เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
movies2501p :)
Thor : Love and Thunder (2022)
  • ด้วยรักและอัสนี


    ต้องบอกก่อนเลยว่าธอร์ภาคนี้เป็นภาคที่เรามีทั้งส่วนที่เราค่อนข้างชอบและไม่ชอบอยู่ค่อนข้างมาก

    มาเริ่มจากส่วนที่ชอบกันก่อนเลย ด้วยความที่ผู้กำกับของหนังเรื่องนี้คือ ไทก้า ไวทีที สิ่งที่เราคาดหวังแล้วไม่มีทางผิดหวังเลยคือมุกตลกโบ๊ะบ๊ะในเรื่องที่ใส่มาแบบจัดหนักจัดเต็ม เต็มอิ่มสมการรอคอยของภาคต่อเทพเจ้าสายฟ้าอย่างธอร์ หลักจากที่ในภาคที่แล้ว ไทก้า ได้เปลี่ยนโทนเรื่องของธอร์จากหนังแนวที่ค่อยข้างซีเรียสจริงจังมาเป็นหลังแนวแอ็คชั่นคอเมดี้ได้อย่างลงตัว

    สำหรับตัวละครของธอร์นั้น เค้าคือคนที่ผ่านการสูญเสียมาอย่างมากมาย ถึงการแสดงออกจากภายนอกจะออกไปทางแนวตลกโปกฮา เหมือนจะไม่จริงจังกับชีวิต แต่ภายในจิตใจธอร์นั้นกลับเต็มไปด้วยบาดแผลและการสูญเสียเริ่มตั้งแต่เสียแม่ เสียพ่อ เสียค้อน เสียเพื่อนสนิท เสียน้องชาย เสียชาวเมือง สูญเสียแม้กระทั่งแอสการ์ด ในธอร์ภาคนี้เราจึงคาดหวังการสำรวจลึกลงไปในจิตใจของธอร์ แต่เรากลับไม่ได้เห็นพาร์ทนี้มากเท่าที่ควร เหมือนหนังแค่เล่ามาสั้น ๆ ว่าธอร์สามารถก้าวผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาได้แล้ว ธอร์สามารถมูฟออนได้แล้วนะ แค่นั้นเลย

    มาพูดถึง คริสเตียน เบล ในหนังเรื่องนี้กันบ้าง ต้องบอกเลยว่าการแสดงของ คริสเตียน เบล ยังเฉียบขาดเหมือนเดิม แต่เป็นเพราะหนังเรื่องนี้มันเล่าค่อนข้างเร็ว จนไม่ได้ให้เวลากับตัวละครและความสัมพันธ์มากเท่าที่ควร ทำให้ตัวละคร กอร์ ที่เราคิดว่าเป็นวารร้ายที่น่าสนใจ ดูมีมิติ และปูเรื่องมาได้ค่อนข้างดี แต่พอระหว่างทางหนังมันไม่ได้ให้พื้นที่กับตัวละครนี้เท่าไหร่ พอถึงบทสรุปเราเลยไม่ได้รู้สึกอินไปกับตัวละครนี้เท่าที่มันควรจะเป็น

    อีกตัวละครนึงที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ไมตี้ธอร์ หรือ เจน ฟอสเตอร์ จะบอกว่าในภาคนี้คุณนาตาลีของเราสวยมากกกกกก เป็นไมตี้ธอร์ที่ดูทรงพลังและมีสเน่ห์มาก เท่จนเกือบจะแย่งซีนธอร์ได้เลย เราว่าหนังพูดถึงปมปัญหาของเจนได้ค่อนข้างดีนะ เราค่อนข้างที่จะชอบในส่วนนี้เลย ปมความสัมพันธ์ของธอกับเจนก็น่ารักสมชื่อเรื่องเลย แบบธอร์ภาคนี้มันคือหนังรักกก 55555 

    โดยส่วนตัวสิ่งที่เราค่อนข้างไม่ชอบในหนังเรื่องนี้คือความคอเมดี้ที่อาจจะมากเกินพอดีไปหน่อย ไม่ใช่ว่าพอเค้าเล่าแบบคอเมดี้แล้วมันไม่ดีนะ แต่เราว่าเค้าค่อนข้างให้น้ำหนักกับคอเมดี้มากกว่าดราม่า มันเลยดูเป็นส่วนผสมที่มีความขาด ๆ เกิน ๆ ไปหน่อยในความคิดของเรา ส่วนที่ควรจะจริงจังพอมีมุกตลกเข้ามาแทรกมันเลยทำให้อารมณ์ที่ควรจะอินมากกว่านี้มันดันไปไม่สุดทาง 

    สรุป ธอร์ภาคนี้คือหนังสูตรสำเร็จมาเวลอีกเรื่องหนึ่งที่มอบความบันเทิงให้เราได้อย่างเต็มที่ เป็นหนังที่ดูง่าย ดูเพลินดูสนุกแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก หนังเรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอนในแง่งานภาพ วิชวลเอ็ฟเฟค สกอร์ คุณภาพมาตรฐานมาเวล ถึงจะเป็นหนังที่เล่าง่ายเกินไปหน่อย และอาจจะไม่กลมกล่อมเท่าที่ควร แต่หนังเรื่องนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวของมันเอง
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in