Title: Fight
Theme: Fictober
Author: icypumpkin
เย็นนี้ที่เก่าเวลาเดิม
จัดชุดใหญ่เลยนะ
ปาร์คจีซองยกโทรศัพท์ขึ้นอ่านข้อความก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋าอย่างเคย ดวงตารีเรียวหันมองเพื่อนร่วมกลุ่มที่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กันก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาและพยักหน้ารู้ถึงความหมายของข้อความนั้น
"มันจะมีเรื่องอะไรกันทุกวันวะ" จงเฉินเล่อเพื่อนชาวจีนที่นั่งข้างเขาเอ่ยทักขึ้น
"ไม่รู้เหมือนกัน" เขาตอบกลับ หมุนปากกาในมือเล่นไปมา
"แต่ก็ไปตีกับเขาได้ทุกวัน"
"นายก็เหมือนกันนั่นแหละ" เขาสวนกลับก่อนเฉินเล่อจะหัวเราะจนตาหยีและหันกลับไปตั้งใจเรียนต่อเมื่ออาจารย์จ้องมองมา
ก็ไม่ต่างจากเด็กมัธยมปลายทั่วไป โรงเรียนชายล้วนสองแห่งตั้งอยู่ตรงข้ามห่างเพียงถนนกั้น ไม่ว่าจะเป็นเพราะเลือดแห่งสถาบันมันค้ำคอหรือศักดิ์ศรีที่ไม่อาจยอมแพ้ หรืออีกอย่างก็แค่รุ่นพี่ต่างปลูกฝังว่าโรงเรียนตรงข้ามมันชอบหาเรื่อง จึงทำให้ใม่ว่าจะกี่ปีต่อกี่ปี เด็กสองสถาบันจึงมีเรื่องกันอยู่เรื่อยมา
"จีซองพร้อมยัง" ลูคัสหว่องตะโกนข้ามโต๊ะมาทันทีที่ออดสัญญาณบอกเวลาเลิกเรียน
"ลูคัสหว่อง ครูยังไม่ออกจากห้องเรียนเลยนะ" เสียงกำราบของอาจารย์ทำให้ทั้งห้องหลุดยิ้ม
"ขอโทษครับอาจารย์ พอดีพวกผมมีนัดต่อครับ" ลูคัสกล่าวพลางหัวเราะร่า เจ้าของชื่อที่ถูกพาดพิงหันไปมองโต๊ะว่างเปล่าของลูคัสแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้ อะไรมันจะพร้อมไปตีกับชาวบ้านเขาขนาดนั้น
"ไม่ใช่นัดไปตีกับใคร"
"โถ่อาจารย์ จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงกันครับ พวกผมเข็ดกันหมดแล้ว ไม่กล้าไปตีกับใครที่ไหนหรอก" รีบสวนทั้งๆ ที่อาจารย์ยังพูดไม่ทันจบ เรียกรอยยิ้มจากเพื่อนร่วมห้องได้เป็นแถว ใช่สิ ก็ห้องพวกเขายังโดนทัณฑ์บนอยู่เลย ขืนอาจารย์รู้ว่าจะไปมีเรื่องกันอีก ได้ไปนั่งห้องปกครองแน่
"ให้มันได้แบบที่พูดแล้วกัน เอาๆๆ วันนี้จบคลาสแค่นี้ แยกย้าย อย่าลืมทบทวนบทเรียนและทำการบ้านมาส่งด้วยนะครับ คาบหน้าครูมีควิซเก็บคะแนนนะ" เสียงโห่ร้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงเลื่อนเก้าอี้ของนักเรียนที่ทยอยลุกจากที่นั่งจับกันเป็นกลุ่ม
