Fujin Street เป็นหนึ่งในย่านที่เหมาะจะมาเดินเล่นและจิบกาแฟ  หรือจะมา Cafe Hopping ก็ว่าได้  วิธีการเดินทางก็ไม่ยากเลย  ลง MRT สายสีน้ำตาล สถานี Songshan Airport  แล้วเดินไปเรื่อย ๆ  

ตอนไปถึงสถานีรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา  สัญชาตญาณบอกให้ไปเข้าห้องน้ำในสนามบิน  และก็ไม่ผิดหวัง  เพราะห้องน้ำดีมากกกกก  ดีกว่าสนามบิน Taoyuan อีก  นอกจากจะเป็นส้วมอัตโนมัติแล้ว  ก๊อกน้ำยังเป็นก๊อ dyson ที่มีเครื่องเป่ามือในตัวและแห้งไวมาก

แค่เนี้ยก็ประทับใจมาก

ห้องน้ำดี  ชีวิตดี  เคยได้ยินไหม

ระหว่างทางเราก็ไม่เจอใครเลย  ย่านนั้นเงียบไม่แพ้ย่านอื่น ๆ ที่เราเดินเล่นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา

พอเห็นตึกแบบที่เคยเห็นจากรูปคนอื่นเลยคิดว่าน่าจะใช่แหละ  เราน่าจะมาถึงแล้ว  เลยเดินไปตามถนนเรื่อย ๆ เห็นดอกไม้ริมทางสวยดีก็ถ่ายเก็บไว้ดูเล่น

บ้านเรือนที่ดูเหมือนจะเป็นตึกแถวสีสวยดี  แอบคิดในใจว่าถ้าได้ใช้ Tudor color xlx 200 ถ่ายน่าจะสวยกว่านี้  

เราเดินมาจนถึงร้านที่คิดว่าน่าจะเป็นร้าน Fuji Tree 353 Cafe แล้วเปลี่ยนใจ  เกิดไม่อยากเข้าขึ้นมา  เลยเดินต่อไปอีกร้านที่อยู่ไม่ไกลจากนี้

ร้านค้าย่านนั้นตกแต่งสวย ๆ ทุกร้านเลย  แต่ดูแล้วไม่ได้คึกคักเท่า Zhongxiao Dunhua ที่ดูเป็นแหล่งช้อปปิ้งเต็มตัว  ทำให้พลอยคิดไปว่าย่านนี้ดูเป็นย่านที่พักอาศัยที่บังเอิญมีร้านค้าสวย ๆ เสียมากกว่า

เราเดินไม่นานก็ถึง All Day Roasting Company  ตัวร้านค่อนข้างขวา  มีหลังคาใส ๆ ให้แสงธรรมชาติเข้ามา  ทำให้เป็นมิตรกับชาวฟิล์มอย่างเรามาก  แต่วันนี้ฟ้าปิดเลยคิดว่าน่าเสียดายนิดหน่อย  เราเลือกสั่งมอคคาร้อนกับบราวนี่  ตอนเห็นราคาก็คิดในใจว่าราคาสูงกว่าทุกร้านที่กินมาเลยนะ  แต่พอดูขนาดแก้วแล้วก็รู้สึกว่า...  นี่แก้วหรือขัน  และทำมาให้กินคนเดียวแน่เหรอ

สุดท้ายก็กินไม่หมดล่ะ  พนักงานคนที่มารับออเดอร์บริการดีมาก  แนะนำทุกอย่างตั้งแต่เมล็ด  ไปจนถึงไวไฟว่าควรใช้อันไหนถึงจะดี  อันไหนมันช้า  อย่าไปใช้  ภายในร้านตรงฝั่งที่เป็นบาร์ติดกำแพงมีปลั๊กไฟด้วย  แต่เราไม่ได้นั่งตรงนั้นเพราะอยากจะเอนหลังสบาย ๆ

เรานั่งแช่อยู่ในร้านพักใหญ่  จนคิดว่าได้เวลากลับแล้วมั้ง  สายการบินส่งอีเมลมาบอกว่าให้เผื่อเวลามากกว่าปกติเพราะช่วงนี้เป็นช่วงตรุษจีน  คนเดินทางเยอะ  อาจจะล่าช้าได้  เราเลยออกจากร้านแล้วเดินไปขึ้นรถเมล์  เพราะจะเดินกลับไปขึ้น MRT ก็ค่อนข้างไกล  

จังหวะที่ยกกล้องจะกดชัตเตอร์ถ่ายตึก Taipei 101 ท่ามกลางกลุ่มเมฆ  รถก็มาพอดี  เลยรีบกดชัตเตอร์แล้ววิ่งขึ้นรถอย่างฉิวเฉียด

นั่งรถไปได้สักพักก็เริ่มรู้สึกว่าไฟแดงค่อนข้างเยอะ  และดูน่าจะผ่านหลายแยก  เรากลัวจะไปถึงสนามบินช้าและไม่อยากเสี่ยงตกเครื่อง  เลยตัดสินใจลงหน้าสถานี MRT Taipei Arena แล้วมุดดินต่อดีกว่า

เราไม่แน่ใจว่าวันนั้นมีงานอะไร  แต่สัปดาห์ที่แล้วมีคอนเสิร์ต Mr.Children ที่นี่  ในใจก็นึกเสียดายที่เลือกช่วงเวลาเดินทางผิด  เลยพลาดโอกาสที่จะได้ดูคอนเสิร์ต  ตอนนั้นเลยคิดในใจว่าการมาที่นี่เป็นครั้งต่อไปขอให้เป็นการมาดูคอนเสิร์ตก็แล้วกัน  

และนี่ก็เป็นภาพสุดท้ายของฟิล์มม้วนสุดท้ายที่ได้ถ่ายในทริปนี้

หลังจากนั้นก็เป็นการเดินทางไปสนามบิน  ขบวน MRT ที่เราได้ขึ้นนั้นคนค่อนข้างเยอะเลย  จนต้องยืนไปครึ่งทาง  พอเริ่มมีคนลงระหว่างทางเลยได้นั่งล่ะ  พอถึงสนามบินก็เดินไปเช็คอินที่ Row ของ EVA  ที่นี่มี self check in และโหลดกระเป๋าด้วยตัวเองได้แล้ว  แต่ยังมีพนักงานคอยให้บริการ  ตอนนั้นไม่ค่อยอยากทำอะไรเลยปล่อยให้เขาจัดการให้  ก่อนจะบอกลาไทเปไปในที่สุด

แม้จะเป็นการมาเที่ยวครั้งที่ 2 ในเมืองเดิม  แต่เราก็ยังไม่เบื่อที่นี่นะ  กลับรู้สึกว่ายังมีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่ได้ทำ  หรือมีอีกหลายร้านที่ยังไม่ได้ไป (เพราะมันหยุดตรุษจีน)  เลยทำให้คิดไปว่าถ้ามีโอกาสก็คงจะกลับมาที่นี่อีกแน่นอน

และการมาเที่ยวคนเดียวก็สนุกกว่าที่เราคิด  บางช่วงเวลาก็อาจจะลำบากหน่อย  เช่นตอนเข้าห้องน้ำแล้วต้องหอบทุกสิ่งทุกอย่างไปด้วย  หรือบางช่วงเวลาก็คิดว่าถ้ามีคนอยู่ด้วยกันกับเราก็น่าจะดีเหมือนกัน

ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้  

และหวังว่าทริปต่อไปเราจะเขียนได้จนจบโดยไม่ล้มเลิกกลางคันเสียก่อน

♥ ซอเอง ♥