“พี่สอค่ะ” กล้วยไม้เรียกสอที่กำลังแต่งตัวเพื่อเตรียมพร้อมไปยังการสอบไตรมรนะ
“ว่าไงไม้” กล้วยไม้เดินเข้ามาใกล้ๆสอเอามือทั้ง2ข้างมาปัดฝุ่นที่อยู่บนเสื้อของสอ
“ไหนบอกว่าเก็บเสื้ออย่างดีไงอุตส่าห์ซัก รีดอย่างดี ทำไมมีฝุ่นมาเกาะได้ค่ะ”สอก็ปล่อยให้กล้วยไม้จัดระเบียบเสื้ออยู่อย่างนั้น
“พี่ขอโทษค่ะไม้” สอตอบกลับ
“วันนี้แล้วนะค่ะพี่สอ ไตรมรณะ”
“ใช่แล้ว ไตรมรณะ”
“พี่สอเป็นไงบ้างค่ะ กังวลมั้ยค่ะ”กล้วยไม้ถามด้วยความเป็นห่วง สอที่หันหลังให้กล้วยไม้อยู่นั้นหันหลังกลับมาอย่างรวดเร็วที่มีกล้วยไม้ยืนอยู่ สอย่อเข่าลง มองตากล้วยไม้อย่างนุ่มนวล
“ไม้ฟังพี่นะ” กล้วยไม้กลืนน้ำลายลงคงจะเป็นวันนี้สินะ เพราะ2ปีที่ผ่านมากล้วยไม้ดูแลสออย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งดูแลเรื่องอาหารการกินที่หลับที่นอน เสื้อผ้า การฝึกซ้อม คนที่กินเหล้าด้วย ถึงแม้สอจะคออ่อนและเมาง่ายก็ตาม กล้วยไม้ที่คอแข็งกว่าก็จะเป็นคนพาสอกลับมาที่ยังเตียงนอนถึงแม้ว่าจะอยู่ด้วยกันมา2ปี แต่สอก็ไม่เคยจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเธอเลยอย่างมากเธอก็เข้าไปกอดสอ สอก็แค่เป็นหุ่นไม้ที่กล้วยไม้นึกว่าไม่มีความรู้สึกอะไร
“ไม้เป็นคนสำคัญของพี่ตลอด2ปีที่ผ่านมา” ทั้ง2ยังคงจ้องตากัน
“เพราะไม้ ทำให้พี่มายืนอยู่ตรงนี้โดยไม่มีความลังเลเลย”
“พี่ไม่ความลังเลเลย ที่จะไปสู่ไตรมรณะ”
“ไม้ค่ะ”สอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนนุ่มเหลือเกิน กล้วยไม้ที่เขินจนไม่รู้จะเขินยังไงแล้วหลับตาปี๋
“ไปส่งพี่นะ ไปส่งพี่ที่ประตูกรมไปกับพี่นะ” ทันใดนั้นสอก็สวมกอดกล้วยไม้แสดงถึงความขอบคุณตลอด2ปีที่ผ่านมา
“ได้ค่ะ ไม้ไปค่ะ”
“ขอบคุณนะค่ะ”แล้วทั้งสองก็เดินไปด้วยกัน จุดหมายคือประตูหน้าของกรมทหาร
“นุ” ดุสิตาเรียกลานุ
“ว่าไงตา”
“ตาว่านุรีบแต่งตัวมั้ยเดี๋ยวเราจะไปสายกัน” ใกล้เวลาเต็มที่แล้วแต่ลานุก็ยังแต่งตัวไม่เสร็จ
“ถึงแม้พระองค์จะแต่งตัวเสร็จแล้วพระองค์ก็ยังไปไม่ได้เพค่ะ” ภาคีกล่าวขึ้นมา
“อะไรค่ะท่าน ทำไมเราถึงยังไปไม่ได้”
“ท่านลานุท่านแน่ใจเกี่ยวกับการทดสอบไตรมรณะแล้วใช่มั้ย พะยะค่ะ”ลานุพยักหน้าและอยู่ในการแต่งกายที่อยู่ในขั้นที่เรียบร้อยที่สุดพร้อมที่จะออกจากวังแล้ว
“แล้วท่านคิดว่าด่านแรกที่เราจะทดสอบคืออะไร พะยะค่ะ”
“เอาอย่างไงดีตา เรา2คนสามารถกำหนดด่านทั้ง3ได้ นุขอโทษที่ต้องมาบอกอะไรด่วนๆแบบนี้นะ นุตักเตือนท่านภาคีแหละทีหลังเรื่องใหญ่ขนาดนี้บอกเราให้เร็วกว่านี้นะ”
“ขอประทานอภัยเพค่ะ จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเพค่ะ”
“อย่างไงก็แล้วแต่เราจะไปปล่อยให้มารอเราอยู่แน่นอน เราต้องไปถึงที่นั้นตรงเวลา ออกเดินทางเดี๋ยวนี้ระหว่างทางแล้วจะคิดไปเรื่อยๆ นม เตรียมพร้อม” ลานุบอกนมให้เตรียมพร้อมในการออกเดินทาง
