เรื่องย่อหลังปก
เมื่อเจ็ดปีก่อนในวันเดียวกันนี้ นางมีอายุเพียงสิบเอ็ดปีเท่านั้น เนื่องจากเหตุผลบางประการที่ไม่สามารถบอกใครได้ ทำให้นางอาศัยช่องโหว่ของกฎระเบียบในวังหลวงปลอมตัวเข้ามาเป็นขันที เพื่อสืบหาหลักฐานที่จะล้างมลทินให้บิดาและครอบครัวที่ถูกฆ่าตาย แต่เมื่อคิดไปคิดมาแล้วเถียนชีกลับไม่มีวิธีใดที่จะพิสูจน์ได้ว่านางเป็นบุตรสาวของจี้ชิงอวิ๋นจริง ๆ ทั้งยังไม่มีหลักฐานใดที่จะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของบิดาได้ เพราะนางยังหาโครงกระดูกของพวกเขาไม่พบ อีกทั้งตัวนางเองก็เป็นสตรีที่ปลอมตัวเข้ามาเป็นขันที ตัวตนในตอนนั้นของนางมันเสี่ยงมาก หากบอกไปแล้วฮ่องเต้ไม่เชื่อแล้วจับนางไป เช่นนั้นนางก็ไม่มีทางที่จะล้างมลทินให้กับบิดาได้อีกแล้ว
เถียนชีถอนหายใจเฮือกแล้วปีนกลับไปบนโครงไม้เหนือเตียงนอนที่นางได้ทำขึ้นมาเองแล้วปลดมุ้งลงมาคลุมเตียงเอาไว้ เมื่อเถียนชีได้อยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ ของตัวเองในมุ้งแห่งนี้ อารมณ์ของนางก็ค่อย ๆ สงบลง แต่เมื่อนึกถึงเหตุการที่เพิ่งเผชิญมาก็รู้สึกกลัวและไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับนาง
ทำอย่างไรดี? ฝ่าบาทจุมพิตนางเสียแล้ว และครั้งนี้ก็ไม่ใช่การเป่าปากด้วย แต่เป็นการจุมพิตจริง ๆ ! หากเป็นผู้อื่นที่ทำการล่วงเกินเช่นนี้ นางคงจะตบเขาให้หน้าหันไปเลย แต่อีกฝ่ายกลับเป็นถึงฮ่องเต้ผู้สูงศักดิ์ ซึ่งฮ่องเต้สั่งประหารใครสักคนก็ยังไม่ผิดกฎหมายบ้านเมือง เช่นนั้นนับประสาอะไรกับการจุมพิตขันทีคนหนึ่งกันเล่า?
ช้าก่อน... นางเป็นขันที แล้วเหตุใดฝ่าบาทถึงได้มาจุมพิตขันทีเช่นนางเล่า?
หรือว่าเขารู้แล้วว่านางเป็นสตรี?
ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะหากเขารู้แล้วจริง ๆ นางก็คงจะตายไปนานแล้ว
เช่นนั้นแล้วเหตุใดเขาถึงได้จุมพิตขันทีคนหนึ่งเล่า? เขาตัดใจจุมพิตไปได้อย่างไรกัน...
หรือว่าฝ่าบาทจะทรงเป็นพวกตัดแขนเสื้อ?