"ลูคัสจะพร้อมไปตีกับคนอื่นอะไรขนาดนั้น" จีซองส่ายหัวน้อยๆ ให้กับท่าทีดูสนุกสนานของเพื่อนร่วมห้อง
"เออ ตะโกนเรียกชื่อหัวหน้าแกงค์ซะเสียงดังเลย กลัวไม่รู้ว่าเป็นมือซ้าย" เขายกหนังสือขึ้นเขกหัวเฉินเล่อจนอีกฝ่ายร้องโอดโอย
"ไม่ใช่หัวหน้าแกงค์ คิดกันไปเอง บอกไม่รู้กี่ทีแล้ว" ทุกวันนี้ยังงงอยู่เลยด้วยซ้ำ ว่าคนอย่างปาร์คจีซองไปเป็นหัวหน้าใครได้ยังไงกัน แต่เพื่อนทุกคนก็ฟังเขากันทั้งนั้น
"วีรกรรมบุกเดี่ยวไปช่วยเพื่อนโดนรุมนั่นไง ใครๆ ก็ยกย่องนายกันทั้งนั้น เห็นแบบนี้ร้ายใช่ย่อย" จีซองกลอกตาเมื่อย้อนนึกถึงเรื่องราวในครั้งนั้น เรื่องราวที่เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์หลายๆ อย่างที่เชื่อมโยงมาถึงปัจจุบัน มันก็จริงตามที่ทุกคนเล่าแค่ไม่ทั้งหมดก็เท่านั้น ถึงได้บอกไงว่าคิดกันไปเอง
"ไปกันเหอะจีซอง วันนี้ฉัดจะอัดพวกมันให้เละเลย" เป็นเฉินเล่อที่หัวเราะกับคำพูดนั้น ตัวเขาเพียงแค่ลุกขึ้นยืนก่อนจะตบไหล่เพื่อนตัวสูง ยกกระเป๋าพาดบ่าและเดินออกจากห้องไป
ต่อให้โรงเรียนทั้งสองแห่งจะห่างกันแค่ถนนกั้น แต่เพราะมันอยู่ในสายตาของครูและบุคคลที่เกี่ยวข้องมากเกินไป โดยปกติจึงจะนัดเจอกันที่สนามหญ้าห่างจากหลังโรงเรียนไปประมาณสี่บล็อค ไม่ใกล้ไม่ไกลจนเกินไป
วันนี้พวกเขามาสาย เพราะพอมาถึงก็เจอชุดโรงเรียนสีแดงเด่นเป็นสง่ายืนกันอยู่ให้พรึ่บ โดยเฉพาะไอ้หน้ากวนประสาทที่ยืนยิ้มอยู่ตรงกลางพร้อมกับปรบมือต้อนรับพวกเขาที่มาทีหลัง
"โอ้ คิดว่าจะกลัวจนหัวหดไม่กล้ามากันซะแล้วนะเนี่ย โผล่มาซะสายเชียว อย่างว่าแหละเนอะ การรักษาเวลาคงยากเกินไปสำหรับคนอย่างพวกคุณ" ผมสีชมพูนั่นมันน่าดึงมาให้ติดมือซะจริงๆ
"หยุดเห่าสักทีเถอะนาแจมิน" เป็นลูคัสที่ตะโกนขัดคอจังหวะหัวเราะของโรงเรียนฝั่งนู้น
"อย่าไปว่าเขาเลยน่ะลูคัส พวกคนไม่มีอะไรทำ วันๆ คิดแต่จะหาเรื่องคนไม่สนใจเรื่องเรียนก็มาไวแบบนี้แหละ ไม่เหมือนพวกเราที่เห็นการเรียนมาก่อน" ปาร์คจีซองยกมือขึ้นขยี้ผม จงใจยักคิ้วและมองตาคู่อริกล่าวตอบกลับไป
"ปากดีให้มันได้ตลอดแล้วกันปาร์คจีซอง"
สิ้นสุดคำพูด นาแจมินยกนิ้วชี้ขึ้นสะบัดมาในทางพวกเขา ชายหนุ่มหลายสิบชีวิตก็พากันวิ่งกรูเข้าหากันโดยไม่ได้นัดหมาย
