เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[JackBam] Angels /GOT7 FanFictionChunari_CJ
Chapter 9.5 : Hangover (Short)
  • แสงสว่างจากจอคอมพิวเตอร์ที่ถูกเปิดทิ้งไว้กระพริบเล็กน้อยก่อนจะดับลงเพราะไม่มีความเคลื่อนไหวมากกว่า15 นาที มือเรียวเอื้อมมาแตะที่แพดเพื่อเปิดหน้าจอ ภาพกราฟรายงานผลและตารางเดิมก่อนที่หน้าจอจะดับไปสว่างขึ้นมาอีกครั้ง  เคอร์เซอร์กระพริบถี่ๆอยู่ตรงส่วนที่ควรจะมีรายละเอียดหรือคอมเม้นท์สรุปผล แต่ก็ไม่มีตัวหนังสือเพิ่มขึ้นมาแม้แต่ตัวเดียวสมาร์ทริสแบนด์ที่ข้อมือขาวมีเสียงเตือนเป็นระยะจากการส่งข้อความ ข้อมูลต่างๆภายในแผนก 

     

    หัวที่หนักและปวดหนึบราวกับสิ่งที่อยู่ข้างในไม่ใช่สมองทำให้จินยองล้มเลิกความตั้งใจที่จะทำงานแล้วทิ้งน้ำหนักตัวลงพนักเก้าอี้  โลกรอบๆ ตัวเหมือนกำลังถูกเหวี่ยงไปมาในทิศตรงข้ามกันนานแล้วที่เขาไม่เคยมีอาการเมาค้างแบบนี้ เพราะเขาเป็นคนไม่ชอบดื่มสักเท่าไหร่แต่แชมเปญกับไวน์ชั้นดีในงานเลี้ยงเมื่อคืนทำให้เขาเพลิดเพลินจนลืมไปว่าเขาไม่ใช่คนคอแข็งอย่างเจบีบวกกับที่ต้องรอให้รถของที่บ้านมารับนานกว่าปกติ ทำให้เขาเลิกนับจำนวนแก้วที่บริกรผ่านมาเสิร์ฟแลกมาด้วยอาการปวดหัวจนแทบระเบิดในตอนเช้าที่ตื่นนอนแต่เขาก็ยังลากสังขารมาทำงานจนได้

     

    จินยองควานหากระปุกยาในลิ้นชักอย่างสะเปะสะปะจนเจอยาสองเม็ดถูกกลืนลงคออย่างไม่ยี่หระแล้วค่อยตามด้วยน้ำอึกใหญ่เสียงเตือนแมสเสจที่ข้อมือยังดังอย่างไม่หยุดหย่อนตามโพรเซสการทำงานในเช้าของทุกวันแต่วันนี้กลับดูน่ารำคาญมากกว่าปกติ

     

    หัวหน้าแผนกวิจัยลุกขึ้นอย่างหมดความอดทนริสแบนด์ที่ข้อมือถูกถอดออกแล้ววางทิ้งไว้บนโต๊ะอย่างไม่แยแส ก่อนร่างที่เคยยืดตรงอย่างสง่างามตลอดเวลาจะเดินโซเซเล็กน้อยออกจากแผนกมุ่งหน้าไปยังสถานที่เดียวในสถาบันที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด

     

    สายลมเย็นในระดับที่คุ้นเคยพัดปะทะใบหน้าเมื่อประตูอัตโนมัติในอุโมงค์แก้วเปิดออกช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย แสงแดดอ่อนๆ ตามธรรมชาติที่ส่องผ่านโดมกระจกไม่ชวนให้แสบตาเหมือนแสงเทียมสว่างจ้าในแผนกวิจัย จินยองเดินไปตามทางเดินเลียบลูกกรงสีดำสนิทจุดมุ่งหมายของเขายังเป็นที่เดิมที่เขาชอบที่สุดที่เดียวกับที่แองเจิ้ลส์น้อยชอบมานั่งเล่นเป็นประจำ ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมทะเลสาบ

     

    ชายหนุ่มมองหาร่างเล็กสีขาวที่คุ้นเคยขณะที่กำลังเปิดประตูแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ภายในโดมมีแต่เสียงนกร้องระงมอยู่ทั่วไป

     

    “ปกติก็ตื่นประมาณนี้นี่นาหรือวันนี้จะตื่นสาย” จินยองพึมพำกับตัวเองเบาๆ เขาไม่อยากตะโกนเรียกแบมแบมเพราะคิดว่ายังเช้าเกินไปแล้วเขาเองก็แค่อยากจะมาพักผ่อน ชายหนุ่มเดินตรงไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนพื้นหญ้านุ่ม สายลมเย็นกับแสงแดดอุ่นๆ ทำให้หัวหน้าแผนกวิจัยผล็อยหลับไปแทบจะในทันที

     

    .