คุยกันหลังอ่าน
ก็รวมๆเราคิดว่าแนวปัจจุบันเค้าเขียนสนุกดีนะ แต่แนวพีเรียดเรายังไม่ได้ชอบขนาดนั้นแบบไม่ถึงกับชอบมากกอะไรอย่างนี้ แล้วก็เค้ามีลายเซ็นคืองานเขียนเค้าให้ฟีลขี้เล่นๆ แบบทะลึ่งตึงตังหน่อย เรื่องนี้ก็ฟีลนั้นมาตั้งแต่ชื่อเรื่องเลยค่ะ
ตอนอ่าน
ฮองเฮาผู้ไร้คุณธรรม เราคิดว่าเรื่องเบาไปนิดนึงแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไร แต่เรื่องนี้ดีกว่ามาก เรื่องนี้เริ่มจากนางเอกปลอมตัวเข้าไปเป็นขันทีด้วยสาเหตุอะไรบางอย่างที่เรื่องยังไม่เฉลยมาตอนเล่มหนึ่ง แล้วก็นั่นนี่ไปมาจนเป็นต้องตาฮ่องเต้เข้า ก็ตามสูตรฮ่องเต้ก็สับสนว่าเอ๊ะ เราชอบผู้ชายรึเปล่าอะไรทำนองนี้ ที่โดดเด่นคือเรื่องนี้อารมณ์ขันทำได้ดีมาก มีหลายฉากเลยที่เราหัวเราะออกเสียง แบบเค้ายิงมุกเก่ง แล้วก็มีหลายฉากที่ขำจริง เราค่อนข้างชอบอารมณ์ขันคนเขียนตั้งแต่
ช่วงเวลาอันแสนหวานแล้วล่ะค่ะ
เรื่องนี้ทั้งพระเอกอย่างจี้เหิงที่เป็นฮ่องเต้ หรือจี้เจิงหนิงอ๋องที่เป็นน้องชายฮ่องเต้ก็ชอบนางเอกทั้งๆที่ไม่รู้ว่านางเอกเป็นผู้หญิงทั้งคู่ แล้วก็มีลูกชายฮ่องเต้อย่างหรูอี้ที่น่ารักมากๆด้วย
อ่านเล่ม 1 จบเราคิดว่าสนุกๆ ดีอะ แบบขำๆ ใช้ได้เลย แต่บางฉากแอบมีฟีล dub con นิดนึงนะ
แล้วก็ได้ข่าวมาว่านี่เป็นเวอร์ชั่นที่ฮ่องเต้สำรวมแล้ว (คือเซนเซอร์มาแล้วนั่นเอง) จริงๆเซนเซอร์มาแล้วก็ยังค่อนข้างทะลึ่งๆนิดๆ อยู่ดี เอาจริงๆอยากอ่านฉบับไม่ได้เซนเซอร์มากค่ะ แบบว่าไหนๆก็ไหนๆแล้วไม่ใช่เหรอ!
เรื่องย่อหลังปก
ในเย็นวันนั้นเถียนชีถูกจี้เจิงพาตัวเข้ามาในวังหลวง สีหน้าของจี้เจิงเคร่งเครียดและดูมิสู้ดีนักอยู่ตลอดเวลา เมื่อเดินมาถึงตำหนักเฉียนชิงเขาก็หยุดแล้วก้มหน้ามองสบตาเถียนชีพร้อมกับกระซิบ “จำเรื่องที่ข้ากำชับเจ้าไว้ให้ดีล่ะ”
เถียนชีพยักหน้าตอบรับอย่างจริงจัง จี้เจิงกำชับนางว่าห้ามให้ฮ่องเต้รู้ว่าเป็นสตรีเป็นอันขาด มิเช่นนั้นนางจะต้องตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน อันที่จริงเรื่องนี้จี้เจิงไม่จำเป็นต้องบอก เถียนชีก็รู้ดีอยู่แล้ว นางเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและรู้สึกผิดของจี้เจิงจึงพูดกับเขา “ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ขอขอบคุณเจ้าจริง ๆ ...แล้วก็ขอโทษด้วย...”