ปาร์คจีซองมองหน้าเจ้าของเรือนผมสีชมพูที่ยังไม่ยอมละสายตาไปไหนพลางวิ่งเข้าหาอีกฝ่ายแต่กลับโดนชายตัวสูงกว่ามาขวางทางไว้ มือเรียวยกขึ้นกำบังหมัดที่ถูกปล่อยออกมาก่อนจะสวนเข้าที่ชายโครงแทนและกระแทกเข่าซ้ำจนคู่กรณีลงไปนอนงอตัวกับพื้น ขณะกำลังจะก้าวเท้าต่อกลับรู้สึกถึงแรงลมและความเจ็บปวดชาแล่นตรงใบหน้าด้านขวา เพราะไม่ทันระวังจึงได้แผลเข้าที่หางคิ้ว
จังหวะที่เขาจะหันไปสวนกลับ กลับพบว่าชายคนนั้นล้มลงไปนอนกับพื้นเสียแล้วพร้อมมือที่มาจับไว้แน่นก่อนจะพาวิ่งออกไปจากความอลหม่านนั้น
เราวิ่งอ้อมจากอาณาเขตบริเวณนั้นมาไกลพอสมควร จนหยุดลงที่ทางแคบระหว่างสองตึก เสียงหอบหายใจดังก้องไปทั่วซอยแคบ
"เจ็บไหม" เป็นแจมินที่ถามขึ้นก่อนจะเช็ดเลือดที่ไหลจนเกือบเปื้อนตา
"บอกไม่เจ็บก็โกหกแล้ว"
"ขอโทษที ห้ามไม่ทัน ติดอยู่เหมือนกัน" เห็นต่อหน้าต่อตาเลยด้วยซ้ำในยามที่กำปั้นนั่นซัดลงไปบนใบหน้า ตอนที่เลือดไหลออกจากหางคิ้วของปาร์คจีซอง โมโหจนต่อยโรงเรียนคู่อริคว่ำก่อนจะเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ลงไปนอนจูบพื้นเป็นรายต่อไป หวังว่าตอนตื่นขึ้นมาจะจำอะไรไม่ได้ ไม่งั้นเขาคงจะบอกขอโทษอีกฝ่ายไปว่าตาลายมองผิดก็แล้วกัน
"ไม่เป็นไร เหตุการณ์แบบนี้ยังไงก็ต้องได้แผลอยู่แล้ว โอ๊ะ! วันนี้หน้าตาหล่อดี ไร้รอยแผล" เขากล่าวพลางจับใบหน้าของอีกฝ่ายพลิกไปมาเรียกรอยยิ้มจากคนตรงหน้าได้ไม่ยาก เบื่อหน้าบึ้งๆ แล้ว ทุกครั้งที่เขาได้แผล คนตรงหน้าก็เป็นแบบนี้ทุกที ทั้งๆ ที่น่าจะชินแล้วแท้ๆ
"เปลี่ยนเรื่องเก่ง"
"รู้ว่าห่วงแต่ไม่เป็นไรก็คือไม่เป็นไร แผลแค่นี้เอง" เจ็บกว่านี้ก็เคยมาแล้ว สงสัยเหมือนกันว่าไอ้เหตุการณ์บ้าๆ นี่มันจะจบลงตอนไหน อาจจะเมื่อพวกเขาเรียนจบล่ะมั้ง
"เฮ้อ... พูดตรงๆ นะจีซอง เห็นกี่ทีก็เลือดขึ้นหน้า" เป็นคนฟังที่หัวเราะให้กับคำพูดนั้น ขยับเท้าเดินเข้าใกล้คนขี้กังวลเกินเหตุมากอีกนิด
ใกล้จนดวงตาจ้องประสานกับดวงตาคมที่ดูลึกเหมือนมหาสมุทรนั่น
ใกล้จนถูปลายจมูกไปมาจนริมฝีปากนั่นเผยรอยยิ้ม
ขยับเข้าใกล้จนริมฝีปากของเราทาบทับจนไร้ช่องว่าง มือร้อนขยับขึ้นจับท้ายทอยเพื่อปรับองศาให้รับจูบได้ถนัดยิ่งขึ้น มืออีกข้างคว้าเอวคนตรงหน้าให้แนบชิด จีซองปะป่ายไปตามท่อนแขนแข็งแรงก่อนจะโอบรอบคออีกคนไว้ ถอนริมฝีปากออกแต่ใบหน้ายังไม่ละห่างไปไกล
