อยากแปรงฟัน
นี่คือความรู้สึกแรกทันทีที่ล้อแตะพื้น ผู้คนส่วนใหญ่รีบลุกและคว้าสัมภาระของตัวเองบนที่เก็บของเหนือศีรษะ (ใช้คำทางการมาก) แต่เรายังนั่งมองและพยายามขับไล่ความง่วง เพราะคิดว่าลุกแล้วก็ยังไปไหนไม่ได้เพราะเขาต้องเคลียร์ให้บิสซิเนสคลาสไปก่อนอยู่แล้ว
บินช่วงปีใหม่จีนเลยมีวิดีโอน่ารักๆให้ดูระหว่างรอด้วย
Olympus mju ii + Agfa Vista 400
พอแถวเริ่มขยับและมีพื้นที่โล่ง เราก็จัดการลากกระเป๋าใต้ที่นั่งและหยิบเป้อีกใบที่วางไว้ด้านบนขึ้นมาสะพายประกบหน้าหลัง และสิ่งแรกที่เราทำคือเลี้ยวเข้าห้องน้ำ จัดการธุระส่วนตัว ขับถ่าย ล้างหน้า แปรงฟัน ลงครีมบำรุงสักหน่อยเพราะรู้สึกหน้าแห้ง อ่ะ... พยากรณ์อากาศวันนี้บอกจะมีแดด ก็ต้องทากันแดดเยอะๆหน่อย แล้วก็ลงคุชชัน แป้ง เอาง่าย ๆ คือแต่งหน้าต่ออย่างไม่รีบร้อน เพราคิดว่าเดี๋ยวก็ต้องไปยืนรอตรงตม.อีกนาน (ประสบการณ์ไฟลท์ดึกที่ผ่านๆมาได้สอนเราไว้) เพราะฉะนั้นเราควรจะเข้าเมืองแบบสวยใส ไม่ควรแบกหน้ามัน ๆ ไปเจอตม. จึงจัดการเขียนอายไลน์ เขียนคิ้ว ปัดแก้ม ทาลิปอีกหน่อย เออ ครบถ้วนกระบวนความ
และพอเดินมาถึงแถวตม. ก็พบว่าเราคิดถูกเพราะคิวโคตรรรรรรรรรรรรรรยาว
ได้ยินเสียงบ่นเป็นภาษาไทยเยอะแยะมากมายว่ารอนาน ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะยังเช้ามาก เคาน์เตอร์เปิดอยู่ไม่กี่ช่อง บางคนบ่นว่าน่าจะเข้าห้องน้ำก่อน สาว ๆ หลายคนเริ่มหยิบกระจกขึ้นมา เด็กน้อยร้องงอแงเพราะหิว เสียงบ่นเหล่านั้นยิ่งตอกย้ำว่าเราตัดสินใจถูกแล้วจริง ๆ
เรามองไปรอบตัว ไฟลท์นี้ดูเหมือนจะมีคนไทยเยอะกว่า 2 ปีก่อนที่เราเคยมา ตอนนั้นไต้หวันเพิ่งให้ฟรีวีซ่ากับไทย เป็นช่วงที่คนเริ่มเที่ยวไต้หวันกันมากขึ้นแต่ยังไม่เยอะเท่าตอนนี้ ผู้คนส่วนใหญ่นิยมบินกับสายการบินสีเหลืองมากกว่า และ BR206 เป็นรูทที่บินต่อไปฟุคุโอกะ ในตอนนั้นจึงมีคนญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ และแทบไม่เจอคนไทยเลย
ส่วนตอนนี้น่ะเหรอ... มั่นใจมากว่าคนไทยเกินครึ่งลำ
รัฐบาลไต้หวันจะต้องดีใจแน่นอน
เรามองไปรอบตัวอีกครั้ง ทุกคนถือใบผ่านเข้าเมือง ในใจก็คิดว่าเขาไม่ได้กรอกออนไลน์กันมาเหรอ หรือกรอกมาแล้วใช้ไม่ได้ ต้องกรอกใส่กระดาษอีกครั้ง เพราะครั้งก่อนเรามาเที่ยวไต้หวัน อ่านจากรีวิวของชาวบ้านพบว่าการเข้าเมืองของประเทศไต้หวันเราสามารถกรอกข้อมูลในเว็บไซต์มาก่อนได้เลยโดยไม่ต้องมาเสียเวลากรอกบนเครื่องหรือสนามบินอีก แม้จะมั่นใจว่ากรอกออนไลน์มาแล้ว แถมนี่ก็ไม่ใช่การมาครั้งแรกก็อดหวั่นใจไม่ได้เพราะ 90% ของคนในแถวถือใบผ่านเข้าเมือง
แต่ก็ยังสงบนิ่งได้อยู่ (เพราะความง่วงมีมากกว่า)
