่จะผ่านไตรมรณะ”
“เอาตรงๆมั้ย?” สอเริ่มตอบ
“พวกกุไม่ไว้ใจพวกมึง”
“แต่พวกกุก็มาอยู่ต่างเมืองกับพวกมึงที่กุไม่ไว้วางใจแล้วจะเสี่ยงอีกนิด ก็ไม่เสียหายอะไร มึงนำพวกกุได้เลย เดี๋ยวพวกกุตามไป” สอพูดจบ
“เป็นอย่างที่ท่านตาพูดไว้ไม่มีผิดมึงนี่ สู้ตายไว้ลายจริงๆ” 2
“นั้นก็อย่าเสียเวลาอีกเลย ตามมาเราเสียเวลามามากแหละ” ทั้งหมดวิ่งหน้าตั้งเข้าไปในเมืองแน่นอนสอและหินไม่ได้ไว้ใจทั้ง3
“ทำไมพวกมึงมาช้ากันจังว่ะ”บุคคลปริศนาที่รออยู่ด้านหน้าบ้านหลังเล็กๆตะโกนทั้งหมด บุคคลนี้มีนามว่า สิทีบ้านที่สิทีอยู่ที่บริเวณขันนาที่เป็นนาขั้นบันไดกลางภูเขา
“ขอโทษๆ พวกกุพยายามเต็มที่แล้วแต่ดูเหมือนเส้นทางที่เตรียมไว้ผิดไปเล็กน้อย” เส้นทางที่เตรียมไว้ที่พูดโดย
“นี่คือคนที่ท่านอยากเจอคับ”
“คนไหนชื่อสอ” สิทีถาม
“ผมเอง มีอะไรคับ”
“สิ่งที่พวกมึงอยากได้ มันอยู่ในคัมภีร์ม้วนนี้มึงลองอ่านดู” สิทียื่นคัมภีร์รายละเอียดเนื้อหาของอาวุธที่ทั้ง
“ทำไมมึงถึงรู้ มึงเป็นใคร”สอถามด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป
“ระวังคำพูดด้วยมึง ไอ้สอ”
“ไม่เป็นไร” สิทีปราม
“มึงคงงงว่ากุคือใคร กุคือสิทีพ่อของดุสิตา” สิทีบอกตัวตนของตนเอง
“พ่อ พ่อของตา” สอแทบไม่อยากจะเชื่อ
“ใช่ กุคือพ่อของตา”
“แล้วไอ้พวกนี้ อย่างที่มึงรู้จัก
“เออแล้วไอ้กลุ่มที่ภาคีให้มาป่วนงานนี้ มาตามที่คาดไว้มั้ย?” สิทีถาม
“แน่นอนครับท่าน มาตามนัดทั้งเวลาและสถานที” 3
“พวกเอ็งเกี่ยวอะไรกับภาคี” สอถาม
“พวกเราคือกลุ่มคนที่รอดมาจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้นมึงก็รอด ถูกมั้ย?”
“เล่ามาให้หมด เหตุการณ์วันนั้น”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in