"ท่านหัวหน้าไม่เดือดบ่อยนะ" เสียงใสกล่าวและกดจูบลงบนริมฝีปากของอีกคน
"เพราะหัวหน้าฝั่งนี้ไม่เจ็บอะไรขนาดนั้นหรอก" และอีกครั้งซ้ำย้ำลงที่เดิม จนคนฟังแค่นหัวเราะออกมา
"ตัวแสบ ยั่วเก่งนัก คิดว่าอยู่ตรงนี้แล้วไม่กล้าหรือไง" จีซองยิ้มแผล่เผยให้เห็นฟันขาว
"ไม่กล้าแล้วครับ"
ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ประหลาดพอสมควร จะไปเดินเที่ยวด้วยกันใกล้โรงเรียนก็ไม่ได้เพราะเดี๋ยวมีคนมาเห็นว่าหัวโจกของกลุ่มที่ตีกันบ่อยๆ มาเดินด้วยกัน จึงต้องคอยหาสถานที่ไปเที่ยวที่ไม่ค่อยมีใครไป พอเจอหน้ากันระหว่างวันก็ต้องแสร้งทำเป็นไม่ถูกกันเหมือนเกลียดกัน
ถ้าถามว่าจุดเริ่มต้นมันคือตอนไหน ก็ตอนสิบรุมหนึ่งที่เขาเข้าไปช่วยเพื่อนนั่นแหละ ตอนแรกปาร์คจีซองก็ตั้งมั่นจะฆ่าให้ตายมันทุกตัว แต่พอไปถึงจริงๆ ขณะกำลังตะลุมบอนกันอยู่ นาแจมินกลับเข้ามาสั่งให้คนฝั่งนั้นหยุด ปล่อยตัวเขาและเพื่อนที่ไร้สติกลับไป ในตอนที่ไปส่งเพื่อนที่คลินิคและกำลังกลับบ้าน กลับรู้สึกเหมือนใครสักคนเดินตาม พอหันกลับไปก็พบคนๆ เดิมยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมยื่นข้อเสนอให้ลองคุยกันดู
นั่นคือจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของเรา รวมถึงการเป็นหัวหน้าแกงค์ของปาร์คจีซอง เพราะเพื่อนที่ไร้สติฟื้นขึ้นมาเล่าว่าก่อนตัวเองจะหมดสติไป สถานการณ์สิบรุมหนึ่งแต่จีซองพาหนีรอดออกมาได้
"วันนี้กินไรดี หิวแล้ว"
"กินปาร์คจีซองก่อนได้ไหม" คนฟังแสร้งทำตาโตจนคนมองอดไม่ไหวกดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มนั่นอีกครั้ง ขบเม้มและดูดดึงก่อนจะสอดลิ้นร้อนเข้าไปกวาดต้อนในโพรงปาก ไล่ต้อนลิ้นชื้นเสียจนคนในอ้อมกอดหลอมละลายเป็นขี้ผึ้ง หากในจังหวะกำลังจะถอนริมฝีปากออก ใบหน้าคมกลับโดนจับกลับเข้าไปใหม่
"โอ๊ย" ริมฝีปากถูกกัดจนแตกเลือดไหลก่อนเจ้าตัวแสบที่แจมินเรียกจะหัวเราะร่า
"ท่านหัวหน้าจะไม่มีแผลกลับไปได้ไงกัน เพื่อนร่วมห้องสงสัยแย่เลยนะ" อยากจับมาฟัดเสียให้เข็ดแต่ก็เพราะรอยยิ้มสว่างสดใสนั่นเลยจะยอมปล่อยไปก่อนหรอกนะ
END
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in