เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
หาเรื่องมาเล่าชุติมา
สมองตัน
  • ปกติในวันหยุดจะมีแรงอยากเขียนนู้นเขียนนี่แต่ วันนี้สมองตันมากคิดไม่ออกว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี เคยคิดว่าการเขียนเป็นเรื่องง่าย พอมาถึงจุดๆนึงมันไม่ง่ายเลยนะ ยิ่งคนเขียนหนังสือได้เป็นเล่มๆ เค้าทำได้ยัง แล้วเนื้อหาไม่น่าเบื่อและไม่วกไปวนมา สมัยนี้ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ แต่พอคิดถึงคนสมัยก่อนที่ยังต้อง เขียนด้วยการเขียนไม่ใช่การพิมง่ายๆแบบสมัยนี้ คือมันน่าทึ้งมากสำหรับเรา เรามองไปถึงสิ่งเร้าต่างๆ แต่ก่อนยังไม่มีอะไรดึงดูดความสนใจเรามากนักเมื่อเทียบกับตอนนี้ ที่มีทั้งทีวี อินเตอร์เน็ต สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ คือเรียกได้ว่าทุกอย่างมันง่ายดายไปหมด 

    เราคิดว่าสิ่งพวกนี้ทำให้ความสนใจของคนเปลี่ยนไปได้ง่ายและรวดเร็ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่ได้มีกิจกรรมอะไรมากมายให้ทำเวลาว่าง การเขียนเลยเป็นหนึ่งในกิจกรรมยามว่างที่น่าสนใจและน่าหลงไหล ถ้าคนชอบเขียนนิยายหรือเรื่องที่แต่งขึ้นต่างๆคงเหมือนได้หยอกล้อกับจินตนาการชองตัวเอง ส่วนคนที่ชอบเขียนบันทึกและการเขียนเปรียบความรู้สึกกับสิ่งต่างๆก็เหมือนได้นั่งจับเข่าคุยกับความรู้สึกเหล่านั้น เราคิดว่าเค้าก็คงมีช่วงจังหวะที่เขียนไม่ออกหรือสมองตันบ้างแหละ แต่ด้วยความที่สิ่งเร้ามันน้อยกว่ามาก มันเลยดึงสติกลับมาได้ไวกว่า ง่ายๆเลย เราคิดถึงตัวเองเวลาเบื่อหรือไม่รู้จะทำอะไรดี ก็เริ่มละ จากแอปนี้ไปแอปนู้นวนอยู่แบบนั้น ละพอรู้ตัวอีกทีคือเสียดายเวลามากๆ และเหมือนสมาธิในการโฟกัสสิ่งต่างๆมันสั้นลงมาก และทำให้ความอดทนสั้นลงด้วย อย่างเช่น ถ้าเริ่มเขียนละคิดไม่ออกเริ่มไม่สร้างสรรค์ ก็เอาไปเข้าแอปต่างๆ โดยหลอกตัวเองว่ามันคือการพักสมองหรือไม่ก็มันคือการหาความคิดสรา้งสรรค์ แทนที่จะออกไปเดินให้สมองมันโปร่งหรือหาอะไรทำที่มันมีประโยชน์ต่อตัวเอง พักหลังๆเลยเริ่มสังเกตตัวเองว่าถ้าวันไหนตื่นมาแล้วไม่เล่นมือถือ ตื่นมาแล้วขยับร่างกายออกกำลังกายสักหน่อยก่อนอาบน้ำกินกาแฟ คือพยายามเลี่ยงที่จะจับมือถือขึ้นมาเช็คแอปต่างๆที่ไม่รู้ว่าจะเช็คไปเพื่ออะไรนั้น สมองมันโล่งมาก และสามารถเขียนอะไรต่างๆได้เยอะเลย ถึงจะไม่ได้เขียนออกมาแบบว้าว แต่รู้เลยว่าสมองมันแล่นได้แบบไหลลื่นคือความคิดต่างๆมันได้ทำงานอย่างเต็มที่ และอารมณ์ดี บวกกับพยายามตั้งเป้าหมายให้ตัวเองทุกวันว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง 

    เพราะตอนนี้รู้เลยว่าความขี้เกียจกำลังครอบงำเราอยู่ไม่ใช่แค่ร่างกายมันยังควบคุมสมองเราด้วย ทุกวันนี้เลยพยายามไม่จับมือถือในตอนช่วงเช้าจับอีกทีคือตอนเที่ยง แต่ก็นะคนเราบางทีฝ่ายขี้เกียจก็ชนะ เช่นวันนี้ที่เขียนอะไรไม่ค่อยออกเพราะตอนเช้าตื่นมาละเผลอไปตอบแชทเพื่อนและมันไม่ได้จบแค่นั้นตอบเสร็จเข้าแอปนั้นต่อด้วยแอปนี้ กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านไปสามสิบนาที เลยทำโทษตัวเองด้วยการไปเดินออกกำลังตอนเช้า และเขียนเป้าหมายของวันนี้
    ฝึกภาษา
    อ่านหนังสือ
    ศึกษาหุ้นปันผล
    ออกกำลังกาย  

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in