    .

    .

    ความเคลื่อนไหวข้างๆ ปลุกให้ชายหนุ่มรู้สึกตัวแสงแดดที่ส่องลอดใบไม้มาเริ่มให้ความรู้สึกร้อนแสดงว่าเขาหลับไปนานพอควร  ร่างสีขาวของแองเจิ้ลส์น้อยขยับยุกยิกอยู่ข้างๆเหมือนกำลังทำอะไรสักอย่าง แต่ไม่อยากทำให้เขาตื่น

     

    “แบมแบม มาแล้วเหรอ” หัวเล็กๆสีขาวนั่นหันขวับมาหาเขา แววตาเป็นห่วงสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

     

    “จีน... ตื่นแล้ว” 

     

    “อื้ม ตื่นแล้วล่ะ”ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งแล้วบิดขี้เกียจ อาการเมาค้างเมื่อเช้าหายไปเกือบหมดแล้ว

     

    “ป่วยเหรอ..” เสียงเล็กเจือความกังวลตากลมโตใสแจ๋วเคลื่อนเข้ามาใกล้หน้าเขาจนเกือบชิด

     

    “เปล่าหรอก แค่เมาน่ะ”  จินยองยิ้มให้แองเจิ้ลส์น้อยแล้วเอื้อมมือไปลูบหัวเล็กๆนั่นอย่างอ่อนโยน

     

    “เมา?” 

     

    “ใช่ ไม่เป็นอันตรายหรอกไม่ต้องเป็นห่วงนะ” แองเจิ้ลส์น้อยพยักหน้ารับแล้วหันกลับไปหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาเล่นต่อจินยองกระเถิบตัวขึ้นเพื่อที่จะได้นั่งพิงต้นไม้ได้ถนัดๆ เขาจึงเห็นว่าสิ่งที่อยู่ในมือของแองเจิ้ลส์น้อยเป็นใบหญ้ายาวเรียวที่มือเล็กกำลังจับมันสานเข้าด้วยกันจินยองเฝ้ามองมือของแบมแบมที่ทำงานอย่างคล่องแคล่ว ตุ๊กตาสานเริ่มเป็นรูปเป็นร่างและรูปร่างที่ออกมาคือสิ่งที่แองเจิ้ลส์น้อยสนใจเอามากๆ ในตอนนี้

     

    “เต่าอีกแล้วเหรอ”  จินยองยื่นมือไปขอตุ๊กตามาดูทันทีที่แองเจิ้ลส์น้อยทำเสร็จเจ้าตัวหัวเราะคิกคักกับเต่าน้อยก่อนจะส่งมันให้ชายหนุ่ม

     

    “ทำไมอยู่ดีๆ ถึงชอบเต่าล่ะ”จินยองยกตุ๊กตาเต่าสานขึ้นมาส่อง แบมแบมส่ายหน้าก่อนจะหัวเราะออกมา ใบหน้าขาวขึ้นสีชมพูระเรื่อแต่ก่อนที่จินยองจะถามอะไรต่อ เสียงโครกครากจากท้องของเขาก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ

     

    “โอ้ หิวจังแฮะเมื่อเช้ากินอะไรไม่ได้เลยนี่เนอะ ฉันคงต้องไปหาอะไรกินก่อนแล้วล่ะแบมแบม”  จินยองเตรียมตัวจะลุกเพื่อกลับไปที่แผนก แต่แองเจิ้ลส์น้อยผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วข้างๆเขา

     

    “จีน  รอนะ”แองเจิ้ลส์น้อยพูดเพียงแค่นั้นก็วิ่งหายลับไป ดูจากทิศทางแล้วน่าจะกลับไปที่รังจินยองทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งรอความหิวเริ่มทวีขึ้นเมื่อร่างกายกลับมาทำงานเป็นปกติ แต่เพียงครู่เดียวเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของแองเจิ้ลส์น้อยที่กำลังวิ่งกลับมาจินยองหันกลับไปดู แต่แองเจิ้ลส์น้อยก็ทรุดลงมานั่งข้างๆ เขาเรียบร้อยในมือมีถุงขนมสีหวานแปลกตาที่เขาไม่เคยเห็น

     