จี้เจิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วเจ้าไม่ต้องพูดเช่นนี้กับข้าแล้ว ดูแลตัวเองให้ดี หวังว่าจะมีสักวันหนึ่งที่ข้าจะสามารถพาเจ้าออกจากวังหลวงแห่งนี้ได้อย่างสง่าผ่าเผย”
“อื้ม” เถียนชีพูดพลางหันไปมองตำหนักเฉียนชิง คืนนี้ท้องนภามืดสนิทมีเพียงแสงริบหรี่จากดวงดาว ทำให้ตำหนักดูมืดมิดน่าเกรงขามยิ่งขึ้นไปอีก แสงไฟจากโคมไฟสีแดงส้มที่เรียงรายอยู่สองข้างทางด้านหน้าตำหนักส่องสว่างจนเห็นลายและสีสันอันงดงามของไม้ที่แกะสลักตามผนังและชายคาของตำหนักได้อย่างชัดเจน เมื่อมองจากที่ไกล ๆ แล้วแสงสว่างรำไรเหล่านั้นดูเหมือนกับไข่มุกราตรีเม็ดใหญ่ที่จมอยู่ใต้ ทะเลลึก
กลางไข่มุกราตรีนั้นมีคนผู้หนึ่งยืนอยู่ เขามีผมยาวสลวยสีดำสนิทสวมชุดคลุมมังกรสีทอง ยืนเด่นตระหง่านอยู่อย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด เนื่องจากพวกเขาอยู่ห่างกันเกินไปจึงไม่เห็นว่าสีหน้าในตอนนี้เป็นอย่างไร
คุยกันหลังอ่าน
จริงๆ ถ้าพูดถึงพลอตต้องบอกว่าดำเนินเรื่องค่อนข้างเร็วแต่มันไม่ได้รู้สึกว่าเร็วเลยอะ แอบมีช่วงที่รู้สึกอืดๆ ด้วย ในเล่มสองนี้ คือฮ่องเต้ทั้งรู้ตัวว่านางเอกเป็นผู้หญิง จี้เจิงรู้ว่านางเอกเป็นผู้หญิง ต่อมายังถูกขุนนางซุนโจมตี แล้วก็มีการสืบเรื่องของพ่อนางเอกอีก แล้วก็ไหนกว่าจะลงเอยกันได้ ทุกอย่างอยู่ในเล่มนี้่ แต่มันก็เล่าด้วยสำเนียงแบบขำขันแบบเดิม คือมันก็ดีนะ แบบชิวๆ ตลกๆ ไม่ได้ดราม่ามาก ถึงแม้ว่าถ้าอยากขยี้ดราม่าก็น่าจะดราม่ามากก็ตาม
ปมไม่ซับซ้อนเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ได้เล่าออกมาแบบซับซ้อนด้วย ตัวพระเอกรักนางเอกมาก แล้วก็ด้วยความที่เล่าแบบค่อนข้างตลก นิสัยพระเอกเองก็ค่อนข้างลามกแล้วก็เน้นเรื่องนี้ด้วย ทำให้คนอ่านก็จะรู้สึกสนิทสนม(?)กับฮ่องเต้หน่อย คืออาจจะไม่ค่อยรู้สึกถึงรัศมีฮ่องเต้ อย่างเวลาคนเขียนบอกว่า เวลาจี้เหิงทำงานก็จะกลับไปเป็นฮ่องเต้ที่เฉียบขาดแล้วก็เก่งเหมือนเดิมแต่คนอ่านไม่ได้สัมผัสส่วนนั้น เลยอาจจะไม่รู้สึก รวมถึงช่วงแก้ไขปัญหาให้นางเอกก็ยังรู้สึกว่า...ไม่ได้เก่งขนาดนั้นด้วย แต่ก็นับว่ามีใจ คือยังไงก็รักนางเอกมากอยู่ดี
พระรองอย่างจี้เจิงเล่มแรกน่ารักดี เล่มสองค่อนข้างน่ารำคาญ 5555555 ส่วนเพื่อนของนางเอกอีกสองคนก็ไม่ได้มีบทอะไรให้ประทับใจเท่าไหร่
แล้วก็อันนี้ส่วนตัวนะ มันมีบางช่วงที่เรารู้สึกกระอักกระอ่วนกับการพูดเรื่องรักเพศเดีียวกันในเรื่องนี้ แอบรู้สึกว่าบางพารากราฟแอบโฮโมโฟบ แต่ก็เข้าใจได้แหละ มันอาจจะเป็นด้วยเซตติ้งของพีเรียดอะมั้ง
แต่อารมณ์ขันคนเขียนดีเลย บางฉากที่ขำคือขำจริงเลยค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in