“ท่านลานุอย่าลืมนะว่ากระหม่อมคือที่ปรึกษาของท่านการตัดสินใจทุกอย่างต้องผ่านการรับทราบของกระหม่อม...”ลานุเอายกนิ้วชี้ขึ้นมาอยู่ระหว่างปากของภาคี
“เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ หุบปากแล้วรีบตามเรามา” ลานุหัวเสียเหมือนกันกับการกระทำของภาคีที่ชอบมาเตือนเรื่องที่เป็นที่ปรึกษาของลานุ
“ว่าไงตา คิดอะไรได้แล้วบ้าง” แน่นอนดุสิตาไม่ทางที่จะไม่รู้ว่าการทดสอบครั้งนี้หมายความว่าอะไรถ้าคนที่สอบผ่านไตรมรณะมาได้ นั้นคือการเป็นทหารประจำวัง ขึ้นตรงกับทางวังไม่ได้ขึ้นตรงกับกรมทหาร ไม่ได้มีเจ้ากรมทหารเป็นผู้กำกับดูแลแต่มีลานุและตัวดุสิตาเอง ที่เป็นผู้กำกับ สอเองอาจจะ อาจจะ
“ตา ตา”ลานุเรียกดุสิตาดังขึ้นหลังจากที่เม้อลอยในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
“นึกถึงเรื่องอะไรอ่า?” ลานุถาม
“ก็นึกถึงว่าเราจะให้บททดสอบอะไรดี”
“นุ ตาอยากให้ด่านแรก เป็นด่านรอ”ดุสิตาเสนอ
“ด่านรอ?”
“หมายความว่าอะไรอ่า รอหรอ?” ลานุสงสัย
“ใช่ไหนๆเราทันท่านที่ปรึกษายังไม่ได้ตกลงกันว่าเราจะให้บททดสอบอะไรดีและนุอยากไปตรงเวลา เราก็ทดสอบความอดทนคนที่มาสมัครว่าจะรอเรา ที่จะมาอยู่กับเราจะอดทนรอเราได้นานขนาดไหน นุว่าไง” ดุสิตาอธิบาย
“นั้นก็ดีนะ ตาว่าไง นุว่างั้นแหละ”
“แต่นุต้องเป็นคนประกาศมันนะตา นุขอนะ”ลานุต่อรอง
“ค่ะ” ดุสิตายอมในข้อเสนอ ซึ่งเปิดโอกาสให้ลานุเล่นเกมส์
“ปัง ปัง ปัง”เสียงสัญญาณเรีบกรวมพลที่หน้าประตูกรมทหาร ผู้สมัครมีมากมายหลายที่ทั่วแผ่นดินสำนักฝึกวิชามีชื่อหลายที่ต่างส่งบุคคลที่มีความสามารถชั้นสูงลงสมัครมากมายสอเป็นเพียงหนึ่งเดียวที่มาจากกรมทหาร แน่นอน สอถูกเพ่งเล็งจากทุกคน
“อะไรว่ะ กรมทหารส่งมาแค่คนเดียวกระจอกว่ะ” เหมือนเป็นการกระซิบที่จงใจให้สอได้ยิน
“ใจเย็นนะค่ะพี่สอ”กล้วยไม้จับมือสอแน่น บ่งบอกว่าวันนี้สอไม่ได้มาคนเดียว สอยังมีกล้วยไม้อีก และก็
“ไอ้สอ...” เสียงตะโกนดังมาจากข้างหลังสอหันไปตามทางเสียง
“ไอ้หิน มึงลงด้วยหรอว่ะ”สอพูดด้วยความตกใจเล็กน้อย
“ถ้าน้องกุไม่มาขอ กุไม่มาหรอกนะ”สอหันมามองกล้วยไม้ แล้วก็ส่งยิ้มให้
“มึงอย่าคิดมาก กุก็เพื่อนมึงเหมือนกันเพื่อนกุมาลง กุจะลงก็อะไรอยู่ ถูกมั้ย”
“เออ ไอ้สัส ขอบใจว่ะ”
“ตอนนี้ ขอให้คนที่จะมาลงสมัครเท่านั้นอยู่บริเวณนี้ญาติและครอบครัวของผู้สมัครไม่อนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่ จนกว่าจะมีเสียงปืนดังอีกครั้ง”ภาคีกล่าวจากบนเวที ภาคีก็เริ่มเล่นเกมส์ของตัวเองเหมือนกัน
“หนูฝากพี่สอด้วยนะค่ะ”กล้วยไม้อ้อนว้อนพี่ชายของตนขณะที่มือยังจับมือของสออยู่