พอแถวขยับมาเรื่อย ๆ จนถึงคิวเราก็ยื่นพาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาสไปด้วยความมั่นใจ และตื่นเต้นพอสมควร แต่ก็เตรียมคำตอบที่คิดว่าน่าจะโดนถามเอาไว้มาในหัว เจ้าพนักที่ชายสวมแว่นตามองหน้าเราแล้วถามว่า มากี่วัน เราก็ตอบไปสั้น ๆ ว่า 4 วัน เขาก็พยักหน้าแล้วประทับตราแล้วส่งพาสปอร์ตคืนให้ เราส่งยิ้มสยามแล้วบอกเขาไปว่า “แฮปปี้นิวเยียร์” เจ้าหน้าที่ชะงักไปเล็กน้อยแล้วตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มที่เจืออยู่บนหน้า “แฮปปี้นิวเยียร์”
เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตามหน่อยเพราะมาช่วงตรุษจีนนี่นะ
พอเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่าต้องมีคำว่า ลูนาร์ ด้วย เราก็ลืมไป ตอนนั้นคิดยังไงไม่รู้ถึงได้พูดออกไป แต่พอคิดว่าได้รอยยิ้มงงๆกลับคืนมาก็โอเคอยู่มั้ง
สรุปว่าใช้เวลาไปกับการรอผ่านเข้าเมืองประมาณ 45 นาที โดยไม่ได้เจอปัญหาอะไรเลย
แต่ 45 นาทีนี่ก็ดูซีรีส์ได้ตอนนึงเลยเนอะ
พอเดินผ่านตม.มาแล้วก็เดินออกมาตรงจุดรับกระเป๋า เรากวาดสายตามองหาว่าสายการบินเราต้องรับที่สายพานไหน พอเจอแล้วก็เดินไปยังจุดหมาย มองเห็นกระเป๋าเดินทางสีแดงไวน์กำลังมุ่งหน้ามาทางเราพอดี ดูเหมือนวันนี้จะจังหวะดี ทำเอาใจชื้นขึ้นมาหน่อย
พอลากกระเป๋าลงมาแล้วก็จัดการยัดเป้อีกใบใส่เข้าไปในกระเป๋าเดินทางใหญ่ใหญ่ เตรียม Easy Pass ให้พร้อม สลับเงินไทยกับเงินไต้หวันในกระเป๋าตังค์ แล้วเดินไปทางสถานี MRT เพื่อเข้าเมือง ขั้นตอนแรกที่ทำเลยคือเติมเงินใน Easy Pass เพราะไม่แน่ใจว่าเงินที่เหลืออยู่จะพอให้เราไปถึงในเมืองได้ไหม สาว ๆ กลุ่มข้างหน้าเราดูวุ่นวายกับการซื้อตั๋วโดยสารประมาณนึง อาจจะมาเป็นครั้งแรกเพราะได้ยินเสียงพึมพำว่าอยากเข้าไปซื้อบัตรลายน่ารัก ๆ มากกว่าจะซื้อบัตรมาตรฐานจากตู้ เราเผลอยิ้มมุมปากแล้วคิดว่า เออ... พี่เข้าใจนะน้อง แต่ช่วยหลบก่อนได้ไหมเพราะขวางทางมากแม่คุณ และดูเหมือนคนนึงในกลุ่มจะฉุกคิดขึ้นมาได้เลยบอกว่า “หลบก่อน ๆ ให้เขาก่อน”
ดีมากค่ะน้อง
เราเช็คเงินในบัตรมีอยู่ 160 NTD แน่ะ (ค่ารถไฟเข้าเมือง 150 NTD) แต่เราก็เติมเผื่อ ๆ ไปก่อน 1000 NTD เพราะยังไงก็ใช้ซื้อของได้ พอคิดว่าทุกอย่างพร้อมแล้วก็ลากกระเป๋าผ่านประตูลงไปยังชั้นชานชาลา รถไฟเข้าเมืองเขาดูดีมาก ขบวนที่จอดรอผู้โดยสารเป็น Express พอดีเลยเดินเข้าไปแบบไม่ลังเลแล้ววางกระเป๋าตรงจุดที่เตรียมไว้ให้ก่อนจะเลือกที่นั่งริมหน้าต่างแล้วถ่ายรูปส่งไปให้คนที่บ้านดู
พร้อมแล้ว
ไหน ๆ ก็ส่งให้คนที่บ้านดูก็อัพอินสตาแกรมด้วย เสร็จแล้วก็ส่งให้เพื่อนดูอีก ไม่ได้ติดโซเชียลเลยจริง ๆ ค่า
Olympus mju ii + Agfa Vista 400
Olympus mju ii + Agfa Vista 400
ว่าแต่เราพร้อมแล้วจริง ๆ เหรอ
เพราะกระเพาะอาหารมันส่งเสียงร้องอีกแล้ว
Nikon FE + Fuji X-tra 400
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in