    “กินสิ...” แองเจิ้ลส์น้อยยิ้มกว้างยื่นถุงขนมที่มีตัวหนีบอยู่ด้านบนมาให้เขา ใบหน้าเล็กๆ นั่นเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจที่ได้แบ่งขนมให้เขากิน

     

    “ขนมเหรอ เอามาจากไหนเนี่ย”  จินยองรับถุงขนมมาแกะตัวหนีบออก ถึงแม้ดูๆแล้วขนมเด็กๆ คงไม่ช่วยเติมกระเพาะของเขาสักเท่าไหร่  แต่รอยยิ้มกว้างแบบเด็กน้อยนั่นทำเอาเขาขัดใจไม่ลง

     

    “แจ็คให้” รอยยิ้มให้เขาที่ว่ากว้างแล้วยิ่งกว้างไปกว่าเดิมเมื่อพูดถึงคนที่ให้ขนมมา

     

    “แจ็คสันน่ะนะ”  จินยองถามซ้ำ เขาเพิ่งเจอแจ็คสันเมื่อคืนที่งานเลี้ยงแล้วก็เพิ่งจะเมื่อคืนนี้เองที่แจ็คสันถามเขาว่าแบมแบมห้ามกินอะไรบ้าง แล้วตอนนี้ขนมก็มาอยู่ในมือของแบมแบมแล้วแสดงว่าแจ็คสันจะต้องมาหาแบมแบมเช้ากว่าที่เขาเข้ามามาก

     

    “ใช่ แจ็ค.. มีขนม.. เยออออออะ”  แบมแบมอ้าแขนกว้างแสดงจำนวนขนมที่แจ็คสันมีแต่อยู่ๆ แองเจิ้ลส์น้อยก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ รอยยิ้มกว้างหุบลงอย่างห่อเหี่ยวมือสองข้างลดลงมาเกาะที่ต้นขาของชายหนุ่ม

     

    “แบมแบม.. กินได้มั้ย”  จินยองแอบขำท่างทางของแองเจิ้ลส์น้อยอยู่ในใจเด็กน้อยคงกลัวว่าจะถูกดุที่รับของก่อนโดยที่ไม่ได้ถามเขาหรือเจบี มือที่เกาะขาเขากับสายตาเว้าวอนเหมือนกับลูกแมวตัวน้อย

     

    “กินได้สิแบมแบมไว้ใจแจ็คสันใช่มั้ย ถ้าแบมแบมไว้ใจ ฉันก็ไว้ใจเหมือนกันฉันบอกแจ็คสันไปแล้วว่าแบมแบมกินอะไรไม่ได้ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ” แองเจิ้ลส์น้อยยิ้มกว้างอย่างดีใจมือเล็กล้วงถุงขนมแล้วหยิบมาร์ชเมลโล่ขึ้นมาใส่ปากเด็กน้อยคงลืมไปแล้วว่าเอาขนมมาให้เขา จินยองจึงล้วงขนมขึ้นมากินด้วยถึงมาร์ชเมลโล่จะไม่ช่วยเติมกระเพาะของเขาเท่าไหร่ แต่น้ำตาลก็พอจะช่วยทำให้หายหิวไปได้เหมือนกัน 

     

    จินยองมองแองเจิ้ลส์น้อยเคี้ยวมาร์ชเมลโล่ตุ้ยๆด้วยความเพลิดเพลินท่าทางที่เต็มไปด้วยความสุขนั่นทำเอาเขาอดนึกถึงวันแรกที่ได้เห็นแบมแบมไม่ได้ร่างเล็กเปลือยเปล่าในห่อผ้าที่เจบีอุ้มกลับมาที่สถาบันเต็มไปด้วยบาดแผลปีกที่ไม่ได้กางออกจากหลังทำเอาเขาตกใจจนนึกว่าเป็นเด็กมนุษย์ทั่วไปยกเว้นสีผมที่ดูจะผิดแปลกจากทั้งมนุษย์และแองเจิ้ลส์แต่ก็ค่อนไปทางแองเจิ้ลส์มากกว่า

     

    แผลของแบมแบมสมานตัวช้าทั้งๆที่แองเจิ้ลส์มีความสามารถฟื้นฟูเซลล์ได้รวดเร็วกว่ามนุษย์หลายเท่าตัว ราวกับจะตอบสนองความไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ของเจ้าตัวต้องใช้เวลานานหลายวันกว่าแบมแบมจะรู้สึกตัว บวกกับท่าทีหวาดกลัวมากกว่าปกติความหวาดระแวงนั้นต่างจากการหวาดระแวงสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างจากตน แต่เป็นความหวาดระแวงในแบบผู้ถูกกระทำมากกว่าเขากับเจบีต้องใช้เวลาเกือบปีถึงจะทำให้แบมแบมไว้ใจได้ในที่สุด

