เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
หนังสือและตัวฉันCartoon Sutcharee
หากโลกนี้ไม่มีหนังสือ: To read or Not to read, That Is My Question



  • ชื่อภาษาอังกฤษดูจะตรงประเด็นกับเนื้อความข้างในมากกว่าชื่อภาษาไทย ชื่อภาษาไทยนี่ไม่ค่อยจะสื่อ


    เลือกเล่มนี้จากตู้เพราะดูตัวหนังสือน้อย เอามานอนอ่านฆ่าเวลาตอนกลางวัน 


    ตอนซื้อเนี่ยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเนื้อเรื่องเป็นยังไง 

    พอได้อ่านเท่านั้นแหละ โอ้โหชอบมาก 

    หนังสือกวนประสาทสุดๆ


    แก่นของหนังสือนี้ก็คือ 

    คนชอบอ่านหนังสือไม่ผิด คนไม่ชอบอ่านหนังสือก็ไม่ผิด 

    คืออออ โคตรโดนใจ 


    หนังสือพูดถึง


    เด็กชายคนหนึ่งที่พ่อเปิดร้านหนังสือและกำลังจะปิดตัวลงเพราะคนเริ่มอ่านน้อยลง ได้ชวนเพื่อนๆมาเปิดวงสนทนาว่า ทำไมเด็กๆถึงไม่รักการอ่านหนังสืออีกต่อไปแล้ว 


    ทีนี้เจ้าเด็กชายเนี่ย ก็เปิดพรีเซ็นเตชั่นที่พ่อเขาทำไว้ เป็นพรีเซ็นต์ที่รวม quote ของคนดังที่พูดถึงหนังสือ


    พรีเซ็นเตชั่นเปิดไปเรื่อยๆแต่ละหน้า quote ก็ขึ้นมาแต่ละ quote จุดที่น่าสนใจคือไม่ใช่ quote พวกนั้น แต่เป็นความคิดเห็นของเด็กๆที่มีต่อ quote เหล่านั้น 

    มันตลกมากกกกกก ตลกจนหัวเราะออกมา แต่ละอันคือคิดได้ไงก่อน ชอบมาก มันสั้น กระชับ สุดแสนจะจริงใจ


    หนังสือเน้นภาพ เป็นนิทานสำหรับผู้ใหญ่ 

    และตอนอ่านควรดูรูปไปด้วย



    สิ่งที่คิดหลังอ่านเล่มนี้จบ 


    เรามักพูดเสมอว่า การอ่านหนังสือเป็นงานอดิเรก เป็นความชอบส่วนตัว เป็นรสนิยมของใครของมัน งานอดิเรกมีได้หลายแบบไม่ต้องซ้ำกันก็ได้ และการชอบอ่านหนังสือไม่ได้ทำให้เราดูฉลาดหรือดีไปกว่าคนอื่น 


    คนที่ไม่อ่านหนังสือ ไม่ชอบอ่าน แต่ชอบทำอย่างอื่น ก็ไม่แปลก งานอดิเรกทุกงานมีคุณค่าถ้าเราให้ค่ากับมัน มันคือสิ่งที่เราชอบ มันสร้างให้ความรู้สึกที่ดีกับเรา เพราะฉะนั้น การอ่านหนังสือมันไม่ได้มีประโยชน์ไปกว่าการเล่นเกม หรือดูซีรีย์เลย


    ลางเนื้อชอบลางยา ใช่ไหมนะคำนี้ที่เขาพูดกัน


    เรามักโดนถามด้วยคำถามท็อปฮิตคือ ทำยังไงให้ชอบอ่านหนังสือ เราแบบ เห้ยยยย จะไปตอบได้ยังไง ตอบไม่ได้  ยากมากก มันคือความชอบและความชอบมันบังคับกันไม่ได้เว้ย บ้าจริง! 


    หรือแบบลูกไม่ชอบอ่านหนังสือทำไงดี

    เอ้าแล้วทำไมอยากจะให้ลูกอ่านหนังสือ อันนี้ก็งง

    ไม่ชอบก็ไม่ชอบ ไม่ชอบก็ไปทำอย่างอื่นสิ 

    มีอะไรให้ทำตั้งเยอะแยะ


    คนอ่านหนังสือไม่ได้เลิศเลอกว่าคนไม่อ่าน 

    คนอ่านหนังสือไม่ได้ฉลาดกว่าคนไม่อ่าน 

    คนอ่านหนังสือไม่ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์กว่าคนไม่อ่าน


    ในโลกนี้มันก็มีอะไรให้ทำนอกเหนือจากการอ่านนะ 



    มีประโยคในหนังสือเล่มนี้ที่เราชอบมากมาก 

    อ่านแล้วเหมือนตีแสกหน้าเลยก็คือ 


    “เราใช้เวลากับการเลือกซื้อหนังสือ แต่ไม่เคยมีเวลาได้อ่านมัน ช่างย้อนแย้ง ลึกล้ำ ไร้จุดจบ” 


    คิดได้ไงอะ สุดมากจริง เหมือนด่าฉันเลยล่ะ 



    จบ 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in