“ออ กุรู้แหละ” หินตอบสอย่อเข้าอีกครั้ง จ้องตาไปที่ตาของกล้วยไม้
“ขอบคุณทุกอย่างนะค่ะและเดี๋ยวพี่จะกลับไปหานะ รอพี่ที่บ้านของไอ้สอนะ พักผ่อนได้แหละค่ะ ขอบคุณนะค่ะ”สอลูบหัวกล้วยไม้ด้วยความทะนุถนอม กล้วยไม้มีเสียอาการเล็กน้อยและมีน้ำตาไหลออกมาด้วยความเสียใจและยินดี
“ค่ะ หนูจะรอนะ”กล้วยไม้รับปากและเดินออกจากบริเวณนั้น
“กุต้องชนะ” สอกล่าวกับตัวเอง
“ออ พวกกุก็ขอให้มึงโชคดี ไอ้สอ”ไม่ใช่เสียงของหิน
“มึงพูดอะไรไอ้หิน” สอสงสัย
“กุปล่าวพูด” หินตอบ
“พวกกุเอง มึงจะทำไม” 1ในชายกลุ่มหนึ่งพูดออกมาซึ่งทั้งหมดมีรอยสีกพระจันทร์อยู่ที่โหนกแก้มซ้ายทุกคนสอและหินมองกลุ่มนั้นด้วยความจะเอาเรื่องเหมือนกัน
“เฮ้ยๆ ใจเย็นๆ กุมาดี”ชายอีกคนในกลุ่มนั้นพูด
“ไอ้นี่ชื่อหนึ่ง”ชายรูปอ้วนแต่กล้ามเนื้อหนักแน่นยกมือขึ้น
“ไอ้ห่านี่ ไอ้ปากจัดชื่อไอ้สอง”ชายผอมผอมกะหล่อง ยักคิ้วขึ้น
“กุชื่อสาม ท่านดุสิตาสั่งให้พวกกุมาดูแลมึงฝากตัวด้วยแหละกัน”ชายที่รูปร่างน่าจะสมส่วนที่สุดแนะนำตัวและยกมือขึ้นให้เพื่อจับมือ
“ตาหรอ ตาจริงๆหรอ”สอพูดออกมาอย่างตกใจ ทั้ง2จับมือกัน
“ใช่ ท่านตา ฝากมา” สองพูดซ้ำ
“กุสอ ไอ้คนนี้ไอ้หิน”สอแนะนำตัวเองและหิน ทั้งหมดทักทายหินโดยการยกมือ
“ไอ้สอ มึงคิดว่าไงว่ะ” หินกระซิบถามสอ
“กุก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“กุพวกมึงไอ้สัส พวกกุเคารพเจ้าในวังเหนือหัวพวกกุเลยกุก็ลูกหลานนมให้วังนั้นแหละ ไว้ใจพวกกุได้”
“กล่าวทักทายผู้สมัครทุกคนก่อนที่จะเริ่มไตรมรณะ ผม ขุนนางภาคี ขุนนางชั้นในของกษัตริย์ลานุมีบางอย่างที่จะอธิบายเพิ่มเติมก่อนที่ กษัตริย์ลานุกับท่านหญิงดุสิตาจะเสด็จมาในอีกช้าไตรมรณะครั้งนี้ จะพิเศษกว่าครั้งไหนๆ เพราะมันจะหนักกว่าไตรมรณะครั้งก่อนๆอีกหลายเท่าขอเตรียมตัวและใจให้ดี และขอย้ำว่า คนนอก ญาติและครอบครัว ห้ามเข้าพื้นที่จนกว่าจะมีเสียงปืนดัง ขอให้เข้าใจตรงกันนะคับ ทุกคนเตรียมถวายความเคารพ กษัตริย์ลานุกับท่านหญิงดุสิตาทั้งหมด นิ่ง” ภาคีก้าวลงจากเวที มอบเวทีให้ลานุและดุสิตา ที่ทั้งสองแต่งตัวเต็มยศเป็นครั้งแรกในรอบ2ปีที่สอเห็นดุสิตาอีกครั้ง
“ตา” สอพึมพำกับตัวเอง
“ให้ความเคารพท่านตาด้วยไอ้สอ”หนึ่งเตือน
“สอ” ดุสิตาพึมพำกับตัวเองแน่นอนลานุก็เห็นสอและได้ยินคำพูดของดุสิตา
“เราขอให้ทุกคนโชคดีคนที่ผ่านไตรมรณะจะมาอยู่กับเรา ในฐานะทหารข้างตัวของเราและท่านหญิงดุสิตาเราอยากได้คนที่เหมาะสมจริงๆ กับทั้งท่านดุสิตาและตัวเรา ดังนั้น ด่านแรกคือยืนอยู่ตรงนี้ อย่างไงก็ได้ในเท้าแตะพื้นตลอดเวลา ใครทำไม่ได้ คือไม่ผ่านด่านแรกขอให้โชคดี” ลานุมอบด่านแรกแล้วเดินลงจากเวที เว้นแต่ดุสิตาที่ยังยืนอยู่บนเวที
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in