     

    ใกล้จะครบห้าปีแล้วที่แบมแบมมาอยู่ที่สถาบันบวกกับเวลาที่เขาพยายามให้แบมแบมนับจากฤดูกาล (เพราะแองเจิ้ลส์ไม่รู้วันเดือนปี) รวมๆแล้วก็เกือบยี่สิบปีแล้วที่แบมแบมอยู่ในวัยเด็ก แองเจิ้ลส์ส่วนใหญ่จะจับคู่แล้วเปลี่ยนเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุประมาณ15 – 20 ปี นานที่สุดที่เขาเคยพบไม่มีใครเกิน 20 ปีมาก่อนตอนนี้คงใกล้เวลาจับคู่ของแบมแบมมากแล้ว

     

    มือเล็กยังคงส่งขนมเข้าปากอย่างต่อเนื่องแต่อยู่ดีๆ ก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นแล้วทำปากยื่นเหมือนกำลังงอนอะไรสักอย่างแล้วจึงหยิบถุงขนมขึ้นมาพับปากอย่างดีแล้วหนีบตัวหนีบกลับเข้าไปเหมือนเดิมเป็นอันว่าเขาก็ต้องเลิกกินด้วยเช่นกัน

     

    “กินเยอะ ไม่ได้”แองเจิ้ลส์น้อยหันมาบอกเขา

     

    “ทำไมล่ะ”

     

    “แจ็คบอก ฟันผุ”แองเจิ้ลส์น้อยทำหน้างอ จินยองอยากจะหัวเราะให้ลั่นโดมฟันของแองเจิ้ลส์ไม่เหมือนของมนุษย์ ถึงจะสามารถผุได้ แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้ผุง่ายขนาดนั้น

     

    “แบมแบม.. ใกล้จะได้เวลาจับคู่แล้วนะ  กลัวรึเปล่า”จินยองเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อเห็นว่าแองเจิ้ลส์น้อยทำหน้าบูดไม่เลิก แล้วก็ได้ผลแองเจิ้ลส์น้อยเลิกทำหน้าบูด แต่กลับเปลี่ยนเป็นความเศร้าจางๆ แทนพร้อมกับส่ายหน้าให้เขาเป็นคำตอบ

     

    “นั่นสิ ไม่ต้องกลัวอยู่แล้วรับรองว่าฉันกับเจบี จะช่วยกันหาเมทของแบมแบมให้เจอให้ได้เลยนะ” จินยองดึงเด็กน้อยเข้ามากอดเพื่อปลอบประโลมถึงแองเจิ้ลส์น้อยจะไม่ได้มีท่าทีเศร้ามากมายนัก ดูจะนิ่งเฉยซะมากกว่าแต่ชายหนุ่มก็อยากให้เด็กน้อยมั่นใจ

     

    “แบมแบมก็รู้ ว่าเจบีเก่งมากแค่ไหนเจบีต้องหาเค้าเจอแน่นอน ว่าแต่.. ฉันไม่รู้ว่าจะถามดีมั้ย แต่ว่า ฉันอยากรู้ว่าแองเจิ้ลส์ที่เป็นเมทของแบมแบมมีชื่อรึเปล่า แบมแบมรู้มั้ย”

     

    จินยองกลั้นใจถามคำถามที่เขาคาใจมาตลอดแต่ไม่กล้าถามแต่ยิ่งเวลาใกล้เข้ามาเท่าไหร่การมีข้อมูลให้เยอะที่สุดก็จะยิ่งทำให้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น หัวเล็กสีขาวที่ซบอยู่กับอกของเขาขยับเป็นเชิงตอบรับ

     

    “มีเหรอ เธอชื่ออะไรบอกฉันได้รึเปล่า..”

     

    เพราะหัวเล็กๆนั่นซบอยู่กับอกจินยองจึงไม่ทันสังเกตุเห็นแววตาเศร้าสร้อยของแองเจิ้ลส์น้อยที่มองไปยังตุ๊กตาเต่าสานที่ตกอยู่ข้างตัว

     

    “เจียเออร์.. ” 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Kad Sutima (@friv_kad)
ยังลงอยู่มั้ยคะ
Chunari_CJ (@chunari)
@friv_kad ลงแน่นอนค่ะ แต่ช่วงนี้งานเยอะมาก เป็นฟรีแลนส์ค่ะ เวลาจะไม่ค่อยสม่ำเสมอ