โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไรคะ? เป็นคำถามที่ได้ยินบ่อยมาก ตอนเด็กๆ และตอนนั้นเชื่อว่าทุกคนตอบได้แบบรวดเร็ว และคำตอบมักจะเป็นอาชีพใกล้ตัวเราในตอนนั้นที่เด็กคนนึงจะมองว่ามันเท่ห์มาก ก็เท่านั้นเลย และยิ่งเติบโตยิ่งรู้ว่าโลกมันกว้างขึ้นแค่ไหน พอยิ่งโตขึ้นรู้จักโลกมากขึ้น ความฝันมันก็กว้างขึ้นเรื่อยๆ พอมองย้อนกลับมาที่ตัวเราเอง เอาจริงๆตอนเด็กๆเราไม่ได้มีความฝันเฉพาะเจาะจงอะไร เวลามีใครถามเราก็ตอบส่งๆไป ให้รู้ว่า เราก็มีฝันนะ แต่ที่จริงมันไม่ได้เป็นความฝันที่อยากทำให้สำเร็จจริงจังอะไร และมันก็มีช่วงสับสนในชีวิต ว่าแบบ เราไม่มีฝันจริงๆหรอว่ะ มันต้องมีสักอาชีพที่เราอยากจะเป็น หรือต้องมีอะไรสักอย่างที่เรามีความสุขเวลาได้ทำมัน ในเวลาเดียวกัน เราก็พยายามค้นหาตัวเอง พยายามถามว่าตัวเองชอบอะไร อยากใช้ชีวิตแบบไหน
บางช่วงก็มีคำตอบให้ตัวเองบางช่วงก็มีแต่ความว่างเปล่า และก็มีช่วงที่รู้สึกแย่กับตัวเอง เพราะมาถึงจุดนึงรู้สึกว่า ตัวเองใช้ชีวิต"ล่องลอย"จัง ไม่มีจุดมุ่งหมาย เลยพยายามตั้งสติ และไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น แต่ก็ใช้เวลาอยู่นานพอสมควร เพราะเอาจริงมันเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยที่จะไม่เอาความสำเร็จของคนอื่นมากดดันตัวเอง ลองโฟกัสที่แค่ตัวเราเอง แล้วฟังเสียงหัวใจตัวเองว่าต้องการอะไร และแล้วเราก็มีคำตอบให้ตัวเอง เราเป็นคนฝันไม่ใหญ่ เอาจริงไม่รู้ว่าจะเรียกว่า ความฝันได้ไหมด้วยซ้ำเพราะ มันดูไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไร ความฝันของเรามันไม่ได้เกี่ยวกับอาชีพที่เราจะทำ ความฝันของเรามันกลับเป็นการได้ออกไปใช้ชีวิต ได้ไปเผชิญโลกกว้าง และมีความสุขในทุกๆวันที่ได้ตื่นขึ้นมาใช้ชีวิต ง่ายๆแค่นั้นเลยจริงๆ
การที่ได้ใช้เวลาทบทวนตัวเองทำให้ได้รู้ว่า เราไม่ควรเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร ในเวลาเดียวกันเราก็ไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินความฝันของคนอื่นและไม่มีใครมีสิทธิ์มาตัดสินความฝันหรือเป้าหมายของเราเช่นกัน ว่าดีหรือไม่ดี ทุกคนมีเหตุผลและเป้าหมายเป็นของตัวเอง เพราะถ้าการที่เรามีเป้าหมายหรือมีฝันที่ไม่เหมือนกัน มันเป็นเรื่องที่ผิด ทั้งโลกทุกคนก็คงเหมือนกันไปหมด แล้วโลกนี้จะน่าค้นหาได้ยังไง ถ้าขาดความสวยงามของคำว่า ความแตกต่าง :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in